Tuesday, 20 November 2012 08:25 |
ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้มาที่นี่ แสงแดดตอนเช้าอันสดใสของวันนี้ยังไม่มี มีแต่สายฝนและสายลมที่แสนจะเบาบาง สายฝนวันนี้เปรียบดังน้ำเย็นชโลมจิตใจของข้าพเจ้าและสายลมนี้เปรียบดังอ้อมกอด ความห่วงใยและความเอาใจใส่ของอาจารย์ทุกท่านที่มีต่อข้าพเจ้า มันทำให้ข้าพเจ้าหวนกับไปนึกถึงวันแรกก่อนที่ข้าพเจ้าจะย่างกายเข้ามาอยู่ ณ สถานที่อันสงบ ร่มรื่น แห่งนี้ ข้าพเจ้าพูดกับเพื่อนของข้าพเจ้าว่าเราไม่อยากจะไปเข้าอบรมครั้งนี้เลยเพราะวันเวลาที่ทางคุณครูได้กำหนดมามันนานเกินไป ทำให้จิตใจของข้าพเจ้ารู้สึกท้อแท้และอ่อนไหว ข้าพเจ้าพูดกับเพื่อนว่าขอให้คณะครูเปลี่ยนใจไม่พาเราไปด้วยเถิด เราจะได้อยู่พักผ่อนที่บ้าน อยู่ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง นั่งเล่น เล่นคอมพิวเตอร์ ข้าพเจ้าเป็นคนที่ชอบฟังเพลง ถ้าไม่ได้ฟังเพลงจะนอนไม่หลับ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้าเคยกระทำก็ได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ข้าพเจ้าได้ย่างกายเข้ามาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้าพเจ้าอยากขอขอบพระคุณคณะครู วิทยากร และโชคชะตาที่ได้ทำให้ข้าพเจ้าได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ ที่นี่ วันนี้ เวลานี้และวินาทีนี้มันช่างมีคุณค่าแก่ข้าพเจ้าเหลือเกิน ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักคำว่าสติ และได้ระลึกถึงพระคุณของพ่อแม่อันยิ่งใหญ่ จะหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบมิได้และสิ่งสำคัญคือได้ทำให้ข้าพเจ้าสงบทั้งทางกาย วาจา ใจ และสามารถอยู่ได้โดยใช้สติเหมือนดังคำสุภาษิตที่ว่า “สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดจะเกิดปัญหา”
น.ส.นิตยา อ่ำสันเทียะ ชั้น ม.4 โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ สาวกพี่แบงค์ได้สำนึก
ข้าพเจ้าเคยเข้าอบรม – เข้าค่าย ธรรมะพัฒนาจิตในหลายปี หากนับได้ก็ประมาณ 6 ปีแล้ว ทุกที่ที่ไปเข้ามาก็สอนแตกต่างกันไป และที่สอนเหมือนกันก็เรื่องสมาธิ บุญคุณของบิดา-มารดา ผู้มีพระคุณ แต่ครั้งนี้ได้มาปฏิบัติที่วัดวะภูแก้ว ก่อนจะมาก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากมามาก เมื่อมาถึงก็ชอบมาก รู้สึกประทับใจโดยเฉพาะเรื่องของ พ่อ แม่ ข้าพเจ้าชื่นชอบพี่แบงค์ (clash) มากถึงกับบ้ามากที่สุดเลยก็ว่าได้ ในห้องนอนก็มีแต่รูปพี่แบงค์เต็มฝาผนังห้อง, บนเตียงนอน, ในห้องน้ำ, บนโต๊ะคอมฯ และยังมีสมุดที่เป็นประวัติและรูปพี่แบงค์เล่มใหญ่เล่มหนึ่ง และตู้โทรทัศน์ก็มีแต่ ซีดี/คอนเสิร์ต ของพี่แบงค์ตั้งแต่ชุดแรกยันชุดสุดท้าย แต่ไม่เคยมีรูปพ่อ-แม่ เลย เงินทุกบาทที่ซื้อของพวกนี้ก็มีแต่เงินของแม่เท่านั้น แม่ก็ชอบบ่นว่าจะซื้ออะไรนักหนา คนหาจะเป็นบ้าตายแล้วนะ ข้าพเจ้าไม่สนใจเพราะชอบพี่แบงค์มาก
ครั้งหนึ่งเคยหนีแม่ไปดูพี่แบงค์ที่งานกาชาดประจำจังหวัด แม่ของข้าพเจ้านั่งรอจนกว่าข้าพเจ้ากลับมาตอนประมาณ 22.35 น. ได้ และวันนั้นก็ได้เถียงกับแม่หนักมากว่า “ไปไหนทำไมไม่บอกดีๆ ว่าไปไหน” ข้าพเจ้าไม่สนใจและเงียบ แม่เลยบอกว่า “เงินหามาได้ก็ใช้อย่างเดียว ไอ้แบงค์ดีกว่าแม่ตรงไหน หนูจะชอบอย่างไรแม่ไม่ว่า แม่ไม่ห่วงอะไรมากห่วงแค่เรื่องนี้ (เรื่องพี่แบงค์มันเกินไป หนูเป็นลูกสาวคนเดียวเป็นอะไรมามันคุ้มไหม” แล้วแม่ก็ไปนอน ข้าพเจ้าก็ไปนอน และในวันนี้ได้รู้และสำนึกในคำสอนของแม่และเข้าใจแม่ ข้าพเจ้าจะทำในสิ่งที่แม่ต้องการและไม่ทำให้แม่เสียใจอีกและก็เพราะการอบรมในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้ามีสติที่จะคิดได้ ขอบคุณค่ะ น.ส.รัชนีกร โคตรภักดี ชั้น ม.4/2 โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ หน้าใสโดยไม่ต้องใช้ครีม
เมื่อได้ยินข่าวจาก รอง. สม ว่า จะมีการเข้าค่ายฝึกพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้ว ดิฉันเกิดอาการเบื่อหน่ายขึ้นมาในทันที เพราะรู้แน่นอนเลยว่าต้องไปนั่งสมาธิเกือบครึ่งวัน ถอนหายใจอย่างเต็มแรงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ อดเที่ยวไปตั้ง 5 วัน น่าเบื่อสุดๆ
แต่พอได้ลองมานั่งปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เกิดอาการชอบมากๆ ถึงมากที่สุด รู้สึกว่าตนเองมีจิตใจนิ่งสุขุม เป็นคนนิ่งๆ ได้ จากที่ดิฉันเป็นคนกระโดกกระเดกพูดจาโผงผาง แต่ก็ยังมีอยู่บ้างเล็กน้อย
วันที่ 4 ดิฉันฟังเรื่องดวงใจแม่ น้ำตาดิฉันไหลนอง ความรู้สึกเย็นชา เสียงภายในศาลาเงียบกริบ ราวกับดิฉันนั่งอยู่คนเดียวบริเวณศาลา เมื่อ ดร.ดาราวรรณ บอกให้ถอนจิต หลายคนแน่นิ่งไม่ถอนจิต น้ำตาเต็มหน้า หนึ่งในนั้นมีดิฉันด้วย คิดถึงแม่ อยากกราบแม่(ไม่เคยกราบแม่เลยเพราะอาย) ส่งท้ายกับความรู้สึกที่ดีกับวัดแห่งนี้ โล้งโล่งใจ หลายอย่างที่อึดอัดใจทุกอย่างกลับสบายออกมาหมด หน้าตาแลดูสดใสทั้งๆ ที่ไม่ได้ทาครีม ไม่เคยนั่งสมาธิได้น๊านนานขนาดนี้ น.ส.วรกานต์ โครงชัย ชั้น ม.4/1 โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์
ยอมรับกรรม ตอนแรกที่ได้รู้ว่าจะได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว ผมก็คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก เพราะผมเคยเดินทางมาที่วัดนี้แล้วก็ดูไม่เห็นจะมีอะไร มีแต่ความสงบกับป่าไม้และทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่พอผมได้มาปฏิบัติจริงๆ ผมก็รู้ว่ามันมีอะไรตั้งมากมาย 2 วันแรก ผมรู้สึกเหนื่อยและท้อมาก ผมนั่งสมาธิไม่ค่อยอยู่ เพราะมันเมื่อย หนาวก็หนาว พอวันที่ 3 เริ่มปรับตัวได้เล็กน้อย ก็ไม่ค่อยปวดมาก แต่ก็ยังสัปหงกอยู่ดี พอวันที่สี่เริ่มนั่งได้นานขึ้น ไม่รู้เพราะเหมือนกับว่ามันเริ่มชินแล้ว
พอถึงตอนกลางคืนได้ฟังธรรมเรื่องแม่และหนังเรื่องแม่ ผมก็รู้สึกขำตัวเองมากเพราะเกิดมาเคยเจอหน้าแม่ไม่กี่ครั้ง พอฟังบรรยายถึงบุญคุณของแม่ ก็ทำให้ผมรู้ว่า ผมรู้สึกโกรธแม่มากว่าทำไม ไม่เลี้ยงดูผม เมื่อก่อนผมเห็นพี่กับย่ากอดกัน ผมนั่งร้องไห้ ผมบอกตัวเองว่าทำไม ผมไม่มีแม่อย่างคนอื่นบ้าง แต่พอ ดร.ดาราวรรณได้บอกว่าการที่เราถูกทอดทิ้งไปเพราะว่ามันเป็นกรรมเก่า คือกรรมพรากสัตว์ ผมจึงเข้าใจและไม่โกรธแม่แล้ว ทำให้ผมรักแม่มากขึ้น ผมประทับใจมาก
ผมประทับใจวิทยากรทุกท่าน โดยเฉพาะ ดร.ดาราวรรณ ท่านบรรยายให้ผมได้อะไรมากขึ้น ได้แนวทางการปฏิบัติตัว การใช้ชีวิต การตอบแทนบุญคุณบุพการี ผมประทับใจมาก พอมาถึงวันที่ 5 ผมก็รู้สึกสบาย ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อยเท่าไร ก็รู้สึกดีที่ได้มาวัดวะภูแก้ว จากตอนแรกแล้วที่คิดว่ามาคงไม่มีอะไร แต่ได้ปฏิบัติจริงทำให้ผมได้รู้อะไรมากมายว่า มันมีอะไรอีกเยอะที่เราไม่รู้มาก่อน ทำให้ผมประทับใจมากเลย ผมรู้สึกว่าการมาในครั้งนี้ได้ประโยชน์มากจริงๆ ทำให้ผมได้คิด และมีสติในการดำรงชีวิต
นายสราวุธ กลมกล่อม ชั้น ม.4/2 โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์
|
Last Updated on Tuesday, 20 November 2012 08:38 |