Thursday, 17 July 2014 02:12 |
เพาะเมล็ดพันธุ์ความดีไว้ที่จิต ข้าพเจ้าเป็นศิษย์เก่าของวัดวะภูแก้ว เมื่อ 15-16 ปีที่แล้ว ข้าพเจ้าได้เคยมาเข้าค่ายพัฒนาจิตที่นี่ ถ้านับรวมครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม เป็นแม่ครูคนแรกในชีวิตที่สอนให้ข้าพเจ้ารู้จักการนั่งสมาธิอย่างถูกวิธี การปฏิบัติต่าง ๆ การฝึกต่าง ๆ ในค่ายนั้น นับจากครั้งที่ข้าพเจ้าเป็นวัยรุ่น เป็นเหมือนเมล็ดความดีที่ถูกปลูกถ่ายเข้าไปในจิตของข้าพเจ้าเสมอมา
เวลาได้ผ่านไปหลายปี ชีวิตของข้าพเจ้าได้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายทั้งเรื่องดี เรื่องร้าย ซึ่งก็ถือว่าเป็นปกติธรรมดาของชีวิตมนุษย์ แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ามีปัญหา ธรรมะและพ่อแม่จะเข้ามาช่วยเยียวยาเสมอ การเยียวยาที่ว่าคือการทำให้ข้าพเจ้ามีสติ กลับไปมองปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็นการเป็นไปตามธรรมชาติ และไม่เอาใจไปยึดเกาะที่ปัญหา ข้าพเจ้าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเข้าค่ายพัฒนาจิตวัดวะภูแก้ว มีส่วนอย่างมากที่ทำให้จิตใจข้าพเจ้ามีวัคซีนป้องกัน
การกลับมาครั้งนี้ของข้าพเจ้า เพื่อต้องการจะโละ จะเคาะสนิมใจที่ถูกเกาะกรังด้วยความเสื่อมของกระแสสังคม ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่พึงจะเกิดสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้ใจขุ่นมัว เพื่อทำให้ใจข้าพเจ้าใสขึ้น ให้มีความปกติไปเผชิญกับสิ่งเร้าในสภาพแวดล้อมที่ข้าพเจ้าอยู่อีกครั้ง
ในการปฏิบัติครั้งนี้ข้าพเจ้าทำสมาธิได้ดี การมีศีลบริสุทธิ์ ทำให้จิตของข้าพเจ้าเย็นขึ้น ข้าพเจ้าพอใจเป็นอย่างมากในการตัดสินใจมาที่นี่ ภายใต้การสนับสนุนของพ่อแม่ ข้าพเจ้าดีใจที่ได้เจอแม่ครูอีกครั้งหนึ่ง ถึงเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ความเมตตากรุณาของแม่ครูไม่เคยเปลี่ยนสักนิดเลย
นางสาวธวัลกร ลันขุนทด ผู้อบรมสมทบ วันที่ 24 มิถุนายน 2557
ถ้าคิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ ฉันเป็นคนกรุงเทพ เกิดและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนถึงประถม 6 เมื่อเรียนจบ ป.6 แล้ว แม่ก็มาบอกกับฉันว่า ฉันต้องไปอยู่กับยายที่โคราช ซึ่งฉันไม่อยากไปเลยกลัวว่ามันจะไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่ที่เมืองกรุง แถมฉันยังเป็นคนอารมณ์ร้อน ดื้อ พูดอะไรไม่คิด จะให้ไปอยู่กับยายคงไม่ลงรอยเป็นแน่ เพราะยายเป็นคนเข้มงวดมากบ่นแต่ละทีขี้หูแทบเต้นระบำ ให้บ่นตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่ม ท่านก็สามารถทำได้
จนกระทั่งได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม เข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่นั่น จนตอนนี้ฉันได้ศึกษาชั้น ม.4 แล้ว อาจารย์ท่านแจ้งให้ทราบว่า จะมีการอบรมธรรมะที่วัดวะภูแก้ว ความรู้สึกตอนนั้นแบบโหย..ตายแน่ วันแรกที่มาถึง บรรยากาศน่านอนมากมันร่มรื่นเย็นสบาย วัดที่นี้สวยมาก รู้สึกชอบ ได้มาทำกิจกรรมสวดมนต์ทำวัตร นั่งสมาธิ ยอมรับตรง ๆ ว่าเบื่อบ้างแหละ เมื่อยบ้างแหละ แอบบ่นคนเดียวก็มี แต่ก็นึกทึ่งอยู่ ท่าน ดร.ดาราวรรณ ท่านพูดได้ยังไงนาน ๆ แถมท่านยังมีอายุเยอะกว่าฉันตั้งเยอะ ท่านยังอดทนยืนพูดได้นาน ๆ ก็เลยคิดได้ว่า เอาเถอะ ท่านยังอดทนพูดนาน ๆ ได้ ทำไมเด็กอย่างฉันจะอดทนฟังไม่ได้ นึกฮึดอยู่ในใจ จนมาอยู่ได้เป็นคืนที่ 3 เริ่มทำทุกอย่างได้แบบสมบูรณ์ ไม่เหมือนตอนแรก ๆ มีวิทยาการมาให้ความรู้มากมายอย่างครบครัน มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด มาถึงวันที่ 4 วิทยากรได้พูดถึงคุณพ่อ-แม่ เปิดสื่อให้ดูก็เกิดความสำนึกสะเทือนใจมากเพราะฉันเองเป็นคนหนึ่งที่พูดกับแม่-ยายไม่ค่อยดี เถียงบ้างใช้เงินอย่างกับโปรยใบไม้เล่นเลย มาดูสื่อวันนี้คิดได้เลยว่า ไม่เคยเป็นลูกที่ดีเลย กลับไปต้องประพฤติใหม่ให้ท่านได้มั่นใจสบายใจสักที และอย่างที่ ดร.ดาราวรรณ ได้พูด เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง ในเมื่อเราผ่านการอบรมมาแล้ว อะไรที่มันไม่ดีเราไม่ควรจะทำมาอีก ถูกอบรมมาก็ต้องทำตัวใหม่ เพราะว่านิสัยมันเปลี่ยนกันได้ ถ้าคิดจะทำ นางสาวชลธิชา ไชยประทุม โรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม ม.4/2 เลขที่ 10 วันที่ 24 มิถุนายน 2557 ด้วยรักและศรัทธาที่มีต่อพ่อและแม่ ฉันใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่แสนอบอุ่น มีพ่อ แม่ น้องสาวอันเป็นที่รัก เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พ่อเป็นผู้ที่ทำงานเหนื่อยที่สุดภายในบ้าน เพื่อให้ทุกคนในบ้านสุขสบาย พ่อเป็นผู้ที่เสียสละยอมเหนื่อย เพื่อพวกเราไม่ว่าฉันจะทำตัวเหลวไหล ทำนิสัยแย่ ๆ ท่านก็ให้อภัยได้เสมอ ก่อนที่ฉันจะมาเข้าค่ายที่วัดวะภูแก้ว ความคิดและทัศนคติของฉันก็เหมือนวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป คิดเอาแต่ใจตนเอง ไม่รู้ดีชั่ว บุญ บาป อยากทำอะไรก็ทำตามใจตนเอง ไม่ฟังเหตุผลของแม่ บางครั้งก็ทำประชดประชัน โดยการไม่พูดไม่จาทำเฉยชา ไม่มีความรู้สึกอะไร ไม่มองหน้า ไม่ยอมยิ้ม ทำทุกอย่างที่ทำให้ท่านลำบากใจ ฉันทำให้แม่เสียน้ำตา แอบร้องไห้ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง นับไม่ถ้วน ทำตัวแย่ ๆ ใช้เงินเกินตัวฟุ่มเฟือย งานบ้านที่ควรแบ่งเบาภาระได้ก็ทำเป็นบางครั้ง
แต่ความคิดของฉันก็เปลี่ยนไป เมื่อได้ก้าวเข้ามาปฏิบัติธรรมในวัดวะภูแก้ว ฉันได้ความรู้ ความคิดใหม่ ๆ วันแรกที่มาถึงวัด มันทำให้ฉันอยากกลับบ้านใจแทบขาด มันน่าเบื่อและทรมานกาย ทรมานใจ คิดถึงบ้านก็คิดถึงไม่เคยห่างไกลบ้านหลายวัน ขนาดนี้มันทำให้ฉันคิดถึงแม่ขึ้นมาทันใด ที่วัดมีการปฏิบัติธรรมอย่างที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ดีหรือไม่ดี ก็ทำให้ฉันแยกแยะออกคิดได้ วิทยากรเล่าประสบการณ์ชีวิตของบุคคลหลาย ๆ คน ให้แง่คิด วิธีการแก้ปัญหาที่ดี สอนเรื่องธรรมะต่าง ๆ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำให้ฉันมีสติสมาธิที่ดีขึ้น แรก ๆ ก็ทำไม่ได้พอวันที่ 2 ได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่ลานธรรม สถานที่และบรรยากาศเป็นใจ ทำให้ฉันนั่งสมาธิได้อย่างสงบ ประสบการณ์ที่ได้จากวัดวะภูแก้ว มีประโยชน์ให้คุณมากมาย จนถึงวันสุดท้ายมันทำให้ฉันอยากอยู่ต่อเลยทีเดียว สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเราจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในฐานะไหน ก็ไม่พ้นจากความตาย ไม่มีวันที่สายเกินไปสำหรับคนที่ตั้งใจทำความดี "รักและศรัทธา พ่อ แม่..."
นางสาวภัทราวดี การะวะหา โรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม ห้อง ชั้น ม.4/2 วันที่ 24 มิถุนายน 2557 คนเลวในวันวาน สมัยก่อนข้าพเจ้าเคยเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่เคยทำตามคำตักเตือนของพ่อแม่ ข้าพเจ้าทั้งเถียงและแอบด่าพ่อแม่ในใจ ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ เป็นคนที่นิสัยไม่ดี แม่ใช้ทำงานก็ขี้เกียจ ไม่ทำ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ถ้าไม่ได้จะโกรธมาก และจะไม่คุยกับท่าน จนกว่าจะหายโกรธ เคยทำให้ท่านเสียใจร้องไห้ จนนับครั้งไม่ถ้วน ท่านสอนท่านบ่นก็ว่าท่านด่า และเราก็ชอบพูดว่าท่านไม่รักเรา แล้วท่านชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เราก็ชอบบอกว่า เรามันไม่ดี สู้คนอื่นไม่ได้ ที่มาภาวนาที่นี่ข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่า จะมาทำบุญ เพื่อล้างบาปที่ข้าพเจ้าทำไว้ รู้ว่ามันล้างไม่ได้ แต่มันก็ทำให้รู้ว่าบาปบุญคุณโทษมีจริง นางสาวรวิวรรณ ลานอก โรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม ห้อง ชั้น ม.4/9 วันที่ 24 มิถุนายน 2557
|
Last Updated on Friday, 18 July 2014 01:15 |