Wednesday, 05 August 2015 02:24 |
ได้ธรรมะมากมาย... สาธุ !
ใช้ชีวิตมาตั้งแต่เล็กจนโต ผมก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้บำเพ็ญภาวนาบ่อยนัก เดิมผมทำงานเป็น NGO ช่วยเหลือเด็กออทิสติกตั้งแต่เรียนจบปี 2553 พอปี 2554 ผมก็ได้ย้ายมารับราชการที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตำแหน่งนักกิจกรรมบำบัด ผมมักจะหาโอกาสทำบุญตามโอกาสเป็นกรรมการผ้าป่าบ้าง งานกฐินบ้าง ตั้งใจอยากทำบุญด้วยการเจริญภาวนาบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสสักที มีผู้ป่วยแนะนำให้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว เป็นวัดป่าสายปฏิบัติของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย หลายๆ คนได้สิ่งดี ๆ จากการมาปฏิบัติธรรมที่นี่ วันหลังวันเล่า ผมก็ยังหาเวลามาปฏิบัติไม่ได้ จนมาถึงปี 2558 ผมได้บรรจุเป็นข้าราชการใหม่ กระทรวงสาธารณสุข ข้าราชการใหม่ทุกคนต้องผ่านการอบรมหลักสูตรการเป็น ขรก.ที่ดี ในตารางการอบรมมีการฝึกเจริญภาวนาที่วัดวะภูแก้ว เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน (20 – 23 ก.พ. 58) ผมตื่นเต้นดีใจที่จะได้มาสร้างบุญที่วัดวะภูแก้วเสียที
ผมรีบจัดกระเป๋าเสื้อผ้า นอนแต่หัววัน ตื่นแต่เช้าวันที่ 20 ประมาณตี 5 อาบน้ำแต่งตัว เดินทางโดยรถบัสมาที่วัดวะภูแก้ว ด้วยจิตใจที่พองโต ตั้งใจว่าจะตั้งใจปฏิบัติและจะทำให้ดีที่สุด
ตารางการฝึกที่นี่แน่นมาก ต้องตื่นตี 4.30 แล้วเริ่มทำวัตร ตี 5 มีทั้งการบรรยายเรื่องกฎแห่งกรรม การเดินจงกรมและนั่งสมาธิ เมื่อยขบทั้งตัวตั้งแต่วันแรก แต่จิตใจผมสงบขึ้น มีสมาธิ ผมตั้งใจว่าจะนั่งสมาธิให้เป็นแชมป์ทั้ง 8 ครั้ง (ซึ่งผมได้มา 7 ครั้งแล้ว เหลือแค่พรุ่งนี้เช้าอีก 1 ครั้ง) วันแรกๆ ขณะนั่งสมาธิ รู้สึกปวดเมื่อยทั้งตัว แข้งขาเหมือนขยับไม่ได้ แต่ผมลองพยายามต่อ อาการปวดก็หายไป เหลือแต่ความเบาสบาย วันต่อมาผมรู้สึกว่า ขณะเจริญสมาธิผมรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้น จากนั้นจึงรีบถอนสมาธิ กลัวเพลินไม่กลับร่างครับ อีกวันผมก็เห็นแสงและเห็นภาพนิมิตครับ เห็นตัวเองไปยังที่ที่มีแสงสีขาว มีต้นหญ้าเขียวขจี มีทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีม่วงเล็กๆ 2 ข้างทาง ผมเดินไปตามทางเดินเรื่อย ได้เห็นมีกลุ่มคนชุดขาว (ชุดเจริญภาวนา) ประมาณ 5-6 คน ตั้งกลดสีขาว นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ หนึ่งในนั้นคือตัวผมเอง นี่เป็นประสบการณ์จากการเจริญภาวนาอย่างจริงจังของผม อาจารย์ยังสอนเรื่องการสร้างพลังจิตเพื่อการเยียวยาอาการทางกายได้ และ หมอที่ดีต้องดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ สัญญาว่าผมจะรักษาผู้ป่วยด้วยความรัก จะใช้ใจในการรักษาผู้ป่วยให้เหมือนญาติพี่น้องครับ
อีกประสบการณ์ที่ได้รับคือเรื่องกฎแห่งกรรม กรรมจะส่งผลต่อมนุษย์ทุกคน ใครทำกรรมดีย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดี ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี สุคติภูมิ ได้แก่ มนุษย์ เทวดา และพรหม ถ้าใครทำกรรมชั่วก็จะได้รับกรรม ตายไปก็ไปเกิดในทุคติภูมิ ได้แก่ นรก, เปรต, อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ผมได้เรียนรู้ว่าชีวิตคนเราไม่เที่ยง ตามกฎของไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จึงตั้งใจทำดี รักษาศีล 5 หมั่นเจริญสติภาวนา หากมีปัญหาจงใช้หลักอริยสัจ 4 ในการแก้ไขปัญหา จงเพียรพยายามด้วยหลักอิทธิบาท 4 ใช้หลักพรหมวิหาร 4 กับผู้ป่วยและเพื่อนร่วมงานและอย่าประมาทในธรรม ว่าที่ รด. ภูวดล เมืองคำ ข้าราชการบรรจุใหม่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
อภัยได้ใจก็เบา
ก่อนมาปฏิบัติธรรมที่วัด ข้าพเจ้ามีความทุกข์ใจจากผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจะมาแย่งสิ่งอันเป็นที่รักของข้าพเจ้าไป แต่ก็ไม่สามารถทำได้ แต่ข้าพเจ้านั้นมีความรู้สึกโกรธแค้นเธอคนนั้นมาก รู้สึกเกลียดเธอคนนั้นมาก อยากให้เธอนั้นได้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนที่เธอได้ทำกับข้าพเจ้า แต่เมื่อได้ฟังท่านอาจารย์พูดถึงเรื่องการให้อภัย การไม่จองเวร เพื่อเราจะได้ไม่ต้องเกิดมาเพื่อเจอกัน แก้แค้นกันอีก ข้าพเจ้าจึงตั้งใจสวดมนต์เจริญภาวนาอโหสิกรรมให้เธอคนนั้นในสิ่งที่เธอทำกับข้าพเจ้า จากจิตที่หนักมันก็เบาลง เพียงเพราะข้าพเจ้าอภัยให้เธอ และคิดว่าชาติที่แล้วข้าพเจ้าอาจไปแย่งของที่เธอรักมาเช่นกัน ตอนนี้จิตใจของข้าพเจ้าเบาสบายกว่าที่เคยเป็น ข้าพเจ้าจะหมั่นสวดมนต์ภาวนาให้เราเลิกแล้วต่อกัน ไม่จองเวรกันต่อไปอีก หากไม่ได้มาปฏิบัติธรรมที่นี้คงไม่ได้มีความรู้สึกดีเช่นนี้ คงต้องมีความแค้นอยู่ในใจต่อไปอีก ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่มอบทางสว่างให้กับข้าพเจ้าอย่างสูงยิ่ง
วิรารัตน์ บัวแดง พยาบาลวิชาชีพ ข้าราชการบรรจุใหม่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
ยาสำคัญน้อยกว่าสมาธิ
การอบรมในโครงการอบรมข้าราชการใหม่ โดยการเข้าวัดปฏิบัติธรรม เป็นโครงการที่ดิฉันกังวลที่สุด กังวลว่าจะลำบาก กังวลว่าจะเสียเวลา แต่หลังจากนั่งสมาธิเพียงยกแรกก็ทราบทันทีว่า เวลานับจากนี้คือเวลาที่ต้องตักตวงกลับไปให้ได้มากที่สุด หลักการใช้ชีวิตตามแบบชาวพุทธโดยมีสติร่วมด้วยจะส่งเสริมให้เราคิดอะไร ๆ ได้แจ่มแจ้งขึ้น
เดิมดิฉันทำงานในแผนกที่ต้องพบเจอกับคนไข้ Autistic Syndrome Disorder, เด็กที่มีปัญหาทางการเรียน LD สมาธิสั้น ADHD ทุกครั้งที่ผู้ปกครองนำเด็กมาแล้วแจ้งว่าพาน้องเข้าวัด ในใจดิฉันคิดเลยว่า... “ตัวโรคนี้ต้องมีการฝึกปรับพฤติกรรม และ ปรับยา ยาสำคัญมาก เพียงเข้าวัดคงได้แค่เสียเวลาเปล่า...” แต่หลังจากมาศึกษาและลองปฏิบัติสมาธิแล้ว พบว่า สิ่งที่เด็กเหล่านั้นขาดอีกอย่างนอกจากยาคือ “สมาธิ” กิจกรรมใดที่ส่งผลพัฒนาสมาธิ/ สติ จะเป็นประโยชน์กับเด็กเหล่านั้นทั้งสิ้น
พรินทร์ อัศเรศรังสรรค์ Speech Language Pathologist กลุ่มงานจิตเวชเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
งานไม่ใช่แค่หน้าที่แต่คือบารมีที่ยิ่งใหญ่ สิ่งแรกคือรู้ว่าไปวัดก็ไม่อยากมาเลย มาปฏิบัติธรรมหรือ ? ไม่อยากเลย ยังไม่พร้อม ใจยังไม่สะอาดพร้อมที่จะรับธรรมเลย
พอมาถึงวันแรกอึดอัดมาก อยากกลับบ้าน พอเริ่มอยู่สักพักก็เริ่มปรับตัวมาฟังธรรมคำสอนกับครูหลายๆ ท่าน ได้ข้อคิดดีๆ ไปปรับใช้ ปรับความคิดตัวเองใหม่ แต่ก่อนคิดมาตลอดว่างานพยาบาลคืองานที่ต้องทำตามหน้าที่ พอเรียนรู้แล้วต้องปรับความคิดใหม่ว่ายิ่งเราเสียสละให้ผู้อื่น ดูแลผู้อื่นมากเท่าไร (แต่ต้องทำด้วยใจที่บริสุทธิ์) ก็ยิ่งจะได้บุญบารมีมาก หนูปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องผ่าตัด ยิ่งเจอความทุกข์ของผู้ป่วยมากมาย ผู้ป่วยเกิดอุบัติเหตุปางตายมากมาย หนูจะนำข้อคิดทางธรรมไปปรับใช้กับการทำงานให้มากยิ่งขึ้น วันนี้ดีใจที่ได้มาวัดวะภูแก้ว ถ้ามีโอกาสก็จะพาครอบครัวมาปฏิบัติธรรมที่นี่อีกค่ะ
ยุพาภรณ์ ไชยบล ห้องผ่าตัด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
ถูกจริตกับการปฏิบัติที่วัดวะภูแก้ว
ข้าพเจ้าเคยเข้ารับการอบรมพัฒนาจิตเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี อาจารย์ให้ไปอบรม 2 คืน 3 วัน ข้าพเจ้าจำไม่ได้ว่าเป็นวัดอะไร แต่จะเป็นแนวปฏิบัติที่เคร่งมาก ข้าวเย็นไม่กิน กินน้ำปานะแทน สวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น แล้วก็นั่งสมาธิทั้งวัน มีผ่อนคลายบ้าง กวาดลานวัด โยคะบ้าง แต่จะให้นั่งสมาธิเสียมากกว่า พอจบการอบรมก็มีความรู้สึกประหนึ่งปลาติดเบ็ดแล้วดิ้นหลุดรอดมาได้แล้วจะไม่ไปกินเบ็ดอีก
แต่มาวัดวะภูแก้ว เป็นกิจกรรมที่ไม่ตึงมาก ไม่หย่อนมาก อากาศดี การปฏิบัติก็เข้ากับจริตของข้าพเจ้าได้มากกว่า ครั้งก่อนที่ไปอบรมข้าพเจ้าไม่รู้จักขั้นตอนของสมาธิ มาที่นี่ข้าพเจ้าได้รู้แล้ว ข้าพเจ้าชอบและรู้สึกรักวิทยากรทุกท่าน ข้าพเจ้ากลับไปจะทำทุกอย่างที่เหล่าอาจารย์ได้สอนมา ข้าพเจ้าเชื่อว่าการสวดมนต์ และ การเจริญภาวนามีส่วนที่ทำให้ข้าพเจ้าสอบบรรจุเป็นข้าราชการได้ รวมทั้งการเป็นคนดีของพ่อและแม่ เชื่อฟังคำสอนของท่าน ก็มีผลด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้าเชื่ออย่างนั้น ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นชาวพุทธ
นางสาวสุพิชฌาย์ บุญเกตุ เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน กลุ่มงานพัสดุและบำรุง โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
อยากส่งผู้ป่วยให้ไปดี
จากการเข้าอบรม แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำให้ได้อะไรต่าง ๆ มากมาย เช่น แนวทางการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ซึ่งก่อนนี้จะมีสติน้อยมาก เวลาโกรธก็จะโกรธนาน และจดจำนาน สังเกตว่าหัวใจเราเต้นเร็วเมื่อมีอารมณ์โกรธ และเราก็ไม่สบายใจ จิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่จะภาวนาให้ได้ ความฝันอยากตัดกิเลสให้ได้ แต่ก็มีห่วงเยอะ
ชอบในเรื่องการส่งให้ผู้ป่วยตายดี ซึ่งอยากช่วยผู้ป่วยในเรื่องนี้ เพราะตึกที่ทำงานมีผู้ป่วยเรื้อรังมาก ส่วนใหญ่ก็จะเสียชีวิตที่ตึก ดังนั้นในวาระสุดท้ายของเขา อยากจะส่งพวกเขาเหล่านั้นไปสู่สุคติ
อีกเรื่องที่ทำให้นึกถึงและร้องไห้ตลอด คือ พระคุณของพ่อแม่ ท่านต้องลำบากมากกว่าจะเลี้ยงเราให้เติบโต โตแล้วท่านก็ยังห่วงเราเสมอ ตัวข้าพเจ้าเองต้องทำงานจึงมีเวลาที่จะกลับไปเยี่ยมท่าน ไปดูแลท่านน้อยมาก เพราะพวกท่านอยู่ที่ จ.อำนาจเจริญ หาเวลาที่จะกลับไปแทบนับครั้งได้ และมีครั้งหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ท่านเป็นห่วงมาก ตอนสมัยเรียนไปหาเพื่อนโดยไม่ได้บอกท่าน ทำให้ท่านเป็นห่วงมาก ความรู้สึกเสียใจยังคงอยู่ไม่เคยลืม ต่อนี้ไปลูกจะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจค่ะ
ขอขอบคุณวัดวะภูแก้วที่ให้อะไรต่าง ๆ มากมาย รักพ่อกับแม่มาก
ศรีจรรณ สุภิวงศ์ หอผู้ป่วย ศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
ดูแลผู้ป่วยจนลมหายใจสุดท้าย จากประสบการณ์ 4 วัน 5 คืน ที่ได้มาอยู่วัดวะภูแก้ว ข้าพเจ้าได้ประสบการณ์และข้อคิดดีโดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยในวาระสุดท้ายของชีวิต ตึกที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่มีผู้ป่วยมะเร็งค่อนข้างเยอะ มีครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเคยได้มีโอกาสดูแลผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ซึ่งดูจากอาการแล้ว คุณหมอลงความเห็นว่าน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน ข้าพเจ้าเคยได้ยินได้ฟังเรื่องจิตสุดท้ายก่อนตายมาบ้าง จึงได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับญาติ และได้แนะนำญาติให้สวดมนต์ให้คนป่วยฟัง จนวันที่คนป่วยจะจากไปมาถึง คนป่วยไม่สามารถรับรู้หรือพูดคุยได้ ญาติก็มัวแต่ร้องไห้ ข้าพเจ้าจึงเข้าไปสัมผัสมือผู้ป่วย แล้วกระซิบที่ข้างหูว่า คุณป้าได้ยินหนูไหมคะ ถ้าได้ยิน คุณป้ากระพริบตา 1 ครั้ง ท่านก็กระพริบตา ข้าพเจ้าก็ถามว่าคุณป้าเคยทำบุญไหมคะ ถ้าเคยกระพริบ 1 ครั้ง เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า ในวาระสุดท้ายของชีวิต ผู้ป่วยที่กำลังจะตายสามารถรับรู้ได้ เพียงแต่เขาไม่สามารถโต้ตอบเราได้ ข้าพเจ้าจับมือและชวนผู้ป่วยให้นึกถึงกรรมดี จนกระทั่งท่านหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา ญาติ ๆ ก็ทำใจได้ จากเหตุการณ์นั้นทำให้ข้าพเจ้ามีความปีติมาก และจะทำทุกครั้งที่มีโอกาส ยิ่งได้มาฟังอาจารย์เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า การได้ช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากจะได้บุญแล้วยังทำให้เรามีความสุขใจ
และการมาวัดครั้งนี้ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้ารู้สึกได้เลยคือ ธรรมะเกิดได้จากการฟัง สติเป็นสิ่งแรกที่มนุษย์ทุกคนควรมีอยู่ตลอดเวลา การจัดกิจกรรมต่างๆ ในวัดวะภูแก้ว ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์สั่งสมพลังจิตให้ข้าพเจ้าได้อย่างดีเยี่ยม
ข้าพเจ้าอยากกราบขอบพระคุณ บุญบารมี กรรมสัมพันธ์ใดก็ตามที่นำให้ข้าพเจ้ามาและได้มาพบอาจารย์วิทยากรทุก ๆ ท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจและมีความสุขมาก หากมีโอกาส ข้าพเจ้าจะกลับมาใหม่ และหลังคลอด หากข้าพเจ้ามีบุญบารมี ขอให้บุตรของข้าพเจ้าที่กำลังจะคลอดออกมา ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรม ณ ที่วัดวะภูแก้วแห่งนี้ เหมือนที่ข้าพเจ้าได้มา
ลักษณาพร สีหนันทวงศ์ พยาบาลวิชาชีพ หอผู้ป่วย .. เวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 จิตละเอียดขึ้น มาตรฐานสูงขึ้น การปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ ผมได้เรียนรู้การทำสมาธิอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เคยฝึกสมาธิมาตั้งแต่สมัยอนุบาล แต่ก่อนนั่งสมาธิก็นั่งไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้มีความหมายอะไรนอกจากเมื่อย ส่วนการเรียนพระพุทธศาสนาก็เป็นเหมือนการเรียนปรัชญา แค่รู้สึกว่าเชื่อในการทำความดี รับผิดชอบในงาน ทำให้เต็มความสามารถในการดูแลผู้ป่วยให้ได้มาตรฐานก็เท่านั้น แต่หลังจากอบรมพัฒนาจิต (ขอเรียกว่าการ Work Shop สมาธิแล้วกัน) อาจารย์ถ่ายทอดได้ดีมาก ๆ เข้าใจขั้นตอนดีมาก เป็นความเข้าใจการทำสมาธิครั้งแรกในชีวิต “การทำสมาธิ” ผมทำได้บ้าง แม้ไม่ได้แชมป์ แต่ที่ได้คือ “สติ” และความละเอียดในการมองโลก การอบรมครั้งนี้ทำให้ผมเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานมาก ก่อนมาดูแลผู้ป่วยแค่ให้ได้ตามมาตรฐาน ดูแลแต่กาย แต่กลับจากอบรมครั้งนี้ ผมจะกลับไปดูแลใจของผู้ป่วยด้วย
วัชระ หน่วยไตเทียม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขียนไว้ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
|
Last Updated on Thursday, 06 August 2015 04:33 |