Friday, 14 June 2013 05:46 |
แม่คือคนที่รักเรามากที่สุด ตอนที่อาจารย์เปิดธรรมบรรยายเดียวกับแม่ให้ฟังอาจจะไม่ร้องไห้เหมือนคนอื่นแต่ลึก ๆ เราก็ร้องนะ ที่บ้านไม่เชื่อฟัง แม่ด่าท่อท่านทำให้ท่านร้องไห้ บางครั้งไม่เข้าใจท่านว่าท่านใช้แต่เรา น้องมีไว้ทำไมไม่ใช้ ตอนนั้นฉันอยู่ ม.1 แม่ให้ฉันไปทำงานนอกบ้านไปฝากงานที่ตลาดทำตั้งแต่ 06.00 – 17.00 น. หรือมากกว่านั้น บางวันต้องยกของหนักมาก เลยรู้ว่าการหาเงินนั้นลำบากขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยเข้าใจแม่เลย บางครั้งก็นึกอิจฉาคนที่เขามีพ่อให้กอด ถึงแม้ว่าฉันจะมีพ่อเลี้ยง แต่ก็ไม่เคยพูดกันดี ๆ เลย บางครั้งนึกอยากจะวางยาฆ่าคนทั้งบ้านให้รู้กันไปเลยจะได้อยู่คนเดียว บางทีก็คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ก็นึกเสมอว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาป แม่เคยบังคับให้เลิกกับแฟนมาแล้วแต่เราไม่ฟัง แต่ถึงอย่างนั้นฉันกับแฟนก็เลิกกันจนได้ แต่พอได้มาเข้าค่ายในวันนี้ทำให้รู้ว่าคนที่รักเรามากที่สุดคือแม่นั่นเอง ถ้ากลับไปจะไปกราบเท้าแม่ที่เคยด่าแม่ก็จะพยายามอดกลั้น แต่ก่อนเป็นคนสมาธิสั้น นั่งสมาธิไปนาน ๆ ไม่ได้ แต่พออดทนไปก็ทำได้ ที่นี่สอนอะไรเยอะแยะเลยไม่ว่าจะเป็นคุณธรรม ความเป็นคน รู้คุณพ่อแม่ เราควรจะทำดีตอบแทนท่านเพราะท่าทำเพื่อเรามามากพอแล้ว สิ่งที่ได้มาง่ายมักจะหมดง่ายสิ่งที่ได้มาอยากมักจะอยู่กับเรานาน เหมือนความดีที่ทำ หากแต่มันจะติดตัวเราไปตลอด
นางสาวศิริลักษณ์ เจริญศิริ โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ชั้น ม.4/3 เขียนไว้ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2556
ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ปกติข้าพเจ้าเป็นคนชอบธรรมะ ชอบไปวัดอยู่แล้ว เมื่อมาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว ทำให้ข้าพเจ้าได้ความประทับใจอะไรหลาย ๆ อย่างในวัดนี้ เพราะวัดแห่งนี้ให้อะไรหลาย ๆ อย่างที่ข้าพเจ้าไม่รู้ไม่เคยเข้าใจมาก่อน ทั้งในเรื่องของธรรมะ การรักษาศีล การปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา ซึ่งตอนอยู่ที่บ้านไม่เคยรู้เลยว่า ธรรมะคืออะไร การรักษาศีลคืออะไร และการเจริญสมาธิภาวนาดีอย่างไร ซึ่งเมื่อข้าพเจ้าได้ลองมาปฏิบัติ มันก็ทำให้ข้าพเจ้ามีสมาธิและมีสติปัญญา จะทำอะไร ก็มีสติและสมาธิตลอดเวลา ที่วัดวะภูแก้วนี้ ไม่ใช่จะฝึกเฉพาะสมาธิ สติเพียงอย่างเดียว แต่ยังปลูกฝังให้ข้าพเจ้าเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม และยังปลกฝังให้ข้าพเจ้าเป็นบุตรที่กตัญญูต่อบิดา มารดา ซึ่งมันทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ บิดา มารดา กลับไปบ้านผมก็คงต้องไปกราบพระคุณท่านอย่างงาม ๆ แล้ว นายวัฒนา พ้นภูมิ โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ชั้น ม.4/2 เขียนไว้ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2556
ขอให้ความสุขพ่อแม่ทั้งกายและใจ ประสบการณ์ที่ได้จากการมาวัดครั้งนี้ ทำให้ผมได้เข้าใจเรื่องศีลธรรมและทำให้ผมอยากทำบุญมากขึ้น ถึงแม้กระทั่งสมาธิมันและเหนื่อยล้า แต่ผมก็อยากทำเพราะรู้ว่ามันได้ประโยชน์มากมายแค่ไหน มันทำให้เรารักศาสนา พระมหากษัตริย์ พ่อแม่ และอยากดูแลพ่อแม่ให้มากกว่าเดิม อยากให้ท่านได้อยู่อย่างสุขสบาย ถึงแม้ตอนนั้นผมจะไม่มีงานและไม่มีเงินมาเลี้ยงดูกายท่าน แต่ตอนนี้ ผมทำให้ใจท่านมีความสุขใจ แค่นี้ผมก็ภูมใจมากแล้ว ถ้าผมโตขึ้นมีการมีงานทำ ผมจะดูแลทั้งกายและใจเพราะพ่อแม่มีบุญคุณแก่เรามาก เราต้องตอบแทนบุญคุณท่าน ถึงแม้เราจะทำได้ไม่มาก แต่ขอให้เราทำให้ดีที่สุด ซึ่งการมาวัดครั้งนี้ทำให้ผมได้อะไรมากมายหลายอย่าง และมีแค่สิ่งดี ๆ เราได้ฟังธรรม เราได้ปฏิบัติธรรม สัญญาใจของ นายภุชงค์ ทีปชมภู โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ชั้น ม.4/4 เขียนไว้ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2556
ต้องเปลี่ยนชุดความคิด หนูเกลียดพ่อของตัวเองมากไม่ว่าจะข่มใจยังไงก็ไม่สามารถลดความรู้สึกนี้ได้สักนิดถึงจะรูว่ามันบาปและบาปมากด้วย แล้วความเกลียดชังนี้ก็ทำให้แม่ต้องเสียใจ ถึงจะรู้ขนาดนี้แต่หนูก็ยังคงเกลียดเขาอยู่ดี จนมาได้ปฏิบัติธรรมที่นี้วัดวะภูแก้ว หนูได้รู้ความจริงที่หนูไม่รู้เกี่ยวกับพ่อ ในความคิดที่ผ่านมาหนูคิดว่าเวลาท้อง แม่ต้องลำบากคนเดียวแต่ไม่ใช่เลยพ่อต้องลำบากคอยหาเงินมารักษาแม่เพื่อเป็นค่าทำคลอด เป็นค่ายาต่าง ๆ มันทำให้หนูอึ้ง! และรู้ว่าหนูคิดผิดทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำกับหนูเพราะความรักไม่ใช่เกลียดชัง ตอนนี้หนูรู้แล้วและต่อจากนี้ หนูจะเปลี่ยนความคิดใหม่ให้หมด ถึงมันจะไม่ง่ายก็ตาม หนูจะเอาคำสอนทั้งหมดที่ได้มา มาปรับใช้ประโยชน์ต่อไป นางสาวอุไรวรรณ ทิมิน โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ชั้น ม.4/2 เขียนไว้ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2556
|
Last Updated on Friday, 14 June 2013 06:01 |