Thursday, 17 December 2015 03:40 |
พุทธศาสนาตอบได้ทุกคำถาม หนูเคยคิดว่าชีวิตเกิดมาทำไม ทำอะไรก็เหมือนผิดไปหมด ไม่มีความสุขเลย หนูผ่านมาหลายเรื่องหลายอย่างกว่าจะคิดได้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ความทุกข์ในชีวิตของหนูมาถึงที่สุดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ ได้แต่ถามตัวเอง ได้แต่คิดกับตัวเอง ปรึกษาใครก็ไม่ได้ทั้งที่มีครอบครัว แต่เวลาหนูถามอะไร ไม่ค่อยมีใครอยากตอบหนูเลย คิดว่าไม่ถามจะดีกว่า ถ้าถามแล้วไม่ได้คำตอบ คงจะเสียความรู้สึกมากกว่าเดิมอีก แต่ก็มีสิ่งดลใจให้หนูรู้จักธรรมะ พอได้อ่านพระพุทธศาสนาสุภาษิตต่างๆ ก็รู้สึกดีขึ้น มีกำลังใจ แล้วหนูก็รู้สึกชอบพระพุทธศาสนา เพราะคำสอนต่างๆ ทำให้หนูรู้ว่าชีวิตเกิดมาทำไม แล้วควรทำอะไรให้กับชีวิตตัวเอง จากที่เคยมีความทุกข์มากสุดๆ ก็ได้เข้าใจว่า “ความทุกข์เหล่านั้นล้วนเกิดจากจิตใจของตัวเอง” สิ่งที่ทำให้รู้สึกทุกข์ก็คือจิตใจเราเองที่รู้สึกตามสิ่งที่มากระทบให้รู้สึก หลังจากเข้าใจแล้วก็ทำให้ชีวิตของหนูรู้จักอุเบกขา (วางใจเป็นกลาง) ความทุกข์ที่เคยเกิดหรือจะเกิดอีก หนูก็พร้อมจะยอมรับเสมอ ยิ่งได้มาที่วัดวะภูแก้ว หนูก็ยิ่งได้ฝึกความอดทนของจิตใจตนเองมากขึ้น พระพุทธศาสนาทำให้คนเป็นคนได้จริงๆ เพียงเปลี่ยนความคิดชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป “ไม่มีใครจะเข้าใจเราได้ดีที่สุดเท่าตัวเราเอง” (ไม่จำเป็นต้องเอาชนะใคร ชนะใจตัวเองให้ได้ดีที่สุดแล้ว)
นางสาวบุษราภรณ์ ใจเย็น โรงเรียนขามสะแกแสง ชั้น ม.4/3 เขียนไว้ ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
รู้แล้วว่ามาวัดทำไม ตั้งแต่ดิฉันก้าวขึ้นรถออกจากโรงเรียน ดิฉันคิดมาตลอดเวลาว่า ที่วัดนี้จะเป็นยังไง พอได้ปฏิบัติทุกวัน เจริญภาวนาทุกวัน มันทำให้ดิฉันจิตใจสงบ เงียบ แรกๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตื่นแต่เช้า ตื่นมาทำวัตรแต่เช้า นั่งสมาธิ ฟังพระเทศน์ทำไมให้เมื่อย แต่ตอนนี้ ดิฉันเข้าใจแล้วว่าที่เรามานี่ เรามาทำไม มาเพื่ออะไร ก็มาเพื่อพัฒนาจิตใจ พัฒนาสมาธิของเราเองให้มันสงบ วันสองวันแรกก็น่าเบื่อมากกับกิจกรรมต่างๆ แต่วันที่สาม สี่ ความคิดของดิฉันเริ่มเปลี่ยน สมาธิก็เริ่มมีมากขึ้นหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ
หลังจากได้ฟังธรรมะ ได้ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ มันทำให้ดิฉันคิดถึงการกระทำของตนเองที่ได้กระทำไว้กับพ่อและแม่ ดิฉันได้ทำสิ่งที่ไม่ดีมากมายทำให้ท่านเสียใจในหลายๆ เรื่อง ทั้งๆ ที่ฉันก็เป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ก็รักฉันแค่คนเดียว แต่ฉันกลับทำไม่ดีกับท่านมากมาย งานบ้านก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง รู้ทั้งรู้ว่าท่านเหนื่อยจากการทำงานมา แต่ก็ไม่เคยหาน้ำให้ท่านดื่มเพื่อคลายความเหนื่อยล้า ทำแต่เรื่องให้ท่านทุกข์ใจไปวันๆ ทั้งๆ ที่ท่านทำงานมาก็เพื่อหาเงินมาให้ดิฉันใช้ซื้อของที่อยากได้ เสื้อผ้าข้าวของของดิฉันก็มาจากเงินของท่านทั้งหมด ดิฉันอยากได้อะไรก็ต้องได้ เสื้อผ้าก็มาจากน้ำพักน้ำแรงท่าน แต่เสื้อผ้าของพ่อกับแม่บางตัวขาด แต่ท่านก็ไม่เคยคิดอยากได้ใหม่ เก็บเงินไว้เพื่อดิฉันคนเดียว แต่การกระทำของดิฉันกลับทำไม่ดีกับท่าน ไม่สมกับที่ท่านรัก ทำแต่ความลำบากใจให้ท่าน หลังจากที่ได้สมาธิคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เคยทำมา วันนี้กลับไปดิฉันจะกลับไปขอโทษท่าน ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ทำไป จะไปเป็นลูกที่ดีของท่าน ไม่ทำให้ท่านเสียใจอีกต่อไป จะช่วยภาระการทำงานของท่านนางสาวสุกัญญา อ่ำกลาง โรงเรียนขามสะแกแสง ชั้น ม.4/3 เขียนไว้ ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 สมาธิดี ความจำดีขึ้น
ที่ผ่านมาหนูเคยทำตัวไม่ดี ทำสิ่งไม่ดีหลายอย่าง ทำให้พ่อแม่เสียใจบ่อยครั้ง ตอน ม.3 หนูเคยหนีเที่ยว ดื่มเหล้า เสพสิ่งเสพติดบางอย่าง และติดแฟนมาก ในตอนนั้นมีครูหลายคนคอยบอกคอยเตือนหนูตลอด แต่หนูก็ไม่ได้คิดอะไร หนูก็ทำอย่างนั้นมาเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง หนูแอบไปอยู่กับแฟนและตอนนั้นมันก็ค่ำแล้ว หนูก็ยังไม่กลับบ้าน พ่อและแม่หนูก็โทรตาม แต่หนูไม่รับ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้ แต่ที่รู้ๆ หนูไม่สนใจความรู้สึกของพ่อแม่เลย และพอหนูกลับบ้านไป แม่กับพ่อก็นั่งรอหนูอยู่หน้าบ้านด้วยความเป็นห่วง หน้าของแม่ในตอนนั้นเสียใจมาก ไม่มีรอยยิ้ม มีแต่ความกังวล แต่ตอนนั้นหนูก็ไม่ได้คิดอะไร
พอหลังจากนั้น หนูก็เลิกกับแฟน หนูเสียใจมาก แต่ตอนนั้นหนูมีแม่อยู่ข้างๆ แม่คอยปลอบหนู และอยู่ข้างหนูมาตลอด หลังจากนั้นตอน ม.3 เทอมปลาย หนูก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเพราะรู้ถึงความรักของแม่ที่มีต่อเรา แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุด แม่ไม่เคยทิ้งเรา ถึงแม้ว่าเราจะทำตัวไม่ดีแค่ไหน แม่ก็ยังรักเรา หลังจากนั้นหนูก็ทำตัวดีขึ้น หนูเลิกกินเหล้า เลิกเที่ยว ตั้งใจเรียน เลิกยุ่งกับทุกสิ่งที่ไม่ดี การที่หนูมาอบรมที่วัดวะภูแก้วในตอน ม.4 นี้ ทำให้หนูได้แง่คิดที่ดีเพิ่มขึ้น และทำให้หนูมีแรงบันดาลใจในการทำความดี ทำสิ่งดีๆ มากขึ้น การนั่งสมาธิยกแรก หนูออกจากสมาธิเป็นคนสุดท้าย วันนั้น หนูมีสมาธิมาก หนูไม่เคยนั่งสมาธินานขนาดนี้ มันทำให้จิตใจหนูสงบมากและการอบรมมีทั้งสาระความรู้ สนุกสนาน แต่เน้นพัฒนาจิต ทำให้หนูมีจิตที่สงบมาก
ตอนนั่งสมาธิไปบางช่วง ท่องธาตุไป ปกติหนูเป็นคนความจำไม่ดี แต่ตอนนั้นหนูท่องธาตุได้คล่องมาก หนูเลยเชื่อว่าสมาธิมีความสำคัญกับเรามาก หนูหวังว่ากลับไปที่โรงเรียน หนูจะมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น และหนูจะตั้งใจทำความดี พยายามถือศีล 5 ให้ได้ หนูจะตั้งใจทำความดีเพราะหนูรู้ผลของบุญ – บาปแล้ว หนูจะเลือกทำแต่ความดี จะรักแม่ให้มากขึ้น จะใส่ใจแม่ ให้ความสำคัญแม่มากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้หนูไม่มีเวลาให้แม่เลย สุดท้ายก็ขอฝากอะไรไว้บางอย่าง เรามีแม่ได้แค่คนเดียว ดังนั้นหนูก็อยากให้ทุกคนทำสิ่งที่ดีเพื่อแม่ของเราที่มีแค่คนเดียวบ้าง รักแม่ให้มากๆ ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้รัก
นางสาววรีภรณ์ สุวรรณกลาง โรงเรียนขามสะแกแสง ชั้น ม.4/3 เขียนไว้ ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
แม่คือผู้ให้ทุกอย่าง แม่เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ดิฉันยังเป็นเด็ก ดิฉันน่ารักมาก เชื่อฟังคำสั่งสอน แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่นเท่านั้นแหละ ดิฉันทำตัวเหลวแหลก เมื่อแม่ชวนไปวัดทำบุญ ดิฉันก็จะพูดขึ้นมาว่า “ไม่ไป ไม่อยากไป น่าเบื่อ” และทุกๆ ครั้ง แม่จะเงียบไปและไม่พูดอะไรอีกเลยทั้งวัน บางครั้งแม่ก็แอบไปร้องไห้คนเดียว ดิฉันเคยทำให้แม่เสียใจ คือ ดิฉันเคยหนีแม่เที่ยว บางครั้งก็กลับบ้าน บางทีก็ไม่กลับ อยู่บ้านเพื่อนบ้าง เคยเสพยาบ้าง เคยติดกัญชา ติดบุหรี่ เหล้า ติดผู้ชาย ติดเพื่อน กาวก็ดม
จนกระทั่งดิฉัน ได้มาอบรมที่วัดวะภูแก้ว ทำให้ดิฉันเข้าใจและรู้แล้วว่า เราทำตัวผิดและเกือบจะตกนรกเกิดเป็นเปรตก็อาจจะเป็นได้ ตอนที่วิทยากรได้พูดอะไรเกี่ยวกับแม่ ทำให้ดิฉันน้ำตาไหลและซาบซึ้งถึงบุญคุณของบุพการี และนึกถึงการให้ของท่าน ท่านได้ให้อะไรมากมาย คือ ให้กำเนิด ให้เล่าเรียน ให้มีชีวิตที่ดี จนท่านยอมติดหนี้สิน กู้ยืมเงินมาส่งดิฉันเล่าเรียนในโรงเรียนที่ดี ถึงแม้วันนี้ท่านจะไม่ได้รับรู้ว่าดิฉันจะบอกว่า หนูรักแม่มาก และหนูจะเปลี่ยนตัวเองใหม่ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนดี เป็นคนเก่งของแม่เหมือนเดิม และดิฉันจะทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด จนลมหายใจสุดท้าย
จาก...ลูกเลวที่แม่รัก นางสาววิมลรัตน์ เปลี่ยนบู่ โรงเรียนขามสะแกแสง ชั้น ม.4/6 เขียนไว้ ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
ฝากชีวิตไว้กับพ่อแม่ แน่นอนกว่าฝากไว้กับแฟน หนูอยู่ ม.5 ค่ะ ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี พ่อรับราชการตำรวจ แม่ทำธุรกิจส่วนตัว รายได้ต่อเดือนก็เกือบๆ แสน บางเดือนก็เกือบสองแสน แต่ถึงแม้รายได้จะเยอะ แต่รายจ่ายก็เยอะเช่นกันเพราะเมื่อก่อนฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี พ่อต้องไปกู้เงินส่งหนูกับพี่เรียนต่างจังหวัด เป็นโรงเรียนประจำ ค่าเทอม รวม 2 คน ก็เกือบแสน พ่อต้องกู้มาซื้อรถ มาทำบ้านใหม่ พ่อกับแม่ไม่เคยให้ลูกสองคนอดเลย พ่อกับแม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสบาย จนเด็กที่บ้านพากันอิจฉาหนูกับพี่มาก แต่ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะเลี้ยงหนูดี ใช่ว่าหนูจะดีตาม หนูเคยทำให้พ่อกับแม่ใจสลายเกือบตายทั้งเป็นเพราะหนูมาแล้ว
ช่วง ม.5 เทอม 1 นับว่าเป็นฝันร้ายของหนูเลยทีเดียว หนูติดแฟนมาก รักมาก คิดว่าจะฝากชีวิตไว้กับคนนี้ เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ หนูกับเขาห่างกัน 7 ปีค่ะ หนูติดเขามาก ยอมเขาทุกอย่าง อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันที่หนูไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นคือ ผู้ชายที่หนูรักมาก หวังจะฝากชีวิตไว้กับเขา เขากลับมาทิ้งหนูไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งเหมือนทิชชู่ที่ใช้แล้ว ตอนนั้นหนูเสียใจมาก หนูเลยตัดสินใจโทรไปหาแม่ และบอกกับแม่ว่า “เขาทิ้งหนูไปแล้ว” ตอนก่อนที่จะโทร หนูคิดว่าพ่อแม่หนูต้องไม่ยอมแน่ๆ ประมาณว่าทำลูกกูแล้วจะทิ้งไปแบบนี้หรือ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่หนูคิด แม่หนูตกใจกลัวพ่อจับได้ เลยแอบมาคุยกับหนูพร้อมกับเสียงสั่นๆ เหมือนร้องไห้ แม่บอกกับหนูว่าจะไม่ให้พ่อรู้เรื่องนี้ เพราะถ้าพ่อรู้บ้านแตก ไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ เพราะพ่อเป็นคนดุ พ่อมีหน้ามีตา หลายคนนับถือ แต่แล้ววันหนึ่ง พ่อก็รู้เรื่องทั้งหมด ถามว่าพ่อโกรธมั๊ย ก็โกรธแหละ พ่อกับแม่พูดเสมอว่าพ่อกับแม่เสียใจมาก ลูกทำให้พ่อกับแม่ใจสลายเกือบตายทั้งเป็น แต่พ่อแม่ก็ให้อภัยพร้อมกับบอกว่าที่ผ่านมาถือว่าเป็นบทเรียนอันเจ็บปวดสุดของลูกผู้หญิง หนูรู้สึกแปลกใจมากเพราะหนูคิดว่าพ่อจะตบจะตีหนู จะไล่หนูออกจากบ้าน แต่ไม่ใช่เลย พ่อกับแม่กลับให้กำลังใจหนู พอผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาได้ มันทำให้หนูคิดได้ รักพ่อ รักแม่มากขึ้น รักตัวเอง เริ่มรักเป็น เวลาจะทำอะไรไม่ดีก็จะนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น วันที่พ่อแม่ร้องไห้ หนูเลยไม่กล้าทำเลย ถ้าได้กลับบ้านไปหนูจะกอดพ่อแม่ เป็นเด็กดีของท่าน ไม่ทำให้ท่านเหนื่อยใจ หนูสัญญา
นางสาวรุจิรา โลนไธสง โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ชัยภูมิ ชั้น ม.5/1 เขียนไว้ ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
|
Last Updated on Thursday, 17 December 2015 04:04 |