Friday, 01 March 2013 02:21 |
จิ๊กโก๋ลาบวช
ผมเป็นคนเกเรมาก ทั้งเรื่องนักเลง แข่งรถ เอเย่นขายยา เป็นแกนนำวัยรุ่นในทุกๆ เรื่องที่ไม่ดี ผมทำให้พ่อกับแม่เสียใจนับครั้งไม่ถ้วน ผมเคยโดนจับคดียาเสพติด 1 ครั้ง และมีอีกหลายคดี ผมโดนจับพ่อแม่ไปประกันมาจนผมได้ใจ พอออกมาผมก็ยังกลับมาขายยาอีก ตำรวจก็เฝ้าตามผมหลายต่อหลายครั้ง แต่จับผมไม่ได้ จนมาวันหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมคิดกลับตัวกลับใจคือคำพูดของ พ่อกับแม่ คำพูดที่ว่า พ่อกับแม่ ตามใจลูกมาเยอะแล้ว พ่อกับแม่ ขอลูกสักเรื่องได้ไหม ขอให้ลูกเป็นคนดีและขอให้ลูกบวช ให้พ่อกับแม่เท่านั้นเอง ผมจึงได้รับปากและได้ปฏิบัติตาม ได้มาอบรมจิตใจที่วัดวะภูแก้ว ยิ่งทำให้ผมอยากบวชแทนคุณพ่อ แม่ กลับไปจากวัดผมบวชให้พ่อแม่แน่นอนครับ
นายสุทัศน์ หวังดีกลาง ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ครูคือผู้ให้ วันแรกที่ผมมานั้น ผมไม่อยากมาเลย ตอนแรกก็คิดว่ามาทำความสะอาดแค่เท่านั้น แต่ที่ไหนได้มานั่งสมาธิ ทำวัตรสวดมนต์ น่าเบื่อมาก พอวันกลับเริ่มดีขึ้น คิดไปคิดมาก็ไม่อยากกลับเลย มันก็ดีเหมือนกันที่มาวัดได้ฝึกจิต ฝึกความอดทน เราก็ได้แผ่บุญให้พ่อแม่พี่พี่น้องเรา เป็นครั้งแรกเหมือนกันครับที่ผมได้มาบำเพ็ญบุญในวัด
มาวันนี้เราก็จะกลับแล้ว เรานำไปทำที่บ้านก็ได้ ไม่ใช่เราจะมาทำที่วัดอย่างเดียวหรือ เราจะทำที่ไหนก็ได้ไม่ใช่เฉพาะที่วัด และครูที่นี่สอนแต่เรื่องธรรมะ เรื่องบุญบาป ตอนแรกก็น่าเบื่อมาก ๆ พอครูพูดไป พูดมาเราก็เริ่มคิดได้ มันก็ไม่ได้ยากลำบากอะไรมากมาย เริ่มดีขึ้นๆ เรื่อย ครูไม่เคยว่าเรา ครูเขาสอนเราโดยไม่เอาอะไรตอบแทน ครูให้อย่างเดียว ผมรู้แล้วว่าทำไมมีแต่คนอยากมาที่นี่ ไม่อยากกลับ ผมขอขอบคุณครูทุกคนนะครับ ถึงแม้ครูจะดุบ้าง ผมก็ไม่คิดอะไร ผมคิดว่าครูว่าเราเพราะอยากให้ได้ดี
นายขวัญชัย หัสดี ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ครูสอนให้ผมรู้จักคำว่า “ทดแทนบุญคุณ”
ผมเป็นคนที่ไม่ชอบวัดเอาเสียเลย ครูพาผมมาโดยที่ตัวผมไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่พอมาถึงวัดวะภูแก้วครั้งแรก ผมรู้สึกสบายกาย สบายใจ สดชื่นมากครับ เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่นี่ แต่ปัญหาของผมคือ การนั่งสมาธิ เพราะผมรู้สึกเหมือนทรมานตัวเอง ปวดทั้งขา ปวดทั้งหลังเพราะมันเป็นครั้งแรกที่ตัวผมนั่งสมาธินานขนาดนี้ แต่ผมก็ดีใจมากครับ ยิ่งครูสอนผมเรื่องพระคุณ พ่อ – แม่ ผมเข้าใจแล้วครับว่า พระคุณ บิดา-มารดา ยิ่งใหญ่ขนาดไหน กลับไปผมจะเชื่อฟัง พ่อ – แม่ ให้มากครับ
วันนี้ ผมนั่งสมาธิได้นานกว่าเมื่อวาน ผมดีใจมากครับ ผมสามารถชนะใจตัวเองได้ ผมรู้สึกตัวเบา แต่อีกใจหนึ่งผมคิดว่า ผมอยากทำบุญให้ พ่อ – แม่ ด้วยครับ อยากไถ่บาปกับท่าน ต่อให้บาปไม่หาย แต่ผมจะทำเพื่อท่านทั้งสอง ขอบคุณครูทุกท่านมากครับ ที่ทำให้ผมรู้จักกับคำว่า “ทดแทนบุญคุณ”
ครั้งหน้าผมจะกลับมาแก้ตัวอีกครับ คำสอนของครูทุกคนชี้ทางสว่างจริงๆ ครับ ขอบคุณครับครู
นายวสันต์ ปรืองาม ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 กำลังใจ ผมมาครั้งแรกก็น่าเบื่อ แต่พอนั่งฟังธรรมก็เข้าใจทำไมพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เพราะเหตุใด พระพุทธเจ้าได้สอนให้เรารู้ว่า การนั่งสมาธิทำให้เรามีจิตใจที่สงบไม่ฟุ้งซ่าน การนั่งสมาธิไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอดทน
ออกจากวัดวะภูแก้วไปแล้ว ต้องเป็นคนดีนะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนๆ เป็นคนดีให้ได้นะครับ เป็นคนดีให้ได้นะ เป็นกำลังใจให้สู้ ๆ นายณัฐพงษ์ สุ่มผักแว่น ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ถ้าไม่ได้มา คงเสียใจมาก
วันแรกผมไม่อยากมาวัดเลย แต่พอได้นั่งสมาธิ สวดมนต์ ผมก็รู้สึกดีขึ้น ๆ ผมได้เรียนรู้บุญบาป ได้รู้จักการทำบุญทำทาน ได้ทำจิตใจให้สงบ ถ้าได้กลับไปถึงบ้าน ผมจะชวนเพื่อนๆ และญาติพี่น้องมาไหว้พระที่วัดวะภูแก้ว ถ้าผมมีโอกาส ผมจะกลับมาทำบุญที่วัดวะภูแก้ว
วัดวะภูแก้วได้สั่งสอนเราหลายอย่าง สอนให้เรานั่งสมาธิทั้งๆ ที่เราไม่เคยนั่งที่ไหนมาก่อน ได้เดินจงกรมอย่างมีสติปัญญา ทำให้ได้เรียนรู้ธรรมะ ได้รู้ว่าบาปบุญมีจริง ถ้าผมไม่ได้มาวัดวะภูแก้ว ผมคงเสียใจน่าดู นายวิจารย์ วงษ์สกุล ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
ผมจะไม่แพ้อีกแล้ว
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เข้าวัดเท่าไร ตอนรู้ทีแรกว่าจะได้มาวัดวะภูแก้ว รู้สึกได้ว่า อะไรนี่พามาวัดอีกแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเราหรอก ครูจะพาผมมาทำไม พวกผมเป็นคนที่ก้าวพลาดไป บางคนตั้งใจที่จะก้าว บางคนไม่ตั้งใจ แต่ก็นะ มาแล้วนี่ เขาใช้ทำอะไรเราก็ทำตามไปเถอะ เดี๋ยวก็เสร็จ
วันที่ 2 อะไรนี่ ตื่นตอนตี 5 แต่ก็เอาไงเอากัน ตอนนั่งสมาธิตอนเช้า ง่วงมากครับ แต่พอนั่งไปนานๆ ขาเริ่มชา ผมพยายามอดทนให้มากที่สุดเพื่อจะชนะตัวเองอย่างที่ครูว่า พอนั่งสักพัก ผมรู้สึกชาที่ขามาก แต่ครั้งนี้ผมไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง ลองฝืนใจตัวเองดู และสิ่งที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกตัวเบามาก อาการปวดขา, หลังเริ่มหาย แต่จิตของผมยังไม่สงบ เพราะมีเสียงเข้ามาในหู ผมคิดว่าจิตของผมยังไม่นิ่ง ครั้งนี้ผมก็แพ้อีกตามเคย ผมลืมตา ผมรู้ว่าผมแพ้ใจตัวเองอีกเช่นเคย แต่ผมจะไม่แพ้อีกแล้ว ผมบอกกับตัวเองว่า ถ้าครั้งหน้าผมจะมาแก้ไขตัวเองที่วัดวะภูแก้วอีก ขอบคุณครูทุกท่านมากครับที่ชี้แนะแนวท่างปฏิบัติธรรมให้ผมและเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่ดีมากครับ ผมเชื่อแล้วครับที่ครูสอนผมว่า “ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว”
นายเนตรนรา ปานสุวรรน ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
กลัวนรก 1. การที่ผมมาอยู่นี่ ผมก็คิดว่าจะต้องน่ารำคาญแน่ แต่คิดดูดีๆ ก็รู้ว่าที่นี่ได้ให้สิ่งดีๆ หลายอย่าง ได้รู้ว่าการทำบาปนี้เป็นโทษอย่างไร ตายแล้วไม่สูญ คนที่ทำชั่วจะต้องตกนรก พอผมรู้ผมจะไม่ไปทำบาปอีกเพราะกลัวจะลงนรก
2. ผมได้รู้ว่าการทำใจให้สงบนั้นจะทำให้เรามีความสุขและมีสติ
นายโอ ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
พุทธศาสนาสอนเราหลายอย่าง
การอบรมพัฒนาจิต ทำให้ได้พบกับธรรมะหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ความรู้ว่าศาสนาพุทธสอนให้ชาวพุทธเป็นคนดี ใจบุญสุนทาน สอนให้ทุกคนเป็นคนดี รู้จักการรับ รู้จักการให้ รู้จักการช่วยเหลือ รู้จักบาปบุญคุณโทษ สอนให้ทำใจให้เข้มแข็ง มีสติปัญญา มีวินัย มีคุณธรรม สอนให้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ชอบที่นี่มาก ๆ ครับ
นายมงคล สูงใหม่ ร.ร.วิวัฒน์พลเมือง กรมการปกครอง เขียน ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
ความรักของพ่อแม่
ปกติข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบเข้าวัด เพราะว่าวัดในปัจจุบันนี้ทำให้ข้าพเจ้าไม่มีศรัทธา แต่เนื่องจากการมาที่วัดวะภูแก้วนี้เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน ข้าพเจ้าจึงมาที่วัดวะภูแก้ว และตั้งใจว่าจะทำให้เต็มที่เพราะไหนๆ ก็ต้องมาแล้ว
แต่ที่ข้าพเจ้าประทับใจที่สุดคือการดู วิดีโอ การทำคลอด เพราะทำให้ข้าพเจ้าร้องไห้ และสำนึกในบุญคุณของพ่อกับแม่มากที่เลี้ยงดูข้าพเจ้ามา ที่ประทับใจที่สุดคือคำพูดที่ว่า “หญิง ชายคู่หนึ่ง รักและดูแลเด็กคนหนึ่ง รักตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า และให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเด็กคนนี้เสมอ” คำพูดนี้ซึ้งใจข้าพเจ้ามาก และทำให้ข้าพเจ้าสำนึกในความรักของพ่อ-แม่มาก จนข้าพเจ้าภาวนาจิตเองว่า “จะส่งผลบุญทุกอย่างที่ทำมาให้พ่อแม่ของข้าพเจ้าหมดเลย” และด้วยคำภาวนาในครั้งนั้นทำให้ข้าพเจ้าสามารถนั่งสมาธิได้อย่างสงบมาก และในตอนเช้าวันสุดท้ายข้าพเจ้าได้โทรหาพ่อกับแม่ และบอกพวกท่านว่า “ข้าพเจ้ารักพ่อกับแม่มากแค่ไหน และบอกพวกท่านว่า ข้าพเจ้าขอโทษในสิ่งที่เคยทำผิดกับพ่อกับแม่มา” และพวกท่านเองก็บอกว่า “ไม่เคยโกรธหรือผิดหวัง น้อยใจในตัวข้าพเจ้าเลยสักครั้ง” ยิ่งย้ำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า พ่อแม่รักเรามากแค่ไหน และจากทุกอย่างที่ทำให้ข้าพเจ้าได้รับและเข้าใจว่าตนเองได้รับประโยชน์จากการมาที่วัดวะภูแก้วมากแค่ไหน ขอบคุณอาจารย์ที่จัดโปรแกรมนี้ขึ้นมา และขอบคุณอาจารย์วิทยากรที่วัดวะภูแก้วทุกคนกับสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับในครั้งนี้ทั้งหมด
นางสาวพรพิมล บุญฑริก นักศึกษาโครงการปริญญาโททางการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เขียนไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 น่าจะมาเร็วกว่านี้ ประโยชน์ที่ได้จากการมาฝึกจิตครั้งนี้คือ การได้พักผ่อนจิต และการได้เติมพลังจิต การได้พักผ่อนจิต อธิบายได้ว่า จิตนั้นได้มีโอกาสมีช่วงเวลาที่ได้อยู่นิ่งๆ ไม่ฟุ้งซ่าน เนื่องจากการทำสมาธิทำให้ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นต้นว่า จดจ่ออยู่กับลมหายใจ คำบริกรรม จนสุดท้าย ปล่อยจิตโล่งๆ สบายๆ ข้าพเจ้าคิดว่านี้เป็นการพักผ่อนจิตที่ดีทีเดียว เพราะปกติในชีวิตประจำวันทุกวัน จิตมักคิดโน่นคิดนี่ ฟุ้งไปเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่เสมอ จนแทบไม่ได้มีสติอยู่กับปัจจุบันเท่าใดนัก
ประการที่สองเรื่องการเติมพลังจิต คำบรรยายรวมทั้งวิธีการฝึกจิตทำให้ได้ฝึกจิตใจให้มีสมาธิ ซึ่งเชื่อได้ว่าจะทำให้เกิดพลัง และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่นคิดว่าน่าจะทำให้การงาน การเรียนดีขึ้น เพราะจะสามารถจัดลำดับความคิด รวมทั้งจัดการภาวะอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น
สิ่งที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งคือ น่าจะได้มาปฏิบัติธรรม ฝึกจิต เช่นนี้ ตั้งแต่ก่อนเริ่มเรียน จะได้นำประโยชน์เช่นนี้ไปใช้ระหว่างการเรียนได้ น่าจะเครียดน้อยลง ทำคะแนนและเข้าใจบทเรียนได้ทะลุปรุโปร่งมากกว่านี้
สุดท้ายขอขอบพระคุณ ทุกท่าน ทุกสิ่ง ทุกความพอดีที่ทำให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเช่นนี้ค่ะ
นางสาวศานิตา สืบตระกูล นักศึกษาโครงการปริญญาโททางการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เขียนไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
เสียดายแทนเพื่อน
ข้าพเจ้ารู้สึกดีกับที่นี่มากๆ ค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีสถานที่ฝึกอบรมจิตแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าจะเคร่งมากกว่านี้ หรือกิจกรรมน่าเบื่อ ฟังแล้วง่วงนอน แต่อาจารย์และคณะผู้จัดทำทุกท่านสามารถทำให้แต่ละกิจกรรมดูน่าสนใจและทำแล้วมีประโยชน์จริง ข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายแทนเพื่อนๆ ที่ไม่ได้มา เพราะคิดว่าในชีวิตประจำวันของแต่ละคน อาจจะไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาและฝึกจิตที่เป็นประโยชน์แบบนี้
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าได้ประโยชน์จากที่นี่หลายอย่าง เช่น การสวดมนต์นั่งสมาธิ รวมถึงการปฏิบัติตัวกับพ่อแม่ ซึ่งบางครั้งเป็นเรื่องที่เรารู้อยู่แล้วแต่อาจจะหลงลืมไป เหมือนเป็นการเตือนสติไม่ให้เราหลงลืมสิ่งเหล่านี้ไป
ข้าพเจ้าขอขอบคุณอาจารย์และคณะผู้จัดกิจกรรมทุกท่านที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ข้อคิดหลายอย่างจากการเข้าค่าย 3 วันนี้ และขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ทุกท่านจัดกิจกรรมแบบนี้ตลอดไป
นางสาวสุนีย์ วัฒนา นักศึกษาโครงการปริญญาโททางการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เขียนไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ผ่อนคลายทั้งกายและใจ การเดินทางมาศึกษาธรรมครั้งนี้ที่วัดวะภูแก้ว ผมรู้สึกประทับใจ ทำให้จิตใจของผมสงบขึ้นเพราะเหมือนเราตัดขาดจากโลกภายนอก ได้อยู่กับกาย กับจิตของตนเอง ได้ฝึกจิตด้วยการทำสมาธิ ซึ่งครั้งแรกที่ได้นั่งสมาธิ รู้สึกปวดขาและปวดหลังมาก จิตใจก็จดจ่อกับการปวดนั้น แต่ผมก็พยายามนิ่ง จนครั้งสุดท้ายรู้สึกว่าผมมีจิตที่สงบขึ้นและเริ่มชินทำให้ขาและหลังมีอาการปวดน้อยลง พอจิตผมสงบไม่ได้คิดหรือเครียดกับสิ่งใด รู้สึกว่าจิตได้ผ่อนคลาย ซึ่งก็ทำให้ร่างกายผมผ่อนคลายไปด้วย ซึ่งผมคิดว่าการฝึกจิตนี้เป็นประโยชน์สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ รวมทั้งการทำงานที่ต้องมีสมาธิมากๆ อีกเรื่องที่ประทับใจคือพุทธศาสนาสอนให้เข้าใจความเป็นจริง เมื่อเราเข้าใจความเป็นไปเป็นมาของสิ่งต่างๆ แล้ว รู้กฎธรรมชาติแล้วก็จะทำให้เราปล่อยวางได้ ซึ่งจะทำให้เราไม่เครียด และมีจิตใจที่ดี เมื่อตัวเราจิตใจเราสงบแล้วก็จะเกิดสติปัญญา และสิ่งดีๆ ต่างๆ ก็จะตามมา ปัญหาที่เข้ามา เราก็สามารถแก้ไขได้เพราะผ่านมันไปได้ และส่งผลให้เรามีความสุขในการดำเนินชีวิต
นายภควรรธก์ คูบุญญอารักษ์ นักศึกษาโครงการปริญญาโททางการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เขียนไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ได้เรียกสติกลับคืนมา
การได้มาร่วมฝึกจิตภาวนา ณ ศูนย์พัฒนาจิตในครั้งนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีค่าคือ การฝึกสมาธิ เดินจงกรม ที่เคยทำในอดีตและเลิกปฏิบัติมาระยะหนึ่ง ทำให้เห็นว่า เราได้สติ และเห็นความสำคัญของสิ่งดังกล่าวอีกครั้งว่าถ้าเราสามารถกลับไปปฏิบัติได้อีกครั้ง โดยส่วนตัวแล้วจะทำให้เรามีสติกับการใช้ชีวิตมากขึ้น คิดก่อนพูด คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ซึ่งโดยปกติก็ได้สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนอยู่แล้ว และตั้งใจว่า ก่อนนอนอย่างน้อย ต้องพยายามนั่งสมาธิสัก 10 นาที ทำให้ได้สิ่งหนึ่งที่ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องคือการแนะนำให้คนใกล้ตัวหรือคนที่ เขาหวังดีกับเราหันมาสวดมนต์ มาร่วมสะสมบุญ และดิฉันก็เพิ่งมาทราบที่นี่ว่าเป็นธรรมทานที่ยิ่งใหญ่
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดทุกครั้งที่นั่งสมาธิ และเดินจงกรม มักจะเป็นเทปเทศนาเกี่ยวกับเรื่องกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี และวิทยากรทุกท่านก็คอยย้ำประเด็นนี้อยู่เสมอ และสิ่งที่ทำให้ซาบซึ้ง และแอบน้ำตาไหลก็คือ ตอนที่มีการนำ DVD เกี่ยวกับการคลอดของแม่ ตั้งแต่เราอยู่ในท้อง ทำให้ดิฉันรู้สึกเสียใจในหลายๆ สิ่งที่ผ่านมา ทำไมต้องเถียงแม่ ทำไมบางครั้งต้องพูดอะไรให้แม่เสียใจ ทั้งๆ ที่ใจเราไม่ได้เป็นแบบนั้น การได้มาที่นี่ทำให้เป็นการเรียกสติของดิฉันกลับมา และนับจากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันจะพยายามไม่เถียงท่าน และจะกตเวที และทำให้ท่านภูมิใจในตัวดิฉันมากกว่าที่ผ่านมา
(จำได้เสมอ เวลาที่เถียงแม่ครั้งใด พ่อก็มักเตือนเสมอว่า ไม่สงสารแม่บ้างหรือไร อุตส่าห์อุ้มท้องเรามาตั้ง 9 เดือน แถมต้องเจ็บตอนที่คลอดเราออกมา)นางสาวอัญชัญ ยังบรรเทา นักศึกษาโครงการปริญญาโททางการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เขียนไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
|
Last Updated on Saturday, 16 August 2014 06:16 |