Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ประสบการณ์ ของ ข้าราชการบรรจุใหม่ จาก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 20 - 23 กุมภาพันธ์ 2558 ตอนที่ 1
ประสบการณ์ ของ ข้าราชการบรรจุใหม่ จาก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 20 - 23 กุมภาพันธ์ 2558 ตอนที่ 1
Thursday, 06 August 2015 03:11

 

ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ  วัดวะภูแก้ว

 

เพิ่งรู้ว่าโชคดีที่ได้เป็นพยาบาล


         การมาค่ายนี้ก็เป็นธรรมดาของคนไกลวัดทั่วไป โอดครวญไม่อยากจะไป ด้วยคิดว่าก็คงเหมือนตอนประถม, มัธยม, วิทยาลัย ไม่ได้คิดอะไรแต่ก็ต้องมาเพราะโรงพยาบาลบังคับให้มา ด้วยความที่โตขึ้นพอฟังธรรมะที่ท่านวิทยากรสอน ก็รู้สึกดี ฟังแล้วรู้สึกเลยว่าเรานั้นมันช่างโง่เขล่านักที่สมัยโรงเรียนพาไปเข้าค่ายไม่เคยตั้งใจ มาครั้งนี้จึงตั้งใจทำตามที่ท่านวิทยากรบอกทุกอย่าง ฟังแล้วคิดตามได้ข้อคิดอะไรดี ๆ หลายที่สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงาน


          เมื่อก่อนเวลาคนป่วยรอยานานมาทวงถาม ข้าพเจ้าจะตะหวาด ทำหน้าบูดเบี้ยวใส่ตลอด พอฟังท่านวิทยากรพูด คิดปิ้งขึ้นในใจ ว่าที่ตนเองทำไปนั้นมีแต่บาป เพียงแต่เปลี่ยนเจตนา เปลี่ยนคำพูด เราก็จะได้บุญและทั้งยังทำให้มีความสุขกับการทำงานอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงคิดว่า ข้าพเจ้าโชคดีมากแค่ไหนแล้ว ที่เกิดมาทำงานที่ได้ทั้งบุญและได้เงินด้วย ทำให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนทัศนคติ จากไม่เคยชอบงานตัวเอง ทำเพราะแม่อยากให้ทำงานโรงพยาบาลแต่ตอนนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกรักงานของตัวเองและยินดีบริการผู้ป่วยทุกท่าน

นางสาวพจนาส พันจันทึก
เจ้าพนักงานเภสัชกรรม
ร.พ. มหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

  

 


อาชีพนี้ต้องมีสติมาก ๆ


          ข้าพเจ้าได้มาที่วัดวะภูแก้วแห่งนี้ รู้สึกประทับใจในการสอนของท่านอาจารย์ทุกท่าน ข้าพเจ้าเคยไปนั่งสมาธิที่อื่นแต่แตกต่างกัน ที่นี้ได้เข้าใจและเข้าถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าและอะไรอีกหลายอย่าง ที่บางครั้งเราทำตามกันมาโดยไม่ได้เข้าใจความหมายของมัน อีกอย่างอาชีพของข้าพเจ้าต้องมีคำว่า “สติ” ให้มากอย่างที่อาจารย์ดาราวรรณ บอก เพราะถ้าขาดสติแม้แต่น้อยก็อาจจะทำลายชีวิตอีกชีวิตหนึ่งได้ ซึ่งยอมรับเลยว่าสมัยนี้ พยาบาล แพทย์ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ในโรงพยาบาลทำงานไปวัน ๆ ให้หมดไปเวร ๆ แค่นั้น แล้วยิ่งสมัยนี้พยาบาลและแพทย์รุ่นใหม่เป็นเด็กรุ่นใหม่มีความคิดอาจยังต้องแนะนำและอธิบายอีก บางครั้งการเข้าวัดทำสมาธิ น่าจะทำให้คิดได้บ้างไม่มากก็น้อย


จารุวรรณี พันธุ์วัง
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
อายุรกรรมหญิงการไฟฟ้าชั้น 6 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 

 


ที่แรกที่ทำให้ไม่เบื่อในการปฏิบัติธรรม


          ก่อนที่จะได้มาที่นี้มีคนพูดให้ฟังมากมาย น้องและพี่ที่ทำงานเล่าว่าเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ มาแล้วดีมากๆ จึงอยากมาปฏิบัติที่นี้มาก แต่พี่ผู้ชายอีกคนบอกว่า เขาจัดเป็นคอร์สเท่านั้น พอทราบว่า ทาง ร.พ. มหาราช พามาอบรมที่นี่จริง จึงทำให้ดีใจมาก

 

          มาที่นี่รู้สึกดีมาก ๆ เห็นสัจจธรรมชีวิตหลาย ๆ อย่าง เข้าใจใช้ชีวิตมากขึ้น รู้ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร รู้สึกเข้าใจชีวิตดีมาก ๆ จากที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน อีกทั้งยังเป็นที่แรกที่ทำให้การนั่งสมาธิไม่น่าเบื่อ สวดมนต์ไม่น่าเบื่อ และยังทำให้อยากเข้าวัดมากขึ้นอีกด้วย ทำให้รู้จักวิธีนั่งสมาธิให้ได้สมาธิ อย่างแท้จริง โดยเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะได้สมาธิหรอก เพราะเคยทำสมาธิมาหลายที่แล้วไม่ถึงสมาธิสักที มีที่นี้นี่แหละที่นั่งอยู่ดี ๆ ก็เข้าสมาธิลึก พยายามฝืนถอนจิต เพื่อจะไปทานข้าวกับเพื่อน แต่ออกมาไม่ได้ยิ่งฝืนยิ่งปวดหัว จึงทำให้ต้องนั่งต่อไปอีกระยะหนึ่ง จึงออกจากสมาธิได้ เป็นที่แรกที่ทำให้เรารักในการนั่งสมาธิ และรู้สึกอยากมาปฏิบัติธรรมที่นี้อีกครั้ง


วิจิตรา โพธิ์จันทร์ (นักเทคนิคการแพทย์ปฏิบัติการ)
หน่วยโลหิตวิทยา กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 

 

 

Detox จิตใจ


          ในสภาวะที่เร่งรีบของสังคมปัจจุบัน ต่างคนต่างนึกถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง ทำให้มีวิถีการดำเนินชีวิตที่แก่งแย่ง แข่งขันกัน การดำรงชีวิตอยู่ในสภาพ และลักษณะสังคมแบบนี้ ถ้าจิตใจเราไม่เข้มแข็ง ไม่มีภูมิคุ้มกันของชีวิตที่ดีพอ ไม่มีคุณธรรม ศีลธรรม อาจทำให้การทำหน้าที่ของเราไขว้เขวได้


          การทำงานอยู่ในสภาวะที่เจอบุคคลกำลังต่อสู้ ยื้ดยุดกับทั่งที่กำลังจะสูญเสีย ความกดดัน ความเครียด จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบข้าง พอเราเจอเหตุการณ์และสิ่งแวดล้อมเดิมๆ บ่อย ๆ เข้า เหมือนเป็นการสะสมพิษไว้ในจิตใจ


          การได้มาอบรมพัฒนาจิต ถือเป็นโอกาสสำคัญในการที่จะเรียนรู้จิตใจของตัวเอง ชะล้างสิ่งไม่ดี สะสมและหมักหมมมานานถือเป็นการ Detox จิตใจ เอาสิ่งที่สกปรกออก ให้มีพื้นที่ในการรับสิ่งที่ดีและถูกต้อง เสริมสร้างพลังจิตให้แข็งแกร่งและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดทั้งทางโลกและทางธรรม


นางสาวธีราภรณ์ พุตนอก
พยาบาลวิชาชีพ
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 

 

 

พาลูกมาปฏิบัติธรรมด้วย


          ก่อนมาอบรม รู้สึกดีใจมากเนื่องจากตอนนี้กำลังตั้งท้องได้ 4 – 5 เดือน ด้วยความที่เราเป็นพยาบาลก็รู้ว่าเด็ก 4 – 5 เดือนที่อยู่ในครรภ์มารดา เริ่มจะได้ยินเสียงที่เราพูดได้ ก็คาดหวังว่าเขาจะได้ฟังธรรมที่เราได้มาอบรมในครั้งนี้ด้วย ช่วงแรกที่เข้าอบรมและฟังธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิ รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามากถึงแม้ว่าเราจะตั้งใจ และพยายามทำทุกกิจกรรมให้ดีที่สุด ด้วยความตั้งใจแต่ก็ยังทำไม่ดีอย่างที่ตั้งใจ เนื่องจากไม่มีสมาธิ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเข้าวันที่ 2 ของการอบรม รู้สึกมีสมาธิมากขึ้น เดินจงกรมก็ได้มีสมาธิมากขึ้น นั่งสมาธิได้นานขึ้นรู้สึกดีใจและมีกำลังใจที่จะทำมากขึ้น และตั้งใจว่า จะใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ในการอบรมครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่ออุทิศบุญกุศลแก่บิดา มารดา พร้อมทั้งญาติพี่น้อง และให้ลูกที่อยู่ในครรภ์ด้วย

 


          สิ่งที่ได้รับในการอบรมครั้งนี้ ได้มากกว่าที่คิดไว้ ได้ทั้งแนวคิดและแนวทางในการทำสมาธิ การทำงาน การใช้ชีวิต และได้รางวัลเป็นหนังสือธรรมทั้งหมด 4 เล่ม จากการนั่งสมาธิได้นานเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจมาก แต่ในความตั้งใจที่มากกว่านั้น คือ อยากได้หลวงพ่อพุธ องค์เล็ก ๆ ที่อาจารย์ผู้อบรมจะใช้เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ทำสมาธิได้ดีที่สุด ถ้าเราได้มาจะนำไปบูชาและเก็บไว้บอกกับลูกที่จะเกิดมาเป็นสิ่งที่เรา 2 คน ตั้งใจและพยายามในการทำความดี ขณะที่เขายังอยู่ในท้อง และมีพ่อที่คอยเป็นกำลังใจให้เรา 2 คน แต่ถึงความคาดหวังครั้งนี้จะเป็นเช่นไร สิ่งที่ตั้งใจอีกอย่างคือจะกลับมาที่วัดแห่งนี้อีกครั้งหลังจากที่ลูกเกิดมาแล้ว


น.ส. มลฤดี รอดวินิจ
ร.พ. มหาราชนครราชสีมา
ตึก CCU ฉก.4
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 

 


เพื่อรอยยิ้มของแม่


          เดิมที่ข้าพเจ้าเป็นชาวพุทธ ที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเลย เมื่อข้าพเจ้าได้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมข้าพเจ้าได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาต่าง ๆ เช่น เรื่องพิธีกรรมทางพุทธศาสนา เรื่องของชาดก และที่สำคัญเรื่องของการพัฒนาจิต สมาธิ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ก่อนข้าพเจ้าก็ทำอะไรตามๆ ที่เขาบอกมาไม่เคยรู้เรื่องราว ความหมายของพิธีกรรม ว่าทำเพื่ออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่หลังจากอบรมข้าพเจ้าได้มีความคิดที่เปลี่ยนไปว่าทุกหลักคำสอน ทุกพิธีกรรม ล้วนมีเหตุและผล

 

          ข้าพเจ้ามีความเข้าใจในผลของการกระทำมากขึ้น เรื่องของบุญคุณพ่อแม่ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก ที่ช่วยทำให้ข้าพเจ้าตระหนักถึงเรื่องนี้มาก ๆ ยิ่งขึ้นในขณะที่นั่งสมาธิ ที่มีการเปิดเทปเสียงของบาปจากการกระทำไม่ดีต่อพ่อแม่ เมื่อข้าพเจ้านึกถึงตอนที่ข้าพเจ้ากลับบ้าน (บ้านเกิดอยู่ต่างจังหวัด) แล้วเห็นรอยยิ้มของแม่แล้ว ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกแน่นอยู่ในอก ทั้งที่เป็นเรื่องที่น่าปีติยินดี หลังจากลองลองคิดใคร่ครวญดูพบว่า เพราะข้าพเจ้าไม่ค่อยได้กลับไปหาท่าน (2 -3 เดือนไปที) นับจากวันนี้ไปข้าพเจ้าจะพยายามไปหาท่าน ได้เห็นรอยยิ้มของท่านทำให้ข้าพเจ้าสุขใจยิ่งนัก และท่านก็คงจะสุขใจเช่นกัน

 


          ในการมาปฏิบัติธรรมนี้ ข้าพเจ้าได้ฝึกความอดทน ความมีเหตุมีผล เป็นคนที่เข้าใจคนอื่นมากยิ่งขึ้น เป็นคนที่พยายามมองโลกในแง่ดีมากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณวัดวะภูแก้ว ที่ได้ให้โอกาสกับข้าพเจ้าในการปฏิบัติงาน ข้าพเจ้าได้พบความสุข ความเจริญ ต้องขอขอบคุณ ประสบการณ์ที่ดีที่ได้จากวัดวะภูแก้ว

อดิศักดิ์ เหลือผล
นักเทคนิคการแพทย์ปฏิบัติการ
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 

 

สถานที่แห่งความทรงจำ


          ข้าพเจ้าเคยมาปฏิบัติธรรม ที่นี่เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วตอนนั้นอยู่ ม.3 ได้สิ่งดีๆ กลับไปมาก กล้าแสดงความรักต่อคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น กลายเป็นเด็กที่ไม่เอาแต่ใจเลยกลับมาวัดใหม่อีกครั้งในวันนี้ โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็ยังรู้สึกประทับใจเช่นเดิม ได้ฝึกสติ สมาธิให้แข็งแกร่งมากขึ้น ย้ำเตือนสิ่งที่เราไม่ควรลืม เรื่องบาปบุญคุณโทษความรักต่อพ่อแม่ ได้นั่งสมาธิ ภาวนา ถึงไม่ได้เป็นแชมป์สมาธิอย่างน้อยก็ได้นั่งภาวนา ส่งกุศลผลบุญให้ผู้มีพระคุณ นับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่อยู่ในความทรงจำและมีบุญคุณกับข้าพเจ้ามาก อีกทั้งวิทยากร, อาจารย์ทุกท่านก็มีพระคุณ สามารถถ่ายทอดความรู้ทางธรรมได้อย่างเข้าใจลึกซึ้ง กลับไปคงบอกต่อลูกหลาน, เพื่อนฝูงว่าวัดวะภูแก้วนี้สร้างคนให้เป็นคนดีได้จริงๆ


นางสาวฟองการินทร์ เวหา
หอผู้ป่วยพิเศษ กฟภ.9
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 

 


แม่ต้องหายป่วยด้วยมือลูก


          ฉันเป็นคนที่ขยัน อดทน มีความมุ่งมั่นสูง แต่มีข้อเสียคือเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ฟังความคิดเห็นคนอื่นพูดจาหยาบคายเป็นบางครั้ง ชอบพูดใส่อารมณ์กับครอบครัว เป็นห่วงพ่อแม่น้อยกว่าพ่อแม่เป็นห่วงเรา ในอดีตอยู่กับยายมาโดยตลอด พ่อแม่แยกทางกัน แม่ส่งเรียนจนประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานที่ดีแต่รู้สึกว่าตัวเองตอบแทนบุญคุณพ่อแม่น้อยมาก


          เมื่อได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าวะภูแก้ว ทำให้คิดได้ว่าจะต้องพูดจาดี ๆ กับครอบครัว จะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ จะรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทให้หายด้วยมือของเราเอง จะทำความดีทุกลมหายใจ จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ได้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์และจะหมั่นทำบุญ สร้างกุศลเพื่อจะได้ขึ้นสวรรค์

นางสาวอัญชลี ชลเมธีกุล
กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558


 


 


 

 

Last Updated on Thursday, 06 August 2015 03:55
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner