Monday, 24 September 2012 01:51 |
ถ้าไม่มีความกตัญญูก็อย่านึกว่าตัวเองเป็นคน ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาที่วัดวะภูแก้ว ผมรู้สึกดีมาก ในวันต่อมาผมเริ่มเข้าใจและได้เรียนรู้การเอาชีวิตรอดจากสิ่งที่ไม่ดีและควรทำในสิ่งที่ควรทำ เมื่อถึงคืนสุดท้ายที่วิทยากรบอกให้ตั้งใจปฏิบัติ ผมก็ตั้งใจและผมก็นึกคิดถึงคำสอนต่างๆ ที่วิทยากรได้สอน ผมจึงนึกขึ้นว่าชีวิตนี้ผมทำดีพอหรือยัง ผมทำให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ภูมิใจในตัวผมหรือยัง ผมก็นึกผมเป็นคนแท้ๆ เราควรมีจิตสำนึกต่อผู้มีพระคุณให้มากกว่านี้ เพราะถ้าทำไม่ได้ก็อย่านึกตัวเป็นคน
ภูมิใจมากครับที่ได้มาอบรมธรรมะที่วัดนี้ วัดนี้เป็นวัดที่มีวิทยากรที่สอนให้รู้ถึงธรรมะที่แท้จริง
นายศรีวิลาส ประเสริฐศรี ชั้น ม.5/5 โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม อ.บำเหน็จณรงค์วิทยาคม จ.ชัยภูมิ เขียนไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2555 กลัวนรกจนไม่กล้าทำบาปอีกแล้ว
การเข้าค่ายครั้งนี้ก็ทำให้หนูได้อะไรกลับไปเยอะมากๆ ที่นี่ได้สอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ เรื่องนรก – สวรรค์ ซึ่งหนูก็พอจะรู้มาบ้างแล้ว แต่ท่านได้สอนอย่างละเอียดลึกซึ้งมาก ทำให้หนูแทบจะไม่กล้าทำบาปอีกแล้วเพราะมันน่ากลัว อีกเรื่องที่ทำให้หนูประทับใจก็คือการนั่งสมาธิ ตอนวันแรกๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมหลายคนนั่งได้แต่เรานั่งไม่ได้ พอเข้าสู่วันที่ 3 ที่ 4 ก็เริ่มนั่งได้ และนั่งได้นานด้วยก็รู้สึกว่าตัวเรานี้เบาสบายมากและสถานที่ปฏิบัติธรรมที่นี้สวยมากโดยเฉพาะที่อุทธยานธรรม เพราะเป็นที่ที่สวยสงบ บรรยากาศดี มองเห็นสถานที่รอบๆ ได้อย่างสวยงาม หนูรู้สึกชอบวัดนี้มาก สอนให้เราได้ซาบซึ้งถึงบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่ได้มาก จนไม่สามารถอธิบายได้เพราะว่ามันอยู่ในใจของเราที่มันปลื้มและรู้สึกรักแม่มากที่สุด
แหละการเข้าค่ายครั้งนี้ที่วัดวะภูแก้วได้ประโยชน์มาก ได้ฝึกอะไรหลายๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้อย่างดี
น.ส.ชุตินันท์ รูดจันทึก ชั้น ม.4/1 โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม อ.บำเหน็จณรงค์วิทยาคม จ.ชัยภูมิ เขียนไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2555 ธรรมะไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด
วัดวะภูแก้วสอนให้เรารู้คิดหลายอย่างว่า สมาธิสามารถปฏิบัติได้ทุกสถานที่ ภาวนาคือ พลังบุญที่แรงที่สุด และวัดนี้สอนให้คิดว่า ธรรมะไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด แถมสอนให้อดทนด้วยซ้ำไปและทำให้เราได้บุญบารมีอีก ใครที่คิดว่าเข้าวัดฟังธรรมมันน่าเบื่อ ท่านคิดผิดแล้ว
ขอขอบคุณวัดนี้ที่อบรมให้เราเป็นคนดี รู้จักบาปบุญมากขึ้น
ด.ญ.กิ่งกาญจน์ นาคเสนีย์ ชั้น ม.1/3 โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม อ.บำเหน็จณรงค์วิทยาคม จ.ชัยภูมิ เขียนไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2555 คิดถูกแล้วที่ย้ายกลับมาเรียนที่โรงเรียนนี้ ปีนี้เป็นปีแรกที่ข้าพเจ้าได้มาพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้ว เพราะข้าพเจ้าก็เพิ่งย้ายมาจากต่างจังหวัด เมื่อก่อนข้าพเจ้าก็เคยอยู่ที่บำเหน็จณรงค์ตอนมัธยมต้น ครั้งนั้นที่ข้าพเจ้าอยู่โรงเรียนต่างจังหวัด พอดีเป็นโรงเรียนคริสเตียนนับถือพระเจ้า (พระเยซู) ในเวลาหนึ่งปีข้าพเจ้ารู้สึกอึดอัดมากเพราะข้าพเจ้าเองก็นับถือศาสนาพุทธ เป็นชาวพุทธ ไม่เคยมีเวลาในการทำบุญเลย ข้าพเจ้าก็เลยคิดตัดสินใจย้ายกลับมาเรียนที่บำเหน็จณรงค์ พอได้รู้มาว่าต้องมีการเข้าค่ายพัฒนาจิต แรกๆ ข้าพเจ้าก็รู้สึกดีใจที่จะได้มาวัดวะภูแก้ว แต่พอรู้อีกทีว่ามา 5 วัน ข้าพเจ้าก็ไม่อยากจะมา แต่พอเมื่อถึงวันที่ 17 ข้าพเจ้านึกคิดว่าวันเวลามันผ่านไปเร็วอยู่แล้ว ทำใจให้สบายๆ แต่พอมาถึงข้าพเจ้ากลับเปลี่ยนความคิด ข้าพเจ้าจะทำบุญภายในเวลา 5 วันให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยบ้าง ง่วงนอนบ้าง แต่ข้าพเจ้าก็สามารถอดทนมาได้จนถึงวันที่ 21 เป็นวันที่ต้องกลับบ้าน ข้าพเจ้าคิดว่าการมาวัดวะภูแก้วครั้งนี้คุ้มจริง คำสอนของครูอาจารย์ที่สั่งสอนมาข้าพเจ้าจะนำไปปฏิบัติตามอย่างถูกวิธี สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าตัดสินใจถูกแล้วที่ย้ายมาเพราะได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว บุญครั้งนี้เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา
น.ส.ชลธิชา เขียวขำ ชั้น ม.5/3 โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม อ.บำเหน็จณรงค์วิทยาคม จ.ชัยภูมิ เขียนไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2555
อยากได้บุญมาก ๆ ในวันแรกที่ผมได้ยินว่า อีก 2-3 วันจะไปเข้าค่ายธรรมะ ผมก็ดีใจน่ะ แต่พอมาอีกวันผมก็รู้สึกว่า ถ้าผมมา ใครจะอยู่กับตากับยาย พอมาถึงวันที่จะเข้าอบรม ผมนึกในใจผมจะมาเอาบุญให้ท่านเยอะๆ พอมาถึงวัดวะภูแก้ว ลงจากรถก้าวแรกผมก็เสียงดังเลย พอนึกได้ขึ้นว่า เรามาเอาบุญ มาปฏิบัติธรรมะในวัด เราไม่ควรส่งเสียงดัง พอมาวันแรกได้มานั่งสมาธิที่ลานธรรม วันแรกก็ยุงกัด ก็ทนเอานั่งได้ประมาณ 40-45 นาที ก็ลืมตาขึ้นมาฟังธรรม พอวันที่ 2-3 ก็เริ่มดีขึ้น พอมาวันที่ 4 ตอน 4 ทุ่ม ผมบอกกับเพื่อนว่าไวจังทำไมเร็วอย่างนี้ เพื่อนก็บ่นๆ ไม่อยากกลับ แต่ผมก็นึกในใจว่าผมก็ไม่อยากกลับ อีกใจเป็นห่วงทางบ้านเขาจะรอเรา พอมาตอนเช้า มานั่งสมาธินิ่งสบายมากๆ เพราะเป็นวันสุดท้าย จะเอาบุญไปฝากพ่อ-แม่ ตา-ยาย ที่รักให้มากที่สุด ผมดีใจมากเลยจะได้กลับบ้าน แต่อีกใจก็อยากได้บุญมากกว่านี้ วันนี้เป็นวันสุดท้าย ผมจะได้กลับบ้าน ผมอยากแยกตัวเราออกมา 2 ครึ่ง แต่คนเราทำไม่ได้ วันหน้าฟ้าใหม่ ผมจะพาครอบครัวมาทำบุญที่นี่ และมาปฏิบัติธรรม ผมจะทำให้ดีที่สุดจะเรียนสูงๆ ผมตั้งใจว่า ผมจะเรียนเท่าที่ผมจะเรียนไหว ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม เป็นแม่พิมพ์ ให้ผม ผมมีใจมุ่งมั่นที่จะเรียนสูงๆ จะได้มีฐานะมั่นคง และจะทำความดี จะทำงานสุจริต ในกาลต่อไป... นาย ชิตณรงค์ บุญแสน ชั้น ม.5/2 โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม อ.บำเหน็จณรงค์วิทยาคม จ.ชัยภูมิ เขียนไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2555
|
Last Updated on Monday, 24 September 2012 02:04 |