Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ดร. ตุ๊ก กับงานสร้างเยาวชนของชาติ
ดร. ตุ๊ก กับงานสร้างเยาวชนของชาติ
Friday, 07 August 2009 14:41

โดย  คุณหลวง
ในระยะหลังมานี้ ผมเดินทางไปมากรุงเทพฯ อุดรธานี อาทิตย์ละ ๑ ครั้ง หรือบางอาทิตย์ก็ถึง ๒ ครั้ง เนื่องจากจะต้องติดต่อประสานงานกับคนหลายคน  ในเรื่องที่เห็นว่าจะต้องได้รับการดูแล  ผมชอบเดินทางโดยรถยนต์  เพราะสะดวกในการแวะตามทางตามใจชอบ  ผู้ร่วมเดินทางในแต่ละครั้งมีจำนวนมากน้อย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขออนุญาตผู้ปกครองที่บ้าน  ส่วนมากก็จะเป็นขาประจำ ๒-๓ คน  ที่ล้วนอยู่ในวัยดึกด้วยกัน และเป็นเพื่อนเดินทางร่วมกันมาเป็นเวลานานกว่า ๒๐ ปีแล้วทั้งนั้น
พวกเราจะแวะตลอดเส้นทาง ทั้งขาไปและกลับ หากาแฟดื่ม หาข้าวเช้ากินที่ปั๊มน้ำมันขาประจำที่โคราช  กลางวันก็อิ่มท้องด้วยไก่ย่าง ส้มตำ ไส้กรอกอีสาน ซึ่งถือเป็นอาหารประจำคณะ  ตกดึกก็จะหาโอกาสไปเสาะหาข้าวต้มกินกัน  ในอุดรธานีมีหลายร้าน ล้วนขายดิบขายดีเป็นล่ำเป็นสันร่ำรวยไปตามๆ กัน
สิ่งหนึ่งที่ได้พบได้เห็นเป็นประจำกันเกือบทุกครั้งที่ได้แวะเวียนเข้าไปก็คือเด็กสาวๆ อายุน้อยๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ในวัย  ๑๘-๒๔ ปี ทำหน้าที่เชียร์เบียร์ ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็ล้วนนำสัตว์คึกคะนอง  จำพวกเสือสิงห์กระทิงแรด  ช้างม้าวัวควาย  มาเป็นเครื่องหมายการค้า ให้ผู้ต้องการดื่มได้จินตนาการ  ถึงพลังที่แต่ละยี่ห้อจะสามารถสร้างความฮึกเหิมได้  บรรดาเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์นี้มักจะให้สาววัยละอ่อนมาเป็นพนักงานประชาสัมพันธ์  ส่งเสริมชักชวนชี้แนะให้ดื่ม  สาวเชียร์เบียร์พวกนี้จะแต่งกายประจำยี่ห้อของตัว ด้วยเครื่องแบบล่อเสือล่อจระเข้ที่เล็กเกินมาตรฐาน ท่อนบนรัดรูปรัดทรง ท่อนล่างสั้นเต่อจนเหมือนนุ่งกางเกงใน พันด้วยผ้าแคบที่สุด
ตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม ที่จังหวัดอุดรธานีถูกใช้เป็นฐานทัพของกองทัพอเมริกัน  อุดรฯ ก็เปลี่ยนไปแบบถอดรูปเพียงชั่วข้ามคืน กลายเป็นจังหวัดที่มีหลากหลายองค์ประกอบ  ในยุคนั้นมีฝรั่งผิวขาวผิวดำเดินกันเต็มบ้านเต็มเมือง  ล้วนแต่มีหน้าที่เสี่ยงตายออกไปรบไปทำสงครามที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา พอรอดตายกลับมาก็มาฉลองกันให้มึนเมา  เพื่อลบล้างบาดแผลใจจากสนามรบ ให้ได้ปลดปล่อยจากความทุกข์ทั้งหลายชั่วขณะ โดยการจมอยู่ในอบายมุขที่แสนหอมหวาน  ชีวิตแต่ละวันไม่มีอนาคต
โอกาสนี้เป็นโอกาสทองของผู้คนในจังหวัด ต่างรีบฉวยโอกาสลงทุนทำธุรกิจอย่างเต็มไม้เต็มมือ  สาวๆ ที่มีผิวคมขำออกน้ำตาลไหม้ก็ยึดอาชีพเป็นแม่บ้านของนายฝรั่ง  บ้างก็ยอมตัวเป็นมาดามชั่วคราว สร้างเนื้อสร้างตัวได้ดิบได้ดีไปอยู่เมืองนอกเมืองนาเป็นมาดามถาวรกันก็มาก  ฐานะความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของคนอุดรฯ ดีขึ้นอย่างรวดเร็วทันตาเห็น เงินทองสะพัดไปทั้งจังหวัด  ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยขึ้นในชุมชน ในหมู่บ้าน ต่างก็ได้รับการยกย่องนับหน้าถือตา  เป็นตัวอย่างของสังคมเล็กๆ ที่ยึดการยอมตัวเป็นแฟนฝรั่ง เพื่อนำความ ร่ำรวยในชั่วพริบตาให้พ่อให้แม่ โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมวัฒนธรรม  หมดแล้วยุคแห่งความแข็งแกร่งอดทนต่อความยากลำบากในการทำงานหาเลี้ยงชีพอย่างมีศักดิ์ศรีในตัวเอง
เมื่อสงครามเวียดนามยุติลง  ชีวิตคนเมืองอุดรฯ ก็เงียบเหงาตามไปด้วย  ทำมาหากินอะไรก็ไม่สะดวก เงินก็ไม่คล่องมือเหมือนเดิม  เด็กสาวที่ข้ามขั้นชีวิตต้องระหกระเหินย้ายถิ่นข้ามจังหวัดไปตามแสงสีเสียง  หวังไปตายเอาดาบหน้า  ธุรกิจบันเทิงอันเป็นแหล่งอบายมุข  ยั่วยุกิเลสตัณหา ไม่ว่าอะไรที่พอจะทำเงินได้ ต้องรีบคว้ารีบทำไว้ก่อน  ไม่ต้องไปคำนึงถึงเรื่องศีลธรรมหรือแม้แต่วัฒนธรรมอันดีงาม ไม่สนใจเรื่องบุญเรื่องบาป  การรักนวลสงวนตัวที่ปู่ย่าตายายพร่ำสอน ของมีอยู่กับตัวก็ต้องทำมาหากินก่อนที่ความเต่งตึงจะโรยร่วงไปตามวัย  เด็กสาวหรือแม้แต่เด็กชายเหล่านี้ชีวิตวัยรุ่นขาดหายไป  พวกเขาเหมือนตัวโน๊ตดนตรีที่คร่อมจังหวะข้ามจังหวะชีวิตไป  ต่างห่างเหินจากธรรมและความละอายต่อบาป  อำนาจเงินที่สามารถดลบันดาลความฟุ้งเฟ้อสุขสบายให้ได้อย่างที่คนรุ่นก่อนๆ ไม่เคยเอื้อมมือถึง  ทำให้ครอบครัวของคนเหล่านั้นปิดหัวใจกับเรื่องของเกียรติภูมิ และเรื่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ผู้มีศีลธรรมเป็นพื้นฐาน  จนลืมตัวลืมตายลืมกรรมกันจนหมดสิ้น
ชีวิตของเด็กวัยรุ่นไทยในปัจจุบันก็อยู่ในวงจรเดียวกันนี้ โดยเฉพาะเด็กตามต่างจังหวัดที่ต้องดิ้นรนเพราะความยากแค้นลำเค็ญของพ่อแม่ผู้เอาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน  วัยรุ่นไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กสาววัยอ่อน ที่ซึมซับและหลงระเริงไปตามวัฒนธรรมที่ใช้เงินเป็นใบเบิกทางต่างๆ ที่ระบาดเข้ามาราวกับโรคร้ายเข้ามาเกาะกุมหัวใจของพวกเขา  ชักนำไปในทางเสื่อมเสีย เสียส่วนใหญ่  ทำลายทั้งตัวและอนาคตของเยาวชนไทย  โดยเฉพาะเยาวชนตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั้งหลายที่วัฒนธรรมโลดโผนถาโถมเข้ามาเหมือนกับลาวาจากภูเขาไฟที่ร้อนแรง เหมือนไฟบรรลัยกัลป์ที่หลั่งไหลไปทางใดก็เผาผลาญไปตลอดทางจนหมดสิ้น  เหลือไว้แต่ซากแผ่นดินที่มอดไหม้หาความเจริญไม่ได้
จากตลาดสดพื้นบ้านเล็กๆ กลางชุมชนตามละแวกบ้าน  กลายมาเป็นตลาดสมัยใหม่ติดแอร์ในชื่อฝรั่ง  กระจายครอบคลุมไปทุกหัวระแหง  ขนาดประชิดกับเขียงนากลางนาที่เคยปลูกข้าว  ปลูกผักหญ้าไว้เก็บกินจิ้มปลาแดก ปลาแจ่ว เปิบปั้นข้าวเหนียว  เขียงนาที่เคยเป็นที่พักป้องแดดกินข้าวเอนกายตอนเที่ยงวัน เป็นเพียงตัวอย่างสิ่งปลูกสร้างที่หลงเหลือไว้เป็นสัญลักษณ์ของนาข้าวในอดีตที่ดูเกะกะสายตา  ร้านสะดวกซื้อจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ชาวบ้านนาจะได้อาศัยอุ้มลูกจูงหลานเข้าไปพักผ่อน ไปพักร้อนผึ่งรับไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทันสมัย เข็นรถเข็นเล่นกันในร้านแทนการขี่ควายเลี้ยงวัวกลางทุ่งที่แสนทรมาน
 ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสายเลือดของความเป็นครู ที่ตลอดชีวิตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม  ได้เห็นเยาวชนที่มีแต่หัวทิ่มลงสู่นรกอเวจี  เยาวชนที่ปราศจากผู้นำชี้แนะทิศทางที่ถูกต้อง  เธอเฝ้ามองชีวิตเยาวชนที่แวดล้อมอยู่รอบตัวเธอด้วยความรู้สึกหดหู่  เมื่อจังหวะชีวิตประจวบเหมาะ เธอจึงหันมาทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือสังคม ด้วยการปูพื้นฐานฝังรากลงเข็มให้เยาวชนทั้งหลายได้เข้าสู่ธรรมของพุทธศาสนา  ให้ได้รู้จักสิ่งดีประเสริฐสุดของชีวิต  อันเป็นการวางกรอบของความเชื่อมั่นในตัวเองและปลูกสร้างศรัทธาให้เป็นเกราะแก้วแห่งธรรมไว้ปกป้องตัวเยาวชนเอง  อันเป็นการเสริมการศึกษาพื้นฐานของรัฐ  อาจารย์สตรีคนนี้คือ ดร. ตุ๊ก ของผม ที่ผมรู้จักคุ้นเคยและยกย่องเธอ
จากความเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ดร.ตุ๊กได้มีโอกาสข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนทางด้านภาษาศาสตร์และการสอนภาษาต่างประเทศที่ประเทศฝรั่งเศส จนจบการศึกษาขั้นสูงสุดได้ปริญญาเอกเกียรนิยมยอดเยี่ยม 
เมื่อกลับเมืองไทยแล้ว ดร.ตุ๊กก็รับราชการต่อไปเพื่อถ่ายถอดความรู้ให้แก่วงการศึกษาของไทย  จากที่เป็นชาวกรุงเทพฯ ก็เหมือนย้ายถิ่นฐานไปปักหลักเป็นชาวโคราชลูกหลานย่าโม  เธอได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงจากพระพุทธศาสนาที่เธอได้ปฏิบัติตัวปฏิบัติใจถวายด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา  และเธอเชื่อมั่นว่าพุทธธรรมนี่แหละที่จะแก้ปัญหาหนักอกของสังคม จากการที่เยาวชนหันเหชีวิตไปในทางที่ล่อแหลมต่อความเสื่อมเสีย  เมื่อโอกาสลงตัว เธอจึงสละคราบความเป็นนักวิชาการ  สละชีวิตที่แสนจะสบายด้วยฐานะทางสังคม  ฐานะทางอาชีพการศึกษาที่ได้อุทิศตัวครึ่งค่อนชีวิต สละแม้ความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ  เงินเดือนประจำที่ใช้เลี้ยงชีพ  ออกจากระบบราชการ รับบำนาญที่ได้เพียงเดือนละ ๑๖,๐๐๐ บาท มาสวมบทบาทของความเป็นแม่ เป็นครูของเด็กๆ  จัดการอบรมให้เด็กๆ ได้เข้าถึงธรรม ซึ่งจะนำมาสู่การเข้าใจชีวิต การรู้จักตนเอง  เธอเอาใจใส่ เคี่ยวเข็ญเด็กๆ เหมือนแม่บังเกิดเกล้าที่ต้องอุ้มชูลูก  เยาวชนนับเป็นหมื่นๆ คนได้เข้าร่วมในแผนการอบรมของเธอในแต่ละปี
ดร. ตุ๊ก อายุมากพอควรแล้ว  เธอไม่อยากดีอยากได้อะไรในชีวิตอีกแล้ว  มุ่งเก็บตัวเงียบอยู่ในป่าของธรรม ที่วัดวะภูแก้ว  ตำบลมะเกลือใหม่  อำเภอสูงเนิน  จังหวัดนครราชสีมา  หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับวัดนี้  แต่ก็ไปไม่ยากครับ  บนเส้นทางถนนมิตรภาพจากกรุงเทพฯ ไปนครราชสีมา (โคราช) ต้องผ่านทางแยกเข้าไปวัดของเธอ  วัดอยู่ใกล้กับเขายายเที่ยงที่หลายคนรู้จักชื่อเสียงเมื่อไม่นานมานี้  เลยเขายายเที่ยงออกไปหน่อยก็จะเป็นลำตะคอง  เลยไปอีกนิดจะเห็นทางต่างระดับแยกไปอำเภอปักธงชัยและโชคชัย เข้าถนนซ้ายเส้นนั้นเลย  ตรงไปเรื่อยๆ  อีกประมาณไม่ถึง ๑๐ กม.  ก็ถึงทางแยกมะเกลือใหม่ เลี้ยวกลับ (ยูเทิร์น) เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าไปน้ำตกวะภูแก้วและวัดวะภูแก้ว วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ ๑๒ กม. ก่อนถึงน้ำตกวะภูแก้ว ๒ กม. ทางซ้ายมือก็เป็นวัดวะภูแก้ว
เมื่อเข้าไปในวัด จะเห็นศาลาใหญ่จุคนได้เกือบพัน เป็นศาลาปฏิบัติธรรม  คือส่วนหนึ่งของวัดวะภูแก้ว ของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย  ผู้ได้เมตตาทิ้งมรดกโครงการอบรมพัฒนาจิตแก่เยาวชนภาคอีสานไว้ให้ ดร.ตุ๊ก และคณะ สานต่อความตั้งใจของท่านที่จะเสริมสร้างเยาวชนให้เป็นผู้ที่มีศีล  สมาธิ  และปัญญานำทางชีวิต
นอกจากปฏิบัติรับใช้หลวงพ่อพุธแล้ว ด้วยแรงใจที่แข็งแกร่ง  และด้วยแรงศรัทธาต่อพ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตามหาบัว  ดร.ตุ๊กได้ทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อถวายงานให้กับองค์หลวงตา  ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงตา ดร.ตุ๊กจะออกเดินหน้าทุ่มทั้งตัวและใจไม่มีวันหมด  ให้งานสำเร็จดังใจปรารถนา เพื่อสร้างบุญบารมีร่วมกับองค์ท่าน  ดร.ตุ๊ก เป็นผู้ที่มั่งคั่งด้วยความรู้ มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่องานของหลวงพ่อพุธผู้เป็นเหมือนบิดาทางธรรมองค์หนึ่งของเธอให้ดำเนินต่อไปให้ได้ 
เธอเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ โดยความเมตตาอุปการะและแนะนำชี้ทางจากหลวงพ่อตั้งแต่ครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่  ทีมทำงานมีอยู่จำนวนไม่มาก ต่างทำงานกันจนล้นมือ  การอบรมเด็กนักเรียนมี  ๒  หลักสูตร หลักสูตรเด็กเล็ก (ชั้นป.๔-ม.๑) ใช้เวลา ๓ วัน ส่วนเด็กโต (ชั้น ม.๒-อุดมศึกษา)  ใช้เวลา ๕ วัน ตลอดเวลา ๑๐ เดือนที่เปิดภาคเรียน  มีเด็กเข้าอบรมรุ่นละประมาณ  ๓๘๐  คน  มีทั้งทฤษฎีที่มีการบรรยายธรรมเป็นระยะ และภาคปฏิบัติที่ให้เด็กได้ถือศีล ทำวัตรเช้า-เย็น  เดินจงกรม ทำสมาธิ  ในตอนเย็นมีชั่วโมงแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทำข้อวัตรต่อ ก่อนนอนสวดมนต์แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลและสำรวจศีล
สิ่งสำคัญที่สุด ก่อนที่การอบรมจะจบสิ้นลง  ดร.ตุ๊กให้เด็กได้ทำความสงบระลึกถึงพระคุณของพ่อและแม่ ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้มีอุปการคุณ  ให้ลูกๆ เหล่านี้พิจารณาดูว่าพ่อแม่มุ่งหวังอะไรกับลูกๆ  ให้เด็กๆ พิจารณาถึงการเกิดแก่เจ็บและตาย ความไม่ประมาท  ให้รู้จักตอบแทนพระคุณพ่อแม่ตามกำลังความสามารถด้วยการประกอบแต่กรรมดี มีจิตใจอยู่ในศีลธรรม  จากนั้นให้สำรวจตัวเอง ให้รู้จักตนเอง  แล้วทำสัญญาใจเป็นลายลักษณ์อักษร  ตั้งสัจจะอธิษฐานเพื่อปรับปรุงและพัฒนาตนเอง  แล้วมอบสัญญาใจนี้ให้พ่อแม่ผู้ปกครองและครูอาจารย์ 
 โครงการอบรมพัฒนาจิตที่ ดร.ตุ๊ก ทำอยู่นี้ ต้องใช้กำลังเงินในการบริหารจัดการ  เด็กแต่ละรุ่นที่มาเข้าอบรมในแต่  ละสัปดาห์มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก  พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ด้อยฐานะทางเศรษฐกิจ ดร.ตุ๊กจึงต้องบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการด้วยตัวเอง  โดยอาศัยเงินบริจากและดอกผลจากมูลนิธิสายธารธรรมที่หลวงพ่อพุธท่านได้สร้างไว้ให้ด้วยเงินจำนวน ๓.๘ ล้านบาท ได้ดอกผลมาใช้จ่ายเพียงปีละประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งดอกผลนี้จะน้อยลงตามลำดับ  เพราะอัตราดอกเบี้ยลดลงจนเกือบไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ
เด็กเล็กที่เข้ามาอบรม ๓ วัน ไม่เก็บค่าอาหาร (วันละ ๓ มื้อ)  เก็บเฉพาะค่าวิทยากรเพียง ๓๐ บาท (ค่าตอบแทนวิทยากรทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาส ทีมละ ๖ - ๑๐ ท่าน)  ส่วนเด็กโตเก็บค่าอาหาร ๕๐ บาท (ตลอด ๕ วัน) และค่าวิทยากร ๕๐ บาท  ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกินมา ดร.ตุ๊กต้องบอกบุญขอบารมีของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัวสงเคราะห์ข้าวสารเพื่อมาหุงหาให้เด็ก นอกนั้นต้องจัดการหาเองทั้งหมด  สรุปว่า ดร.ตุ๊กต้องใช้ปากอบรมเด็ก พร้อมกับใช้ปากบอกบุญไปทั่ว ตลอดระยะเวลาเกือบ ๒๐ ปีที่เธอทำโครงการนี้ เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมปลูกฝังพุทธศาสนาไว้ตั้งแต่ยังเล็กๆ เป็นไม้อ่อน  ให้รู้จักเรื่องบาปบุญคุณโทษ ปรับปรุงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น  มุ่งมั่นสร้างแต่ความดี  โดยเธอปฏิบัติตัวเองให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กๆ  ในฐานะที่เป็นแม่พิมพ์ที่มีคุณภาพและมีชีวิตที่ดีงาม
ดร.ตุ๊กไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนเข้าใจ  ภาพลักษณ์ที่มองเธอจากภายนอก เธอเป็นผู้ที่นิยมแต่งชุดไทยที่ประณีตงดงาม จนเป็นเอกลักษณ์ของเธอ  แต่ใครเลยจะรู้ว่าใจของเธอไม่ได้มีความสบายเลย  แม้หน้าของเธอจะมีรอยยิ้ม แต่สมองของเธอต้องคอยคิดอยู่ตลอดเวลาที่จะหาค่าใช้จ่ายในการอบรมเด็ก ที่เข้ามาปีละ ๑๐ เดือน ทุกสัปดาห์   แต่จะมีประมาณ  ๓๘๐ คน  รวมแล้วปีละ  ๑๕,๐๐๐ คน  ให้ตลอดรอดฝั่งให้ได้
ดร.ตุ๊กเธอต้องรับหน้าที่ทุกเรื่อง  มาในปีสองปีนี้เธอก็หาภาระมาแบกหามเพิ่มเติมอีกด้วยความสงสารและสังเวชเด็กๆ ที่มาอบรม  เธอเห็นสภาพความยากจนของครอบครัวเด็ก  จากที่บ้านเมืองเศรษฐกิจซบเซา  จนแม้กระทั่งชุดนักเรียนและรองเท้าที่สวมใส่ก็เก่าจนดูไม่ได้  เธอต้องควักเงินส่วนตัวซึ่งไว้เลี้ยงชีพตัวเองจริงๆ  กับบอกบุญเพื่อนฝูงหรือคนที่สนิทสนมคุ้นเคย  เพื่อหาเงินมาซื้อชุดนักเรียนทั้งชาย–หญิงในราคาต้นทุนโรงงาน  มาสำรองไว้ และพิจารณานักเรียนที่เข้าโครงการอย่างถี่ถ้วน  เพื่อมอบชุดใหม่ให้ทดแทนชุดเดิมที่แทบจะเป็นผ้าขี้ริ้ว  เด็กบางคนมีชุดนักเรียนเพียงชุดเดียวจริงๆ  บางคนตัวแคระแกร็นเล็กกว่าอายุ  ก็ขอเสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ เกินขนาดมากเพื่อจะใส่ได้นานๆ จนคุณครูที่แจกต้องแอบเช็ดน้ำตา  พอถึงช่วงฤดูหนาว  ก็ทำใจไม่ได้ที่เห็นลูกศิษย์ที่วัดกันหลายคน ตัวสั่นงันงกด้วยความหนาว จึงต้องจัดหาซื้อเสื้อกันหนาวแจกให้เพื่อบรรเทาความหนาว
ผมเขียนเรื่องของเธอเล่าสู่ท่านนี้ ก็เพื่อต้องการบอกกับเธอว่า  ผมขอขอบคุณแทนเด็กๆ ที่เธอได้อุทิศตัวสงเคราะห์  นี่เป็นเพียงเยาวชนส่วนเดียวของชาติที่เธอได้มีโอกาสช่วยเหลือ  ยังมีเยาวชนอีกมากครับที่ต้องการนางฟ้าจากสวรรค์เช่น ดร.ตุ๊กมาให้ความช่วยเหลือ  สร้างทางบุญให้แก่พวกเขาทั้งหลาย
จุดประสงค์อีกประการหนึ่งก็คือ  อยากจะกราบขอความกรุณาจากท่านทั้งหลายที่มีโอกาสได้อ่านบทความนี้  หากท่านเห็นประโยชน์ของโครงการฯ และต้องการทำบุญกุศลร่วมกับ ดร.ตุ๊ก และพ่อแม่ครูอาจารย์  เพื่อสงเคราะห์เยาวชนผู้เปรียบเสมือนเป็นต้นอ่อนที่กำลังจะเติบโตเป็นต้นกล้า ให้เห็นแสงธรรมดังที่ท่านได้เห็นและประจักษ์แก่ท่านเองว่าผลของบุญเป็นอย่างไร  ขอท่านได้โปรดสงเคราะห์สละเงินคนละเล็กละน้อย ให้ดร. ตุ๊กเธอได้ประคองโครงการฯ ของเธอได้ลุล่วงตลอดไปด้วย  สงสารเด็กและให้กำลังใจ ดร.ตุ๊กด้วยเถิดครับ  ชีวิตของเธอก็อุทิศให้เด็กๆ อย่างเต็มกำลังอยู่แล้ว  เธอคือนางฟ้าจากสวรรค์มาเกิดเพื่อเสริมสร้างคุณภาพให้แก่เด็กๆ ทั้งหลาย  ช่วยเธอสักนิดนะครับ ให้เธอมีกำลังใจทุ่มเทให้กับเด็กเต็มที่ ไม่ต้องคอยพะวงถึงเรื่องการหาทุนทรัพย์มาใช้จ่าย  เพียงท่านช่วยกันคนละเล็กละน้อย เธอก็ดีใจแล้ว
ดร. ตุ๊กไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากการอุทิศตัวเสียสละในงานนี้  เธอไม่หวังที่จะได้รับการยกย่องเป็นครูดีเด่น  เป็นแม่พิมพ์ตัวอย่างเลย  เธอเคยพบประสบการณ์ที่ถ้าเป็นคนอื่นที่ใจไม่ได้ครองธรรม คงจะเจ็บช้ำจนต้องออกมาโวยวายหาความเป็นธรรมแล้ว  จากการที่เธอรณรงค์หาทุนทรัพย์ให้เด็กอีสานได้มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวบ้างปีละเล็กละน้อยจากผู้มีจิตศรัทธา ทำร่วมกับเพื่อนๆ มาหลายปี หาเงินรวมแล้วได้หลายล้าน  แต่ก็กลายมาเป็นผลงานรับความดีความชอบตามระบบราชการของผู้อื่น  น่าเจ็บช้ำน้ำใจไหมครับ  แต่เธอก็ไม่เคยมีปฏิกิริยาใดๆ เด็กๆ ที่เธอมุ่งหวังคลายความขัดสนได้บ้าง ให้ก็ได้สมดั่งที่เธอหวัง  เพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับเธอแล้วครับ
ดร.ตุ๊กเธอเป็นสาวโสด  แต่เธอเป็นแม่ของเด็กปีละเป็นหมื่นคน  พวกเรามาช่วยเธอให้เป็นแม่ของเยาวชนที่จะช่วยกันสืบทอดพุทธศาสนาให้ยืนยาวไปจนครบพุทธกาลนะครับ  ดร.ตุ๊กไม่ได้ทำเพื่อหาเลี้ยงชีพด้วยเงินที่ได้จากท่านผู้ใจบุญ  เธอมีบ้านเล็กๆ ที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงเงินเดือนข้าราชการ อยู่ในโคราช เลี้ยงชีวิตด้วยเงินบำนาญเพียงเดือนละ  ๑๖,๐๐๐  บาท  เธออาศัยวัดเป็นที่ทำงานเพื่อเอาบุญ  ได้อาศัยข้าววัดกินพร้อมกับเด็ก  เธอทำเพราะเธอรักเด็ก อยากเห็นเด็กโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ  อยากให้เด็กมีอนาคตที่ดี  เธอจึงต้องทำตามที่ใจและสัญญาที่ติดภพติดชาติมาสั่งให้เธอทำ 
ท่านที่ประสงค์จะเมตตาสงเคราะห์โลก ช่วยดร. ตุ๊กให้ทำงานได้สะดวกขึ้นบ้าง ก็ขอความกรุณาสละทรัพย์คนละเล็กคนละน้อยสงเคราะห์เด็กโดยผ่านเธอ จะเป็นพระคุณยิ่ง  ดร.ตุ๊กทำงานในนามของวัด ไม่ใช่ของตัวเธอเอง  การเงินในการบริหารโครงการทุกอย่างมีระบบบัญชีตรวจสอบตามมาตรฐาน  ติดต่อกับเธอได้ที่โทร. ๐๘๕-๒๐๐-๙๕๗๕ และ ๐๘๖-๘๗๒-๒๒๗๕  หรือบริจาคเงินเพื่อเสริมทานบารมีของท่านเอง โดยโอนเงินเข้า
ชื่อบัญชี วัดวะภูแก้ว  เพื่อโครงการอบรมพัฒนาจิต
ธนาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาถนนมิตรภาพ
เลขที่บัญชี 666-2-38429-4
ขอผลของการทำบุญสงเคราะห์ช่วยเหลือ ดร.ตุ๊กในครั้งนี้ ของท่าน จงดลบันดาลให้ท่านประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ปรารถนาครับ

ท่านผู้สนใจหนังสือ  โปรดติดต่อ  คุณสุทัศน์  ชาญวิเศษ   หรือ  คุณหลวง
โทร. 02-900-7418,  086-341-2639

 

Last Updated on Friday, 07 August 2009 14:45
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner