เตรียมใจก่อนตาย
ก่อนจะมาวัดวะภูแก้ว ข้าพเจ้ารู้ว่าทุกคนต้องตายแต่ไม่เคยรู้เลยว่าตายแล้วไปไหน แล้วไปอย่างไร ข้าพเจ้ารู้ว่าต้องตายแต่เพียงไม่รู้ว่าจะตายตอนไหนแค่นั้นเอง ข้าพเจ้าจึงคิดอยากจะทำความดี เพื่อบุญกุศลคงส่งผลให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีข้างหน้า ข้าพเจ้าได้รู้จักบาป บุญ คุณ โทษ ก็เพราะ วัดวะภูแก้วแห่งนี้ ข้าพเจ้ามีจิตที่ยังไม่แข็งแรงพอ จะต้องฝึกฝนจิตต่อไปเพื่อการมีสติสัมปชัญญะในการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุขทั้งกายทั้งใจ ไม่เบียดเบียนใคร หัวใจอยู่ในธรรม
เคยคิดชั่วทำชั่วไม่กลัวผิด ไม่เคยคิดบาปบุญอันกุศล
ทำอะไรก็ทำตามใจตน สู้ดิ้นรนเวลาผ่านไปวัน ๆ
แต่บัดนี้รู้จักบุญรู้จักบาป รู้จักภาพเวรกรรมที่ทำหนอ
ก็เพราะมาปฏิบัติธรรมจึงชะลอ กรรมที่รอตามทันทุกวันคืน
นางสาวสุนีพร ก่อเกียรติยศ
โรงเรียนลำปลายมาศ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
เชื่อครูแล้วดีเอง
“การปฏิบัติธรรม” สำหรับฉัน มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก เพราะวัดที่เคยไปมามันไม่มีความสุข มันทรมาน มันกดดัน มันไม่ใช่สิ่งที่วัยรุ่นที่ดื้อและเกเรอย่างฉันจะทำ อย่างฉันคงต้องแบบเที่ยวตอนกลางคืน ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ใช่มาทำบุญปฏิบัติธรรมแบบนี้ นี่คือความคิดของฉัน ก่อนที่จะได้มา
พอมาถึงวัดวะภูแก้ว ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป ตั้งแต่ที่รถเข้ามาถึง วัดวะภูแก้วสวยมาก อยู่บนเขา วัดสะอาดมาก ก้าวแรก ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือ ความสงบ ความสดชื่นอย่างที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน แต่ความรู้สึกน่าเบื่อ หรือสันดานของฉันก็ยังเหมือนเดิม วันแรกตื่นตี 4.30 น. นอน 22.00 น. ฉันแทบจะร้องดัง ๆ และไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจัดระเบียบอะไรขนาดนี้ ตื่นมาออกกำลังกาย บริหารจิต สวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนา วันแรกก็น่าเบื่อแล้ว แต่พอได้พบ ดร.ดาราวรรณ ท่านได้บรรยายได้เล่าประสบการณ์ชีวิตของท่านที่ได้พบเจอกับตัวท่านเอง ท่านสอนคำว่า “ธรรม” ท่านทำให้มันเข้าใจว่าการทำสมาธิมันดีอย่างไร ท่านสอนท่านทำให้ฉันรู้ให้ฉันเข้าใจในทุก ๆ เรื่อง
วันต่อมาฉันและเพื่อนก็ได้ทำทุกอย่างอย่างที่ได้ทำมาตลอด มันทำให้ฉันเริ่มชินและเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้สวยงามเสมอไป ไม่มีอะไรที่จะสบายไปเสียทุกอย่าง ดร.ดาราวรรณ ท่านพร่ำบอกเสมอว่าหากเราจิตใจสงบ ทุกอย่างก็จะราบรื่นไปได้ด้วยดี ฉันลองทำตามที่ท่านบอกมันก็ได้ผลจริง ๆ ทุก ๆ สิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทำมันสะท้อนให้ฉันเห็นว่าสิ่งที่ฉันเคยทำมาเป็นเลวมันบาปมากแค่ไหน ดร.ดาราวรรณ ท่านเปลี่ยนความคิดของเด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยสนใจเรื่องพระพุทธศาสนา เรื่องครอบครัว เรื่องตัวเอง ไม่เคยสนใจเรื่องเรียน คนที่หลงใหลในแสงสีของสิ่งไม่ดี ท่านให้เรารู้จักกับคำว่าบาปบุญ คุณโทษ ท้ายนี้หนูขอขอบคุณวัดวะภูแก้ว ขอบคุณ วิทยากรทุกท่าน และที่สำคัญขอบคุณ ดร.ดาราวรรณ ที่ทำให้ฉันสำนึกผิดกับสิ่งที่เคยทำมา ฉันสัญญาว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากวัดวะภูแก้ว ฉันจะนำกลับไปใช้ จะเป็นคนดีของแม่ จะตั้งใจเรียน จะเป็นศิษย์ที่ดีของครู จะเป็นเยาวชนคนหนึ่งที่รักและซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติและแผ่นดิน และสัญญาว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาที่วัดวะภูแก้วอีกครั้ง
นางสาวเบญจมาศ สีหวงษ์
โรงเรียนลำปลายมาศ ม.4/4 เลขที่ 23
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
กระบวนการสยบเด็กดื้อ
ครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าเราจะต้องมาเข้าค่ายธรรมะ ฉันก็นึกในใจว่า “เข้าค่ายธรรมะ หรือ” เพื่ออะไร แต่อีกความคิดหนึ่งก็แย้งขึ้นมาว่าดีละจะได้ไม่ต้องเรียน พักสมองซะบ้าง เพราะอาทิตย์หนึ่งก็เรียน เรียน เรียน เรียนทั้งอาทิตย์ เมื่อถึงวันที่จะต้องเดินทาง ฉันก็เตรียมตัวเตรียมใจมามากเลยทีเดียว พอถึงวัดวะภูแก้ว สิ่งแรกที่คิด คือ วัดในป่าในเขาใหญ่กว้างถึงเพียงนี้เชียวหรือ โอ้โห!! เมื่อได้มาอบรม ฟังธรรม นั่งสมาธิ ฉันได้อะไรจากวัดนี้มากมายได้ความรู้ทางพระพุทธศาสนา การมีจิตตั้งมั่น การรู้คุณกตัญญู วิทยากรมีความเชี่ยวชาญ สามารถในการอบรมและสามารถทำให้นักเรียนฟังและคิดตามอย่างเงียบ ๆ ได้ ปกตินักเรียน ร.ร.ลำปลายมาศ ไม่เงียบและฟังสิ่งใดได้มากมายขนาดนี้ ดิฉันยังตกตลึง ความคิดของฉันนั้นก็ดังขึ้นมาในสมองว่า แสดงว่าวัดนี้มีการจัดการกับนักเรียน นักโทษดื้อ ๆ ได้รู้ว่านักเรียน นักโทษนั้น ต้องมีวิธีการจัดการอย่างไร จิตเขาจึงจะสงบวัดวะภูแก้ว ทำให้ฉันนั้นคิด คิดว่าการทำดีที่บ้านนั้นยังไม่พอ การมีจิตกุศล และความตายนั้นอยู่ใกล้กับฉันมากแค่เอื้อม เพราะฉะนั้น เราทุกคนควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท มีสติธำรงจิตให้มั่นคงแข็งแรง และมีความกตัญญูรู้คุณพ่อ-แม่ ผู้เลี้ยงดู และเป็นคนดีของสังคมตลอดไป...
นางสาวอังสนาพร พาแกดำ
โรงเรียนลำปลายมาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/10
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
ภาวนากับเสียงฝน
เช้าวันที่ 4 ของการอบรมฝนตก พอดีผมเป็นคนชอบฟังเสียงฝน เสียงฝนทำให้ผมสบายใจ วันนั้นผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที เวลานั่งสมาธิผมก็จดจ่อไปที่เสียงฝน แล้วผมก็รู้สึกนิ่งและสงบและสบายต่างจากที่เคยปฏิบัติมา แล้วผมนั่งไปเรื่อย ๆ จนทำให้ได้แชมป์ ใจจริงผมไม่ได้หวังแชมป์หรอกและไม่คิดว่าจะได้แชมป์ด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมได้คือ จิตจะเกิดสมาธิและสงบได้จิตต้องจดจ่อไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างที่ผมจดจ่อไปที่เสียงฝน แล้วผมก็จับเคล็ดลับตรงนี้ไปปฏิบัติในวันต่อ ๆ มา พอวันที่ห้าวันกลับบ้าน ผมขอขอบคุณคุณครูทุกท่านวิทยากรทุกท่านที่สละเวลามาอบรมสั่งสอนพวกผม ได้ให้ผมมีโอกาสทำบุญต่าง ๆ ที่ปกติไม่ค่อยได้ทำหรือไม่ได้ทำเลย ผมขอขอบคุณจากใจจริง ผมจะนำความรู้ที่ท่านให้ไปปรับปรุงใช้กับชีวิตประจำวันของของผม ผมขอขอบคุณมาก ๆ ครับ
นายชญานนท์ สดรัมย์
โรงเรียนลำปลายมาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 เลขที่ 1
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
ทำดีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
ดิฉันเป็นคนที่ไม่มีความอดทนไม่ชอบการมาวัด การฟังธรรม การนั่งสมาธิ และเป็นคน ขี้เกียจที่สำคัญ คือ ชอบเถียงแม่เอาแต่ใจตัวเอง ชอบทำประชด ใช้เงินเปลืองตามใจชอบ ขออะไรก็ต้องได้
เมื่อทราบว่าจะได้มาเข้าค่ายธรรมะที่โคราช มีความรู้สึกว่าไม่อยากมา ไม่อยากนอนค้างคืน มันน่ากลัว ไม่ชอบนั่งนาน ๆ และไม่อยากทำ แต่ในที่สุดก็ต้องได้มา เพราะถ้าไม่มาอาจารย์ก็ไม่ให้จบ วิทยากรน่ารักและใจดีทุกคนเลย... ท่านก็ให้นั่งสมาธิ ซึ่งไม่อยากทำแต่ ดร.ดาราวรรณ ท่านบอกว่า “กายส่วนกายจิตส่วนจิต” ก็เลยลองทำดูโดยการทำให้จิตชนะกาย ที่สำคัญต้องมีความอดทน ซึ่งดิฉันไม่มีความอดทนแต่ก็ต้องทำให้ได้พยายามถึงที่สุด แต่เมื่อได้ทำแล้วก็รู้สึกว่าแค่การนั่งสมาธิมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร วัดวะภูแก้วแห่งนี้ไม่เหมือนกับวัดอื่นที่ดิฉันเคยผ่านมา ที่นี่ สอนให้ฉันได้เข้าใจในเรื่องของการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ การมีความอดทน การมีสติ และนอนดึกตื่นเช้า ซึ่งดิฉันไม่เคยทำเลย...
เมื่อได้กลับบ้านแล้วดิฉันจะบอกรักแม่ ซึ่งไม่เคยทำเลย จะอ่านหนังสือก่อนนอน แต่ต้องนั่งสมาธิก่อน และทำแต่ความดี รักษาศีล 5 เผื่อชีวิตจะได้ดีมากกว่านี้และประสบผลสำเร็จตามที่ปรารถนาไว้...
นางสาวศศิภา แสนรัมย์
โรงเรียนลำปลายมาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/9
วันที่ 1 กรกฎาคม 2557