Wednesday, 01 March 2017 03:06 |
ตัวสำรองมาได้ของดี ที่หนูต้องมาเพราะคุณครูต้องการนักเรียน 30 คน โดย เอา ม.4/1 เป็นหลักแต่มันยังขาด 6 คน จึงต้องเอา ม.4/2 ไปด้วย ตามความสมัครใจของนักเรียน แต่ไม่มีใครว่างมาให้ครู หนูจึงตัดสินใจยกมือ วันแรกของการทำกิจกรรมมันน่าเบื่อมาก ไม่รู้จะให้นั่งนานอะไรนักหนากับไอ้แค่นั่งสมาธิ ไม่เห็นจะได้อะไร แถมยังปวดยังเมื่อยอีกต่างหาก แต่พอมานั่งรอบที่ 2 เท่านั้นแหละ ทำให้หนูรู้สึกได้ว่าการที่เรายึดติดกับลมหายใจ เข้า-ออก มันทำให้จิตใจเราอยู่กับเนื้อกับตัวแล้วความสบายก็ตามมา ทำให้หนูเปลี่ยนความคิดได้เลย หนูมีเรื่องทุกข์ใจอยู่ พอได้นั่งสมาธิ ความทุกข์นี้ก็หายไป สบายใจอย่างกับไม่เคยมีเรื่องทุกข์ใจมาก่อน จากที่ตัวหนูเองเป็นคนไม่ชอบนั่งสมาธิมาก ถึงกับเกลียดด้วยซ้ำ แต่มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือหนูชอบสวดมนต์ - ไหว้พระ รู้สึกได้เลยว่าการนั่งสมาธิทำให้เราหายทุกข์ได้และอาจจะเป็นวิธีที่ทำให้คลายเครียดดีที่สุดแล้ว เพราะมันทำให้จิตใจเราอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ฟุ้งซ่าน หลังจากกลับมาจากวัด เวลาที่หนูทุกข์ใจ หนูก็ใช้วิธีการนั่งสมาธิเพื่อคลายเครียด แล้วมันก็ได้ผลดีเหมือนเดิม แล้วยังสร้างบุญสร้างกุศลไปในตัวอีกด้วย คือเราแม่เมตตาเราก็ได้บุญ ผู้คนส่วนใหญ่ทั้งหนูด้วย เคยคิดว่าการทำอะไรสนุกๆ จะทำให้เราหายเครียด จนลืมคิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันถูกหรือผิด มันหายเครียดก็จริง แต่มันก็แค่ชั่วคราว เมื่อเราหมดสนุก ความเครียดมันก็กลับมาวนอยู่ในใจเราเหมือนเดิม การนั่งสมาธิเป็นวิธีที่ทำให้หายเครียดและไม่กลับไปคิดถึงมันอีก เป็นวิธีเดียวที่ดีที่สุดสำหรับหนู หนูมาที่วัดนี้ หนูได้อะไรดี ๆ หลายอย่างมาก จากคนที่คิดผิดมองผิด ก็ทำให้คิดได้ มองในแง่ดี มองหลาย ๆ ด้าน
นางสาวอมรรัตน์ พิมี โรงเรียนหนองหว้าพิทยาสรรค์ ชั้น ม.4/2
โชคดีที่เปลี่ยนใจมาวัด ตอนแรกหนูอยากมามากแต่คนครบแล้ว รถมันเต็มไม่มีที่นั่ง แต่ก็ได้มีเพื่อนหนูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า เราสละสิทธิ์ให้ก็ได้น่ะ ถ้าเธออยากไป พอดีเรามีปัญหาทางบ้าน พอได้ยินแบบนั้น หนูดีใจมาก ก่อนมาก็มีปัญหากับแม่ ทะเลาะกับแม่ เพราะแม่แอบไปเล่นการพนัน บอกว่าจะไปส่งหนูที่โรงเรียนแต่ก็ไม่ไปส่ง พอหนูรู้ หนูก็รีบขับรถไปหาแม่ และ ต่อว่าแม่ ว่าแม่ไม่มีความรับผิดชอบ ว่าแม่ไม่รัก หนูเสียใจอย่างหนักที่แม่ไม่ทำตามสัญญาเพราะแม่เคยสัญญากับหนูว่าจะเลิกเล่นการพนัน หนูโกรธแม่มาก เลยจะประชดด้วยการไม่ไปเข้าค่ายกับเพื่อน ๆ แต่อยู่ดี ๆ ความคิดก็เปลี่ยน รู้สึกอยากไปทันที จึงได้โทรบอกเพื่อนให้คุณครูรอ แล้วหนูก็รีบขับรถมาอย่างรวดเร็ว การเดินทางไปเข้าค่ายวันนั้นเป็นไปอย่างเศร้าหมอง แต่พอมาถึงวัดวะภูแก้ว หนูกลับรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกสบายหูสบายตา มองดูรอบ ๆ ร่มรื่นไปหมด เห็น ดร.ดาราวรรณครั้งแรกรู้สึกศรัทธาและนับถือ เพราะตอนนั้นหลังจากลงจากรถ ดร. ก็ตรงเข้ามาบอกพวกหนูที่นั่งไม่เรียบร้อยว่าประตูหลังไม่ปิด (รถ 6 ล้อ) เกิดตกลงมาจะทำยังไง ขากลับเข้าไปนั่งดี ๆ ปิดประตูด้วยนะ เป็นคำบอกที่เป็นห่วง หนูสัมผัสได้ หนูนั่งฟังธรรมที่ ดร. บรรยายอย่างตั้งใจ หนูรู้สึกสบายกายสบายใจ รู้สึกชอบ ฟังแล้วสดชื่น สอนหลายอย่าง สอนนั่งสมาธิ ทั้งกริยามารยาท การพูดจา สื่อสาร และหนูยังได้รางวัลการนั่งสมาธิได้นานอีกด้วย ดีใจมากค่ะ ไปวัดวะภูแก้วครั้งนี้ ไม่ได้รู้แค่เรื่องบาปบุญคุณโทษ แต่หนูได้รู้ทุก ๆ อย่าง พอ ดร. สอนเรื่องแม่ หนูก็รู้สึกผิดมาก ที่พูดจาไม่เพราะกับแม่ ที่ทำให้แม่เสียใจ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีมาก ๆ เป็นคนบาป จึงอยากไถ่บาป ดร. บอกว่า การนั่งสมาธิเป็นการปฏิบัติธรรมชั้นสูงสุด ได้ผลดีที่สุด หนูเลยตั้งใจนั่งสมาธิ ตั้งใจสวดมนต์ บำเพ็ญเพียรภาวนา หนูตั้งใจว่ากลับไปจะไปกราบเท้าแม่ และเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ แม้ว่าตัวเองจะถูกหรือผิด ก็จะไม่เถียง จะรับฟังและปฏิบัติตามอย่างเดียว
นางสาวกัณญามาศ ธรณี โรงเรียนหนองหว้าพิทยาสรรค์ ชั้น ม.4/2
|
Last Updated on Wednesday, 01 March 2017 03:21 |