Monday, 27 April 2009 15:22 |
แสดงธรรม โดยหลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลักธรรมที่เราจะถือเป็นหลักปฏิบัติในการละความชั่ว มีแค่ศีล ๕ ศีล ๕ นี่ พระพุทธเจ้าสอนให้คนเรารักกัน ให้สร้างความรักในกันและกัน ให้มีความเมตตาปรานีในกันและกัน ศีล ๕ ป้องกันไม่ให้มนุษย์เกิดมีการฆ่ากัน ศีล ๕ ตัดทอนผลเพิ่มของบาปกรรม ศีล ๕ บั่นทอนกิเลสให้น้อยลงหรือหมดไป ศีล ๕ เป็นขอบเขตของการใช้กิเลสให้เกิดประโยชน์โดยความเป็นธรรม คนเราทุกคนอยากได้ดิบได้ดี อยากได้ผลประโยชน์คือ ลาภ อยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์คือ ยศ อยากมีชื่อเสียงโด่งดังคือ สรรเสริญ อยากมีความสุขกายสุขใจ แล้วก็อยากมีอำนาจ ทุกคนมีสิทธิในการแสวงหาสิ่งเหล่านี้ตามความสามารถของตน แต่การแสวงหาก็ควรจะมีขอบเขต การประพฤติการกระทำอันใด ไม่ละเมิดล่วงเกินศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะเป็นไปด้วยอำนาจของกิเลส โลภ โกรธ หลง ก็ไม่ผิดธรรม ผิดวินัย ไม่ผิดกฎหมายปกครองบ้านเมือง สร้างพระพุทธ... พระธรรม... พระสงฆ์ ไว้ในจิต เรามาภาวนา พุทโธ เพื่อให้เรารู้ธรรมชาติของใจเราว่าเป็นอย่างไร ถ้าใจของเราไปสงบอยู่กับ พุทโธ เราก็รู้ว่าใจของเราเป็น พุทโธ ถ้าสงบนิ่ง รู้ ตื่น เบิกบาน สว่าง สะอาด ในขณะนั้นใจก็เป็นพุทโธ ใจก็เป็นใจพุทธะ ใจพุทธะ เป็นใจรู้ ใจตื่น ใจเบิกบาน เราก็รู้ใจแท้ ใจดั้งเดิมของเรา เมื่อเราทำใจให้สงบได้ มันเป็นรากฐานสร้างพลังจิตพลังใจของเรา ให้มีความเข้มแข็งขึ้น ให้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ใจที่สงบเป็นสมาธิต้อง... มีความนิ่งเป็นลักษณะ มีความสว่างเป็นเครื่องหมาย มี รู้ ตื่น เบิกบาน เป็นคุณธรรม เมื่อใจของเราสงบนิ่ง รู้ ตื่น เบิกบาน พระพุทธเจ้า เกิดขึ้นในใจของเราแล้ว พระพุทธเจ้า คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พระธรรม ก็คืออันนั้นแหละ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนั่นเอง เมื่อผู้มีใจเป็นอย่างนี้ ก็ได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ คุณธรรมจิตสงบนิ่ง รู้ ตื่น เบิกบาน ทำใจของคนให้เป็นพระพุทธเจ้าได้ ทำใจของคนให้เป็นพระธรรมได้ ทำใจของคนให้เป็นพระสงฆ์ได้
|
Last Updated on Monday, 16 April 2012 12:36 |