Wednesday, 21 November 2012 02:30 |
สัญญาใจประสบการณ์ของนักเรียนโรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ดีใจที่ได้มาวัดนี้
ความรู้สึกของหนูก่อนที่จะมานั้น หนูรู้สึกไม่อยากมาเลย เพราะหนูคิดว่ามันคงจะน่ากลัวและหนูไม่ชอบการนั่งสมาธิเลย เพราะว่าพอเรานั่งไปนานๆมันทำให้รู้สึกปวดเมื่อยและยังต้องนอนดึก และตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาสวดมนต์ ทำวัตรเช้า และตอนเย็นก็ต้องสวดมนต์ทำวัตรเย็นและยังต้องเดินจงกลมอีก หนูคิดว่ามันน่าเบื่อและน่ารำคาญมาก แต่พอได้มาที่วัดนี้คืนแรกก็รู้สึกคิดถึงพ่อกับแม่มาก และอยากกลับบ้านมาก แต่พอได้นั่งสมาธินานๆมันรู้สึกอยากจะลุกขึ้นไปเดินเล่นอยู่ข้างนอกศาลามาก แต่พอลองฝืนตัวเองสักพักแล้วนึกในใจว่าเราต้องชนะตัวเองให้ได้และหนูก็ทำได้ วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ได้ขึ้นไปสวดมนต์และนั่งสมาธิที่ลานธรรมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พอหนูนั่งสมาธินั้นมันรู้สึกว่าตัวเบา ถึงแม้จะรู้สึกปวดขามาก ปวดจนขาชาไปหมดจนลืมว่าตัวเองปวดขาอยู่ ที่นั่นอากาศดีมากพอลมพัดมาหนูรู้สึกว่าเหมือนลมมันแรงมาก พัดจนตัวหนูรู้สึกเหมือนจะปลิวไปตามลม เพราะการนั่งสมาธินั้น พอเราตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันก็ทำให้เรามีกำลังที่จะสู้กับความเจ็บปวด และยังทำให้เราได้บุญด้วยค่ะ และเรายังสามารถส่งบุญที่เราทำนั้นไปให้พ่อกับแม่และคนที่มีพระคุณต่อเราได้ด้วย รวมทั้งครูอาจารย์ที่สั่งสอนอบรมและให้ความรู้เรามา หนูดีใจที่ได้มาวัดนี้เพราะทำให้รู้สึกจิตสงบมาก
นางสาวณัฐริญา แชะกระโทก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนครบุรี เขียนไว้ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555
5 วันที่เปลี่ยนแปลง
ก่อนมาผมไม่อยากมาผมบ่นทุกวันในตอนที่รู้ว่าจะมาวัด 5 วัน ผมมาถึงที่วัด วัดมีป่าอากาศดีเลยทำให้อยากอยู่ มาก็มีความสุขด้วยเสียใจด้วย ก่อนมาถึงวัดคิดถึงแม่มาก ห้องน้ำที่นี่สะอาดที่สุดเลยครับ ขอให้จงเป็นที่ปฏิบัติธรรมไปตลอดเลย ชอบสถานที่ปฏิบัติและลานธรรมข้างบนบรรยากาศน่านั่งสมาธิมากๆ เลยครับ
ในวันที่ 1 ปฏิบัติธรรมยังไม่เข้าถึงพระธรรมเลยครับ เพราะยังไม่เข้าใจในพระพุทธศาสนา ในวันที่ 2 ปฏิบัติธรรมพอได้ แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีความอิ่มบุญเลยครับ ในวันที่ 3 ปฏิบัติธรรมเริ่มมีมาก รู้สึกว่ามีความอิ่มเอิบบุญ ในวันที่ 4 ปฏิบัติธรรมไม่ค่อยได้มันปวดขาแต่ก็พยายามขัดสมาธิบ้างพับเพียบบ้าง ในวันที่ 5 ปฏิบัติแค่ครั้งเดียวถึงสองครั้ง รู้สึกดีมากเลยครับ
ในการเข้าสมาธิแต่ละครั้งจะมีความรู้สึกปิติและทำไปต่อก็รู้สึกไม่ค่อยมีอาการ พอออกจากสมาธิรู้สึกอิ่มเอิบมากๆ เลยครับ การปฏิบัติธรรมที่นี่มีความง่ายและยากบ้าง ชอบการเดินจงกลม ชอบการสวดมนต์ รู้สึกอยากสวดมาก ๆ
อาจารย์ ดร. ดาราวรรณ เหมือนแม่พระมากครับ อาจารย์ตรงๆ ดีครับ ชอบ ชอบอาจารย์มากเลยครับ
สุดท้ายนี้ อยากกลับมาที่วัดอีก กลับบ้านไปผมจะนั่งสมาธิกับยายที่บ้าน ยายเปิดวิทยุ คลื่น 106.25 กับ 103.25 ยายฟังทุกวันเลย จะทำทุกคืนที่บ้าน และจะไปกราบแม่ ที่นี่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงพระธรรมมากเลยครับ อยากกลับมาที่วัดวะภูแก้ว ขอขอบคุณครับ ทั้งอาจารย์ ดร. ดาราวรรณ พ่อแม่ พระสงฆ์ พระพุทธเจ้า และโรงเรียนครบุรี ทั้งอาจารย์โรงเรียนครบุรี ผู้มีพระคุณ ขอขอบคุณทุกๆท่านครับนายเอกวัส บังศัตรู ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนครบุรี เขียนไว้ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 เกือบสายเสียแล้ว ผมจะบอกไว้ก่อนว่า เมื่อก่อนผมเป็นเด็กที่ไม่ใช่ว่าจะดีและเลวอะไร ผมเป็นคนที่ใครบอกอะไรก็ไม่ค่อยอยากจะฟังให้ทำอะไรก็ไม่ทำ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ชอบขัดใจพ่อแม่อยู่ตลอดจึงทำให้ท่านดุด่าและทำโทษผม ผมจึงโกรธท่านมาก ไม่ค่อยเคารพท่าน วันๆ ก็เอาแต่ขอเงินไปเล่นเกม เรียนก็ไม่ค่อยอยากจะเรียนการบ้านไม่เคยจะส่ง ทำให้ผมติด 0 ติด ร มาก ถึงเกือบ 20 ตัว ในช่วงที่ทางโรงเรียนเปิดโอกาสให้แก้ 0 และ ร ตอนนั้นแม่ของผมได้ไปทำงานที่ประเทศนอร์เวย์ ผมจึงมาอยู่กับป้า ลืมบอกไปว่าพ่อของผมนั้นท่านเสียไปตั้งแต่ผมยังอยู่ ป.4 ดังนั้นตอนที่ผมมาแก้ 0 และ ร ป้าของผมจึงต้องตามมาที่โรงเรียนด้วย ท่านต้องมานั่งเฝ้าผมแก้ 0 และ ร ท่านต้องเทียวไปเทียวมาที่โรงเรียน ซึ่งไม่ได้ใกล้เลย ตั้ง 20 กว่ากิโลเมตร ค่าน้ำมันต้องตกวันละเป็น 100 บาท เป็นเวลาเกือบเดือนจนกระทั่งผมแก้จนหมดแล้วก็ได้จบม.3 ขึ้น ม.4 ทางโรงเรียนได้จัดโครงการมาอบรมที่วัดวะภูแก้ว ตอนวันแรกรู้สึกเบื่อมากอยากกลับบ้าน แต่เมื่อได้ลองนั่งสมาธิวันแรกก็รู้สึกเมื่อยแต่ก็สนุกดี โรคจิตหรือไม่ไม่รู้นะ วันต่อๆมาได้ฟังพระเทศนาให้ฟังเรื่องพระคุณของพ่อแม่และอาจารย์ ท่าน ดร. ก็บรรยายให้ฟังด้วย และได้นั่งสมาธิอีกครั้ง ครั้งนั้นทำให้จิตใจของผมสงบมากขึ้น ผมจึงลองนึกถึงเรื่องที่ผมได้ทำกับพ่อแม่นั้นมันหนักหนามาก ผมจึงได้สำนึกในบุญคุณของบิดามารดา ผมจึงตัดสินใจว่าผมจะตั้งใจเรียน จากนั้นผมขอบอกกับผู้ที่ได้อ่านว่า อย่าทำให้พ่อแม่ต้องเสียน้ำตาหรือเสียความรู้สึก ควรทำให้ท่านภูมิใจก่อนที่จะสายไป
นายเนติพงษ์ กองแก้ว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 โรงเรียนครบุรี เขียนไว้ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 หนูจะเป็นคนใหม่
วันแรกที่รู้ว่าจะได้มาเข้าค่ายหนูไม่อยากมาเพราะมาตั้ง 5 วัน หนูไม่อยากมาเลย แต่ก็ต้องมา ก่อนที่หนูจะมาที่นี่หนูได้มีปัญหากับพ่อแม่ เรื่องแค่ว่าแม่ไม่ให้หนูออกไปซื้อของ เพราะพ่อเอารถไปทำงานแต่หนูไม่ยอมยังไงหนูก็จะไปให้ได้ หนูไม่พอใจมากแล้วหนูก็โกรธแม่มาก หนูเดินเข้าไปในห้องแล้วก็ปิดประตูเสียงดัง แม่ถามหนูว่าเป็นอะไรหนูก็บอกว่าอย่ามายุ่ง แม่ก็ไม่พูดอะไรต่อ พ่อโทรมาบอกแม่ว่าจะกลับค่ำหน่อยเพราะยังทำงานไม่เสร็จ หนูไม่พอใจอย่างมากจึงเดินไปบ้านย่าแล้วตะโกนว่าแม่ หนูเกลียดแม่แล้วแม่ก็ด่าหนู หนูเถียงแม่จนแม่ร้องไห้หนูก็ไม่สนใจ อยากร้องก็ร้องไปเถอะหนูคิดในใจ แล้วคืนนั้นหนูก็ไม่ไปที่บ้าน แล้วพอมาเข้าค่ายหนูได้อะไรหลายๆ อย่างจากวัด ทุกครั้งที่หนูนั่งสมาธิหนูก็คิดถึงแต่เรื่องที่หนูทะเลาะกับแม่หนูก็เสียใจมาก หนูก็คิดว่าหนูไม่น่าทำอย่างนี้กับแม่เลย ถ้าย้อนเวลาไปได้หนูจะไม่ทำอย่างนี้ ตอนที่หนูทำแม่ของหนูร้องไห้ก็คือตอนที่หนูอยู่ ม.2 หนูกินเหล้าที่โรงเรียนโดนเชิญผู้ปกครองแม่หนูเสียใจมากจนต้องร้องไห้ ถ้าหนูกลับไปบ้านหนูจะไปขอโทษแม่และบอกว่าหนูรักแม่จะไม่ทำให้แม่เสียใจจะเป็นคนดีของแม่ค่ะ
นางสาวอรทัย จอมสำโรง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 โรงเรียนครบุรี เขียนไว้ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ไม่ชอบ ไม่เคยทำ ไม่เข้าใจ
ก่อนฉันจะมาเข้าค่ายที่วัดวะภูแก้ว ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ไปวัด ไม่ค่อยชอบไปวัด ถ้าจะไปก็ไปในวันพระใหญ่ ดังนั้น ฉันจึงไม่ค่อยได้ทำบุญ ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องบาป – บุญ แต่ฉันก็ไม่ค่อยทำบาป ไม่ชอบการนั่งสมาธิ ไม่ชอบการสวดมนต์ เพราะการนั่งสมาธิเมื่อยมาก ขนาดนั่งแค่ 5 นาที ก็จะเป็นจะตายอยู่แล้ว ถ้าต้องมานั่งเป็นชั่วโมงคงไม่ไหว ฉันเป็นพวกจอมเถียง ถ้าฉันไม่ผิดฉันจะเถียงเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่าคนที่ฉันเถียงด้วยจะเป็นใคร ต้องมีคนที่ต้องยอมแพ้ไปข้างหนึ่ง ถ้าฉันเป็นคนที่แพ้ฉันจะแสดงกิริยามารยาทที่ไม่ดีงามออกมา เช่น มองตาขวาง พูดกระแทกใส่ ดูฉันเป็นคนเอาแต่ใจสูง เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดว่าตัวเองถูกเสมอ อะไรๆฉันก็ทำถูกแล้ว ฉันเคยทำนิสัยไม่ดีกับพ่อและแม่ ฉันอยากได้อะไรฉันต้องได้ ถ้าให้ไม่ได้ฉันจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บางทีคุยกับท่านทางโทรศัพท์ ขออะไรท่านแล้วท่านให้ไม่ได้ก็วางสายท่านทันที ทั้งที่ท่านยังพูดไม่ทันจบ แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไร และอะไรต่างๆอีกมากมาย
พอได้มาเข้าค่ายจริงๆความคิดของฉันก็เปลี่ยนไป ที่นี่สวยมากโดยเฉพาะลานธรรม ฉันชอบลานธรรมมาก ลมพัดเย็นสบาย เวลานั่งสมาธิแล้วรู้สึกมีสมาธิมากขึ้น ไม่ง่วง ได้ฟังวิทยากรบรรยายเรื่อง บาป-บุญ รู้สึกสำนึกในสิ่งที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่น่าทำอย่างนั้นเลย พ่อกับแม่คงเสียใจมาก ฉันเป็นลูกคนเดียว มาเข้าค่ายที่นี่ทำให้ฉันได้รู้อะไรมากขึ้นรู้ว่า บาป-บุญ มีจริง ถ้าเราทำบาปอะไรไว้ บาปนั้นจะติดตามเราไปยังชาติหน้าได้ ไม่เร็วก็ช้ายังไงเราก็หนีไม่พ้น ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียใจ ฉันจะตั้งใจเรียนจะทำให้ท่านภูมิใจ ฉันชอบวัดวะภูแก้ว ชอบดร.ดาราวรรณ และชอบวิทยากรทุกท่านที่มาให้ความรู้ ถ้าหากมีโอกาสฉันจะชวนพ่อกับแม่มาทำบุญที่นี่ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้มา ขอบคุณค่ะ
นางสาวศศิณา บุญกว้าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนครบุรี เขียนไว้ ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2555
|