Tuesday, 16 July 2013 03:17 |
ตายายได้หลานดี การมาวัดในครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจและกังวลบ้าง เพราะห่วงตายายที่อยู่ทางบ้าน ว่าท่านจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่หน้าที่ ณ ตอนนี้ คือการปฏิบัติธรรมพัฒนาจิต ข้าพเจ้าจึงกลายความกังวลได้เล็กน้อย ครั้งแรกที่เข้ามาวัดนี้ ตอนนั้นอยู่ ม.2 ก็ยังไม่ได้คิดอะไร เพราะยังเด็กมาก ก็สามารถนั่งสมาธิได้นาน คุณครูส่งให้ทำอะไรก็ทำ พอถึงวันสุดท้ายได้ฟังเรื่องพระคุณแม่ ทำให้ตัวเองได้สำนึกและได้รู้ว่าตัวเองทำผิดกับตายายไว้มาก จากนั้นเป็นต้นมาข้าพเจ้าก็ได้ปรับปรุงตนเองใหม่ ทำตามสัญญาใจที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้
ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจในตนเองมากที่ได้ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดี ทั้งดูแลตายาย เวลาท่านป่วยก็พาท่านไปหาหมอ หาข้าวหาน้ำให้ท่านกินข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจมาก เพราะมีคนพูดกับข้าพเจ้าว่า “ขนาดมันตัวแค่นี้มันยังพายายตามันไปหาหมอได้ ดูแลตายายได้” เมื่อข้าพเจ้าได้ยินคำนี้ ข้าพเจ้าดีใจและภูมิใจมาก การมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ข้าพเจ้าก็ยังใช้สัญญาใจอันเดิมที่ข้าพเจ้าเคยเขียนไว้เมื่อตอนที่อยู่ ม.2 เพราะข้าพเจ้าคิดว่าแค่นี้ก็ทำให้ตัวข้าพเจ้าดีขึ้น และทำให้ตายายหายเหนื่อย ที่วัดแห่งนี้สอนให้ข้าพเจ้ารู้ทั้งในเรื่องของการพัฒนาจิต รู้บุญคุณของพ่อแม่ มันสามารถทำให้ข้าพเจ้ารู้บาปบุญคุณโทษและกล้าที่จะเข้าไปกราบตายายได้อย่างไม่อายใคร เปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งจากมือให้เป็นสว่างได้ ถ้ามีโอกาสกลับมาที่นี่อีก และอยากมีโอกาสตอบแทนพระศาสนาในการเผยแพร่ธรรมะให้แก่ผู้อื่นต่อไป
นางสาวทิพามณี ซิกว้าง โรงเรียนขามทะเลสอ ชั้น ม.5/1 วันที่ 2 กรกฎาคม 2556
คำลุงสอน บอกตรง ๆ เลยว่าก่อนข้าพเจ้าจะมาที่วัดวะภูแก้วแห่งนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกไม่อยากมาเลย รู้สึกท้อมาก ข้าพเจ้าจึงไปบ้านลุงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเล่าเรื่องให้ลุงฟัง ลุงสอนว่า เกิดเป็นลูกหลาน ทหาร ห้ามสะกดคำว่า เหนื่อย ลำบาก ให้สะกดคำว่าสู้ อดทนเพียงอย่างเดียว เมื่อมาถึงที่นี่ข้าพเจ้าเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้านมาก แต่พอได้นั่งสมาธิข้าพเจ้าเริ่มชอบ และข้าพเจ้าเริ่มนั่งติดสมาธิในยกที่ 7-12 นั่งนานเข้าก็ปวดหลัง เมื่อย จึงนึกถึงคำที่ลุงบอก ห้ามสะกดคำว่าเหนื่อย ลำบาก ให้สะกดคำว่าสู้ อดทน ข้าพเจ้าจึงบริกรรมว่า อดทน ๆ จนข้าพเจ้าได้สมาธิหลายครั้งเลยทีเดียว วันนี้จะกลับแล้วสินะ น่าเสียดายจัง ยังไม่อยากกลับเลย ถ้ากลับไปแล้วต้องหาเวลานั่งสมาธิสวดมนต์บ่อย ๆ และจะหาเวลาชวนเพื่อนมาที่นี่อีกครั้ง
นางสาววาสนา จันทา โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ชั้น ม.4/3 ณ วัดวะภูแก้ว วันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม พ.ศ.2556 ต้องทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะเข้ามาอบรมที่วัดวะภูแก้ว ข้าพเจ้าไม่เคยโทร. หาแม่ของข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจะโทร. เฉพาะเวลาที่ข้าพเจ้าไม่มีเงินใช้เท่านั้น แม่ของข้าพเจ้าเป็นแม่ค้าขายอาหารธรรมดารายได้แม่ 6,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น หากหักเงินที่ส่งให้ข้าพเจ้าเดือนละ 2,000 บาท แม่คงเหลือเงินแค่ 4,000 บาทเท่านั้น ข้าพเจ้าเป็นลูกสุดท้อง พี่สาวของข้าพเจ้าเรียนไม่จบ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าก็คือความหวังของแม่และครอบครัว แม่จะบอกกับข้าพเจ้าเสมอว่า “แม่จะทำงานมาส่งข้าพเจ้าเรียนให้จบให้ได้” คำ ๆ นี้เป็นแรงกดดันของข้าพเจ้ามาก เมื่อข้าพเจ้าย้ายมาเข้าชั้น ม.4 ที่โรงเรียนใหม่ ข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อ รู้สึกท้อในการเรียน ข้าพเจ้าเลยบอกกับแม่ข้าพเจ้าว่าถ้าข้าพเจ้าเรียนไม่ไหว ข้าพเจ้าจะลาออก คำนี้ ทำให้แม่ผิดหวังกับข้าพเจ้าเหลือเกิน เมื่อข้าพเจ้าได้มาอบรมในวัดนี้แล้ว ทำให้จิตใจของข้าพเจ้าสงบชั้น ทำให้ข้าพเจ้าคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ข้าพเจ้าจะกลับบ้านไปทำตัวดี เป็นลูกที่ดีของแม่ จะตั้งใจเรียน ให้แม่และพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ภูมิใจในตัวของข้าพเจ้าให้ได้
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณวัดวะภูแก้ว ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญู ให้ข้าพเจ้าได้สำนึกในพระคุณของพ่อแม่ ทำให้จิตใจของข้าพเจ้าสงบ ข้าพเจ้าจะกลับมาเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และเป็นลูกศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์
นางสาวสิริรัตน์ แก้วแก่น โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ชั้น ม.4/1 ณ วัดวะภูแก้ว วันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม พ.ศ.2556 ขอเริ่มต้นใหม่ ก่อนที่หนูจะมาที่นี่ หนูบอกแม่ว่าแม่พาหนูไปซื้อกางเกงหน่อย แม่ก็พาไป แม่ถามหนูว่าไปวันไหน หนูก็ไม่ตอบแม่ มีแต่เพียงพ่อที่รู้ และได้แต่อารมณ์เสียใส่แม่ตลอดเวลาที่แม่ถาม เมื่อได้มาวัดวะภูแก้ว หนูรู้สึกดีมาก เพราะหนูก็อยากไปวัดทำบุญบ่อย ๆ เพราะวัดในหมู่บ้านจะมีการสวดมนต์ทุกวัน แม่บอกว่าอยากไปแม่ก็จะพาไป แต่แม่ก็ไม่มีเวลาเพราะแม่ต้องทำงาน กลับก็ค่ำแล้ว
การปฏิบัติธรรมครั้งที่ทำให้หนูมีจิตใจสงบ มีสติรู้ ทำให้หนูรู้สึกถึงพ่อกับแม่ ตอนนั้นหนูก็ร้องไห้นึกถึงวันที่แม่เลี้ยงดูหนูมา แม่เคยเล่าว่า ตอนแม่ท้องหนู ครอบครัวของเรามีลูกอยู่ 2 คนแล้ว จึงไม่อยากให้หนูคลอดออกมา มีแต่คนบอกให้แม่ไปเอาออก แต่แม่ไม่เคยคิดที่จะทำอย่างนั้น ตอนหนูนั่งสมาธิหนูก็ได้แต่ร้องไห้คิดถึงแม่ตลอดเวลา หนูอยากกลับบ้านไปหาแม่และเริ่มต้นใหม่กับแม่ ทำในสิ่งที่ดี การมาวัดครั้งนี้ทำให้หนูมีสติรู้ มีจิตใจที่ดีมากค่ะ
นางสาวธิดาพร เฝือสูงเนิน โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ชั้น ม.4/2 ณ วัดวะภูแก้ว วันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม พ.ศ.2556 รับทำดีเมื่อยังมีพ่อแม่อยู่ การปฏิบัติธรรมในวัดวะภูแก้วครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจเรื่องศาสนามากยิ่งขึ้น อยากขอบคุณท่านอาจารย์ที่นำเด็ก ม.4 ทุก ๆ ปีได้มาปฏิบัติธรรม ได้รู้ในเรื่องกาย จิต สิ่งที่ข้าพเจ้ารู้ในการมาปฏิบัติครั้งนี้คือ การมีสติสัมปชัญญะ และการฝึกสมาธิ ข้าพเจ้าได้นั่งสมาธินานขึ้นเป็น 2 เท่าจากตัวที่เคยทำมา 10-15 นาที ถ้าเป็นแต่ก่อนข้าพเจ้าทำไม่ได้หรอก 30 นาที - 1 ชั่วโมง
พ่อแม่ข้าพเจ้าได้เสียชีวิตลงไปแล้วข้าพเจ้าอยู่กับพี่สาว 2 คน ก่อนที่ข้าพเจ้าจะมาที่วัดข้าพเจ้าชอบพูดกับตัวเองว่า พ่อ-แม่ ท่านทำไมต้องรีบเสียไป รู้ไหมว่าข้าพเจ้าต้องอิจฉาคนอื่นที่มีพ่อ-แม่ครบ และข้าพเจ้าก็รู้สึกน้อยใจ ทุกครั้งที่เห็นพ่อ-แม่คนอื่นมาด้วยไปไหนด้วยมารับโรงเรียน โทรศัพท์มาถามว่าลูกอยู่ไหน แต่พอข้าพเจ้าได้มาที่นี่ข้าพเจ้าก็ได้เข้าใจแล้ว บุญคุณของพ่อแม่ยิ่งใหญ่ อย่าไปโทษที่ท่านเสียไปก่อน ตอนนี้เราควรทำดีเพื่อให้ท่านรับรู้และคนที่อยู่กับเราก็เปรียบเสมือนพ่อ-แม่เหมือนกัน ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เขาควรทำดีให้มาก ๆ อย่าทำให้ท่านเสียใจ มันจะเป็นบาป จะทำอะไร จะพูดอะไรให้คิดก่อนทำ
นางสาวพัชรี บุณยานุเคราะห์ โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ชั้น ม.4/2 ณ วัดวะภูแก้ว วันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม พ.ศ.2556
|
Last Updated on Tuesday, 16 July 2013 03:51 |