Wednesday, 17 August 2016 04:46 |
ไม่มีสิ่งไหนเกินความสามารถของเรา การมาวัดวะภูแก้วในครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ความรู้สึกครั้งแรกที่รู้ว่าจะได้มาก็ไม่ค่อยอยากจะมาเลย มาในครั้งนี้รู้สึกดีกว่าครั้งก่อนเพราะเราโตขึ้นกว่าเดิม มีความอดทนจึงได้สมาธิมีพลังจิต สมาธิ สติมากขึ้น ได้ฝึกความอดทน ได้ระลึกถึงพระคุณของพ่อแม่ว่าท่านมีพระคุณกบเรามากแค่ไหนที่เลี้ยงดูเราจนโตได้ถึงทุกวันนี้ และได้รู้ว่าการมีสมาธิไม่ใช่แค่นั่งหลับตา การเดินจงกรม การอ่านหนังสือก็เป็นสมาธิเช่นกัน ได้ฝึกสมาธิให้มีพลังมากขึ้น สามารถนั่งจนได้แชมป์ ทำให้รู้สึกโล่งมีสมาธิสติปัญญาในการดำเนินชีวิตให้เป็นสุข มีสมาธิในการเล่าเรียนที่ดีขึ้น เป็นเด็กดีของพ่อแม่และครูบาอาจารย์ สำหรับคนที่ไม่มีสมาธิทำสมาธิไม่ได้ อยากให้ทุก ๆ คนที่มาที่นี่ได้ลองเอาชนะใจตัวเอง พยายามทำให้ได้ ไม่มีสิ่งไหนเกินความสามารถของเราหรอก “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
นางสาวพาพิด เพ่งพิศ โรงเรือนเมืองโพธิ์ชัยพิทยาคม ชั้น ม.4/1 แม่ก็คือแม่ แม่แยกทางกับพ่อตั้งแต่หนูอายุ 5 ขวบ พ่อจึงพาหนูไปอยู่กับป้าที่บ้านเกิดพ่อ ส่วนพี่ชายอีก 2 คน อยู่กับแม่ พอตอนหนูอายุ 7 ขวบ พ่อกับแม่ก็คืนดีกันและกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหนูมักจะโดนพี่ชายคนกลางแกล้งอยู่เสมอ แต่พอหนูฟ้องแม่ แม่ก็จะเข้าข้างพี่ชายตลอด ไม่ค่อยมีใครเชื่อเพราะตอนเด็กๆ หนูเป็นเด็กที่ดื้อมากๆ แต่บางครั้งก็แอบน้อยใจว่าแม่ไม่รัก ตอนเด็กหนูอยู่กับพ่อ ส่วนพี่ชายอยู่กับแม่ ก็คิดว่าแม่รักพี่มากกว่า จนบางครั้งคิดมากๆ ก็คิดว่าหนูอาจจะไม่ใช่ลูกแม่ก็ได้ หนูจำตั้งแต่เป็นเด็กมาตลอดว่าหนูไม่ใช่ลูกแม่ หนูอยู่กับป้าตั้งแต่ 5 ขวบ จนหนูคิดว่าป้าคือแม่ ช่วงวันหยุดพ่อก็จะพาไปบ้านป้า หนูมีความสุขเวลาอยู่กับป้ามากกว่าแม่ จนบางครั้งที่พ่อมารับ หนูร้องไห้เพราะไม่อยากกลับบ้านไปอยู่กับแม่ คิดในใจว่าไม่ใช่แม่จะอยู่ไปทำไม พอต่อมาแม่ป่วยจะชอบเป็นลมบ่อย ๆ หนูก็แค่เอายาให้เวลาที่แม่บอก ถ้าแม่ไม่บอกหนูก็เฉยๆ ไม่สนใจอะไร พอวันหนึ่งได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้วก็คิดได้ว่าคนที่เป็นแม่ก็คือแม่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนได้ ดีแค่ไหนที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง บางครอบครัวอาจไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก กลับจากวัดไปหนูจะกราบแม่และพ่อ และจะดูแลแม่ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้ดูแล จะทำตัวเป็นลูกที่ดีของครอบครัว
เด็กหญิงกนกพร เฟิกขุนทด โรงเรียนพงษ์ศิริวิทยา ชั้น ม.2/1
พ่อแม่คงอยากให้เรารู้จักพึ่งตนเอง วันที่รู้ว่าจะได้มาที่วัดวะภูแก้ว ฉันก็รู้สึกเซ็งเบื่อ ไม่อยากไปถึงขั้นคิดว่าจะป่วยแบบไหนดีถึงจะไม่ได้ไปวัดวะภูแก้ว เมื่อถึงวันไปในตอนเช้า ตลอดทางฉันแทบนั่งร้องไห้ แต่พอมาได้ฟังการอบรมการปฏิบัติธรรมก็รู้สึกดี มาถึงวันที่ 3-4-5 เกิดความรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน พอท่านวิทยากรได้บรรยายถึงพระคุณของพ่อแม่ ฉันก็นึกสิ่งที่ได้ทำไม่ดีกับพ่อและแม่ไว้ พ่อแม่หวังอยากให้ฉันทำได้ดีเหมือนพี่ชาย เรียนเก่งเหมือนพี่ชาย แต่ฉันก็ไม่เคยทำได้สักที หากพี่ชายอยากได้อะไร แม่ก็จะหามาให้ทำให้เกิดความน้อยใจ ทุกครั้งที่ฉันขอ แม่ก็จะบอกว่าแม่ไม่มีเงินหรอกยังไม่ต้องเอา อยากได้ก็ต้องเก็บตังซื้อเอง แต่กับพี่ชาย แม่จะซื้อให้เลย ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้ง ๆ ที่เราเป็นลูกคนเล็กและเป็นผู้หญิง น่าจะให้เรามากกว่าพี่ชาย จนวันหนึ่งแม่ถามพี่ชายว่า อยากได้โน๊ตบุ๊คไหม พี่ชายบอกอยากได้ แม่ให้พี่ชายเก็บเงินเองแต่เงินไม่พอ แม่บอกให้รวมเงินกับน้องสิแล้วเล่นด้วยกัน พี่ชายมีอยู่ 8000 บาท ฉันมีอยู่ 2000 บาท ก็รวมเงินแต่ฉันกลับไม่ได้เล่นโน๊ตบุ๊คที่รวมเงินกับพี่ชาย ซึ่งทำให้ฉันน้อยใจ เมื่อได้ฟังการบรรยาย ก็กลับนึกถึงพ่อแม่ รู้สึกผิด และอยากบอกกับพ่อแม่ว่า “ลูกคนนี้ไม่ได้ดีอย่างที่หวัง ลูกผิดพลั้งพลาดไปขอได้ถอน ลูกขอโทษ หากลูกผิดคิดอาทร ลูกขอวอนพ่อแม่เข้าใจกัน ไม่ได้เก่ง ไม่ได้ดี ไม่ได้เลิศ ไม่ประเสริฐ เหมือนพี่ชายที่แม่ฝัน ลูกทำผิดพลาดไปทุกสิ่งอัน หวังแม่นั้นเมตตาอภัยพลัน" สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณวัดวะภูแก้วที่ทำให้รู้ว่าที่พ่อแม่ทำแบบนี้ อยากให้เราเข้มแข็ง รู้จักพึ่งตนเอง แล้วขอบคุณที่ทำให้รู้เข้าใจหลาย ๆ อย่าง ขอบคุญค่ะ
เด็กหญิงภาสินี เมฆขุนทด โรงเรียนพงษ์ศิริวิทยา ชั้น ม.2/1
ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม วันนี้ผมมีเรื่องจะมาเล่าว่า เมื่อก่อนผมเป็นคนที่นิสัยไม่ดี หรือนิสัยชั่วนั้นเอง ผมมักจะไม่ช่วยครอบครัวทำงาน แต่ตอนผมเป็นเด็ก ๆ ผมเป็นพ่อค้าขายล็อตเตอรี่ ผมได้แต่ถามตัวเองว่าทำไปเพื่ออะไร ทำทำไม ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร ทำแล้วดีตรงไหน ผมมักจะรำพันกับตัวเองตลอด ผมจบ ป.6 ผมได้เกียรติบัตรเด็กดีเด่นด้านเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว ผมดีใจมาก พออยู่ ม.1 ผมก็ได้มาอยู่ร้านอาหารตามสั่ง ผมจะชอบอยู่ในห้องมากกว่าอยู่กับแม่ เพราะแม่ชอบใช้งานอยู่เรื่อย อพ่อแม่บอกผม ผมก็ไม่สนใจ ตอนนั้นผมมีบ้านเช่าอยู่ 2 หลัง “ผมก็หนีไปอยู่อีกหลังหนึ่งเพราะว่าไม่อยากฟังแม่บ่น ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เลวมาก พอผมได้เข้าอบรมที่วัดวะภูแก้ว ดร.ดาราวรรณบอกว่าพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่สุดคือพระคุณพ่อแม่ ผมเพิ่งรู้ว่า พ่อแม่เรารักเรามากกว่าตัวเองอีก เราเหมือนดวงใจดวงน้อยน้อยของแม่ แม่ทนลำบากเพื่อเรา เราก็ควรต้องตอบแทนท่านบ้าง แต่ผมกลับมาทำท่าทางไม่ดีต่อท่าน ท่านก็ไม่ว่าอะไร ผมจึงไม่สนใจ จนได้มาพบแสงสว่างในวันนี้ วันที่มาวัดวะภูแก้ว ผมอยากจะไปกราบขอขมาท่าน อยากบอกว่าผมรักท่าน ผมอยากจะบอกว่าผมขอโทษที่ไม่ตั้งใจเรียน ผมกลับไปเป็นคนดีของสังคม ผมจะตั้งใจเรียนให้พ่อแม่ครูอาจารย์ภูมิใจพอใจ ครั้งนี้ผมจะทำเกรดให้ได้ 3.00 แน่นอน
เด็กชายวัชรพล โมกศิริ โรงเรียนพงษ์ศิริวิทยา ชั้น ม.2/3 ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม ก่อนที่หนูจะมาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว หนูได้ทำในสิ่งที่ชั่วร้ายกับแม่และพ่อ ก่อนมาหนูโมโห หนูโกรธมาก หนูรีบจนหนูต้องทำร้ายแม่ ระยะเวลาที่หนูอยู่กับแม่มา หนูไม่เคยทำให้แม่ภูมิใจเลยสักครั้ง เกรดการเรียนแย่มาก เวลาแม่ด่า หนูก็จะเถียงเพราะหนูรำคาญ การบ้านที่ครูให้มาหนูก็ไม่ทำ เล่นแต่เฟสบุ๊คจนติดงมงายกับเกมส์ งานบ้านที่แม่ให้ทำก็ไม่ทำ แม่กลับมาเหนื่อย ๆ ก็ขอเงินไปซื้อขนมทั้งๆ ที่แม่ยังไม่ได้กินอะไรเลย แม่ใส่เสื้อผ้าที่เก่า มีนิดเดียว แต่หนูมีเป็น 10 ชุด กลับไม่พอใจ อยากได้ใหม่ แม่ก็ซื้อให้ อยากได้อะไร แม่ก็หามาให้ แต่แม่ไม่มีอะไรเลย
2 สัปดาห์ที่แล้ว แม่บ่นอยากกินก๋วยเตี๋ยว แต่หนูไม่ได้ไปซื้อให้เพราะขี้เกียจ จนหนูได้มาที่วัดวะภูแก้ว หนูสำนึกผิดมาก ๆ หนูอยากจะขอโทษแม่ อยากซื้อก๋วยเตี๋ยวให้แม่กิน อยากทำทุกอย่างให้แม่สบาย อยากกราบเท้าแม่ก่อนที่จะไม่มีท่านให้กราบ รักแม่มาก ๆ นะ เด็กหญิงอภัสรา กองขุนทด โรงเรียนพงษ์ศิริวิทยา ชั้น ม.2/2
|
Last Updated on Wednesday, 17 August 2016 05:13 |