Saturday, 08 July 2017 01:55 |
มาเพื่อส่งบุญให้แม่ ผมเกิดในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อพี่แม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อกับแม่รักผมมาก พ่อกับแม่เลี้ยงดูผมอย่างทนุถนอม เหมือนไข่ในหิน วันหนึ่งข่าวร้ายๆ ก็เกิดขึ้นกับครอบครัวผม เมื่อแม่ไม่สบายหมอบอกว่าแม่เป็นมะเร็ง พอแม่รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งก็ได้แต่ร้องไห้เพราะแม่ทำใจไม่ได้ อาการของแม่ก็ทรุดลงเรื่อยๆ จากที่เดินได้ก็เดินไม่ได้ แม่ได้แต่บอกกับผมเสมอว่า “ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วลูกจะอยู่อย่างไร ใครจะทำกับข้าวให้กิน เวลาไม่สบายใครจะเช็ดตัวให้” เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายบ่อยๆ และวันนั้นผมไม่สบาย แม่ยังพยายามที่จะมาเช็ดตัว มาพัดวีให้ ทั้งๆ ที่ตัวของแม่เองก็อาการหนักมาก ทำให้ผมได้รู้ว่าความรักของแม่ยิ่งใหญ่แค่ไหน จนวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตก็มาถึง วันที่แม่ได้จากผมไป ผมเสียใจมากจนถึงทุกวันนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเรายังมีพ่อ ต้องตั้งใจเรียนให้มากแม่จะได้ภูมิใจ
จนถึงวันหนึ่งคุณครูได้มาบอกว่าจะพาไปวัดวะภูแก้ว ใจจริงผมก็ไม่อยากไป แต่ก็ต้องไปเพราะครูบังคับ แต่อีกใจหนึ่งก็ดีใจคิดว่าไปทำบุญ เพื่อบุญจะส่งไปถึงแม่ พอมาถึงวัดที่วัดอากาศดีมากเหมาะแก่การทำสมาธิ นั่งสมาธิยกแรกก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ ปวด เมื่อย แต่ผมก็นั่งสมาธิติดอันดับที่ 5 ยกต่อๆ มาก็รู้สึกปวดมากกว่าเดิม แต่ก็รู้สึกว่ามีสมาธิมากกว่าเดิม จนนั่งเป็นแชมป์ในยกที่ 3 ความรู้สึกน่าเบื่อนั้นหายไป และรู้สึกดีที่เราตั้งใจทำ เอาชนะตัวเองได้ และก็ได้บุญใหญ่อีกด้วย
อนุรักษ์ อินทะโส ม.5/1 โรงเรียนพระทองคำวิทยา
ชีวิตนี้สั้นนัก รีบทดแทนบุญคุณพ่อแม่กันเถิด
ตั้งแต่พ่อเสียไป ตอนฉันอายุ 6-7 ปี ฉันยังเด็กมาก ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวว่าพ่อที่เห็นอยู่ทุกวันจะเกิดอุบัติเหตุรถชนพ่อเสียคาที่ ฉันที่ยังอ่อนต่อโลกมาก จะต้องมารับรู้อะไรแบนี้มันเกินใจฉันมากไป ฉันคิดถึงพ่อทุกวัน ตอนที่ศพมาถึงวัดฉันเข้าไปดูพ่อที่นอนหมดลมหายใจอยู่ในโลง จากท่อที่เคยยิ้มให้พาฉันไปนู่นไปนี่ ต้องมาทำนิ่งเฉยใส่ฉัน ฉันเข้าใจว่าพ่อไม่อยู่อีกแล้ว ฉันร้องไห้โฮ ทั้งชักไปเพราะเสียใจมาก ชักไม่หยุด ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ตั้งแต่นั้นฉันก็ไม่มีโอกาสได้กราบพ่ออีกเลย เห็นเพื่อนเขามีพ่อกับแม่เราก็อดอิจฉาไม่ได้ ฉันก็ชอบทำบุญให้พ่อบ่อยๆ เพราะไม่อยากให้พ่อต้องทนหิวอยู่ในภพภูมิอื่น ฉันชอบที่จะไปทำบุญให้ท่านเสมอ
มาวันนี้ฉันได้มาฝึกอบรมที่วัดวะภูแก้ว การสงบจิต การบรรยายเรื่องคุณบิดา-มารดา ทำให้ฉันเห็นภาพตอนที่โลงศพของพ่ออยู่ตรงหน้าฉัน ใบหนาของพ่อที่นิ่งเฉยมันทีแผลเก่าในใจของฉันเหมือนมีเลือดมาใหม่อีกครั้ง แต่การที่มาฝึกนี้ทำให้ฉันเข้าใจในเรื่องการเกิด, แก่, เจ็บ, ตาย ฉันได้เรียนรู้ว่าเรามีเวลาไม่นานนัก เหมือนกับที่ฉันไม่เคยได้ทำให้พ่อเลยไม่เคยได้บอกรัก ไม่เคยทดแทนบุญคุณเลย จนสายเกินไป จึงอยากให้คนที่อ่านข้อความนี้ถ้ายังมีพ่อ, แม่อยู่ ให้ทดแทนบุญท่านเถิดนะ ก่อนที่จะเป็นแบบฉันที่ไม่ได้ทดแทนคุณพ่อเลย
จินตนา จำรัสประเสริฐ ม.4/1 โรงเรียนพระทองคำวิทยา
ค่ายนี้ทำให้พ่อลูกคืนดีกัน
วันสุดท้ายของการเข้าค่ายผ่านไปเร็วมาก เมื่อ 2 ปีที่แล้วฉันเคยมาที่วัดวะภูแก้วแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านั้นฉันเคยมีอคติกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของฉันเอง เพียงเพราะพ่อทิ้งฉันกับแม่และพี่อีก 3 คนไปมีภรรยาใหม่ แต่นั่นไม่ทำให้ฉันโกรธเท่าวันที่ฉันได้รับรางวัลลูกดีเด่นและพ่อก็ได้รับรางวัลพ่อดีเด่น แต่พ่อกลับไม่มารับรางวัลให้กับฉัน คนอื่นเขารับรางวัลพร้อมกับพ่อแต่ฉันกลับเป็นแม่ที่มารับรางวัลแทน ฉันรับรางวัลทั้งน้ำตา ทำให้ฉันโกรธพ่อมากแม้กระทั่งเงินที่พ่อส่งให้ ฉันก็ส่งคืนกลับไป ฉันรู้ว่าพ่อเสียใจ แต่ฉันก็คิดว่าก็พ่อเป็นคนทิ้งฉันไปเอง
จนฉันมาที่วัดได้ทั้งการอบรม ฉันได้ย้อนคิดว่าพ่อเป็นคนทำให้ฉันเกิดมาก็มีพระคุณมากมายแล้ว แล้วฉันจะโกรธพ่อไปทำไม หลังจากที่ฉันกลับไปจากวัดฉันก็ได้พูดคุยกับพ่อ พ่อขอโทษฉันทั้งน้ำตา ทำให้สำนึกได้และกลับมาคุยกับพ่อเหมือนเดิม เมื่อมีการเข้าคายในครั้งนี้ฉันมีความรู้สึกอยากมาปฏิบัติธรรม ฉันรู้สึกดีมากที่ได้มาวัดในครั้งนี้ แม้บางครั้งอาจจะปวดขา นอนดึกตื่นเช้าไปบ้างแต่ก็ได้ฝึกความอดทนของตัวฉันเองอีกด้วย อยากขอบคุณโรงเรียนที่ได้จัดกิจกรรมดีๆ นี้ขึ้นมา
ศกลรัตน์ คุณสันเทียะ ม.6/2 โรงเรียนพระทองคำวิทยา
ประสบการณ์เข้าค่ายบวชใจ
ข้าพเจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อและแม่ ตั้งแต่เด็กพ่อและแม่ตามใจมาตลอด ข้าพเจ้าอยากได้อะไรก็ซื้อให้หมด แต่ก็อย่างว่าตอนนั้นข้าพเจ้าอายุยังน้อยพ่อแม่ก็ตามใจเป็นธรรมดา แต่พอข้าพเจ้าโตขึ้นพอสมควร พ่อกับแม่ก็ไม่ตามใจเหมือนเมื่อก่อน ท่านมักจะบอกกับข้าพเจ้าว่าเราเกิดมาไม่ได้รวยเหมือนคนอื่นเขา อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อมาและบอกให้ข้าพเจ้าเก็บออมเงินเพื่อที่จะซื้อของที่อยากได้เองเพราะข้าพเจ้าโตแล้ว พ่อกับแม่บอกให้ดิฉันช่วยประหยัดเงินในการใช้จ่ายในแต่ละวันเพราะพ่อทำงานคนเดียว ในใจของดิฉันอยากได้นุ่นอยากได้นี่ไปหมด แต่ทำอย่างไรได้ครอบครัวเราเกิดมาจน ตัวข้าพเจ้าก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินที่เหลือจากการไปโรงเรียน และหารายได้เสริมด้วยการไปทำงานรับจ้างวันเสาร์-อาทิตย์ จนมาถึงวันที่โรงเรียนพามาอบรมวัดวะภูแก้วทำให้ข้าพเจ้านึกถึงแต่เรื่องที่คุยกับพ่อกับแม่ด้วยน้ำเสียงที่ดังและโมโหใส่ จนถึงกรรนั่งสมาธิยกที่ 5 มีพระมาเทศน์ให้ฟังเกี่ยวกับพระคุณของแม่จนทำให้ข้าพเจ้านึกถึงหน้าแม่ขึ้นมาแล้วน้ำตาก็ไหลทั้งๆ ที่นั่งหลับตาอยู่ ที่ข้าพเจ้าได้มาปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าใจเย็นมากขึ้น มีอารมณ์เสียน้อยลง ถ้ากลับไปแก้ไขอดีตได้ ดิฉันจะไม่พูดเสียงดังใส่แม่จะไม่อารมณ์เสียใส่แม่และข้าพเจ้าจะพูดคุยกับแม่ดีๆ อย่างที่แม่พูดกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยากขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ
สุภาวรรณพิแย่ง ม.6/3 โรงเรียนพระทองคำวิทยา
รู้แล้วทำไมแม่ไม่ชมหนู หนูเป็นเด็กไม่ค่อยดีเท่าไรค่ะ เป็นลูกที่ไม่ดีด้วยหนูไม่ค่อยมีความผูกพันกับพ่อแม่เพราะตอนอายุได้ 3 ขวบ หนูอยู่กับย่า แม่อยู่กับหนูไม่นานนักเพราะพ่อกับแม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ว่าพออายุได้ 4 ขวบก็ไปอยู่กับยายจนหนูอายุได้ 12 ปี แม่ก็กลับมาอยู่กับหนู หนูก็ไม่ค่อยได้ผูกพันกับท่านเท่าไรเพราะเพิ่งจะได้อยู่ด้วยกัน แต่หนูรู้สึกว่าแม่ท่านเป็นห่วงหนูมาก เวลาที่หนูไม่สบายแต่หนูก็มองข้ามไม่สนใจสักเท่าไร จนมาวันหนึ่งแม่ของหนูคลอดน้อง แม่รักน้องมากแม่ไม่ค่อยสนใจหนูเลย หนูน้อยใจมาก พ่อท่านเข้าใจหนู พ่อบอกกับหนูว่า อย่าน้อยใจเลยลูก เมื่อก่อนแม่ก็รักหนูอย่างนี้แหละ น้องยังเล็กแม่ต้องคอยเอาใจอย่างนี้แหละ จนเมื่อเวลาผ่านไปหนูอยู่ม.4 หนูตั้งใจเรียนมากจนหนูสอบได้ที่ 1 แต่หนูก็ไม่เคยได้รับคำชมจากแม่เลย หนูก็มีน้อยใจแม่บ้างจนถึงทุกวันนี้
แต่เมื่อหนูได้มาในวัดนี้ ได้อบรมจิตใจทำให้หนูรู้ถึงคุณของพ่อแม่ ทำให้หนูเลิกน้อยใจโดยสิ้นเชิง หนูรู้ว่าที่แม่ไม่ชมหนูในตอนนี้แม่อาจจะรอชมหนูในวันที่หนูเรียนจบมีงานทำก็เป็นได้ หนูอยากจะขอขอบคุณพระคุณในโครงการอบรมจิตในครั้งนี้ที่ทำให้หนูคิดได้
ตอนแรกหนูก็ไม่อยากมาอบรมหรอกค่ะ เพราะหนูเป็นคนไม่ชอบสวดมนต์ นานๆ ตอนอยู่ที่โรงเรียนทุกวันศุกร์สวดมนต์แค่ชั่วโมงเดียวหนูก็เบื่ออยู่แล้วนี่ให้มาตั้ง 3 คืน หนูคิดในใจว่า โอ้ย! ดุตายแน่ แต่พอได้มาหนูรู้สึกว่าหนูได้อะไรหลายอย่างทั้งการนั่งสมาธิ การสวดมนต์ ทำให้หนูใจเย็นลงหลับสบายขึ้น ไม่ยึดติดกับโทรศัพท์ไม่ต้องคิดถึงโลกภายนอกอยู่กับปัจจุบัน เป็นตัวของตัวเอง หนูรู้สึกดีขึ้น และรู้สึกรักที่นี่ค่ะ
สาวิตรี ชัยบุรัมย์ ม.5/2 โรงเรียนพระทองคำวิทยา
|
Last Updated on Saturday, 08 July 2017 02:18 |