Wednesday, 19 November 2014 02:13 |
ด้วยเดชแห่งบุญ นรกจึงกลายเป็นสวรรค์
คำว่าวัด โอ้โหผมได้ยินและไม่อยากมาเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่ามาแล้วมีแต่ทุกข์ มาก็มานั่งสมาธิอะไรก็ไม่รู้ สวดมนต์อะไรกันมากมาย เบื่อ เพราะผมนะเคยมาวัดวะภูแก้วแล้วตอน ม.1 มันช่างแสนลำบากอะไรเหลือเกิน พอได้ข่าวเท่านั้นแหละว่าครูจะพามาอบรมจิตที่วัดวะภูแก้ว คิดในใจเลย โอ้นี่มันนรกชัดๆ ให้ไปเข้าค่าย รด.ตั้ง 11-12 วัน สุดลำบากพอกลับมาก็จะให้มาอบรมธรรมะอีก ให้ตายเถอะ นรกมาแล้ว
พอกลับมาจากค่าย รด. ผมคิดเลยนะว่าจะแกล้งเป็นไข้ จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหลัง ปวดเอวที่วัดวะภูแก้วเพราะมาตั้ง 5 วัน ขนาดตอน ม.1 แค่ 3 วัน ยังกับเป็นปีเลยทีเดียว แต่เดชแห่งบุญนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องมาจริง ๆ ละ พอมานั่งสมาธิสวดมนต์ มันเบื่อและแสนปวดขาสุดที่จะทน เวลานั่งสมาธิก็ไม่มีสติในยกแรก พอท่าน ดร.ดาราวรรณ มานั่งอบรมเรื่องพ่อแม่เท่านั้นและผมก็รู้ได้เลย ผมคิดเลยว่ายกต่อไป ผมต้องนั่งสมาธิติดแชมป์ได้ พอถึงเวลานั่งสมาธิ แปลกใจครับมันนั่งได้ จากปวดขาก็หายปวด จิตมันก็นิ่งไป จากที่เคยคิดว่าวัดคือนรกขุมหนึ่งก็เหมือนสวรรค์เลย จากที่เคยคิดที่ไม่อยากมา รู้สึกรักวัดวะภูแก้วแล้วสิ ถึงตอนนี้ผมอยากขอบคุณครูอาจารย์ที่พาผมมาเปลี่ยนชีวิตที่วัดวะภูแก้ว สุดท้ายที่สุดเลยที่ผมคิดได้จากการนั่งสมาธิ
ขนาดวันเวลา 5 วันที่อยู่วัดยังผ่านมาจนจบสิ้น ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ชีวิตค่อยๆ ผ่านไปทุกวันจากเด็ก - ผู้ใหญ่ - แก่ สุดท้ายก็ต้องตาย มันทำให้ผมคิดได้ว่าการตายนั้นมันไม่ได้เป็นทุกข์เลย “งานเลี้ยงยังมีวันเลิกรา พบกันมาก็ต้องจากมันไป” จงยึดสติเป็นที่พึ่งของชีวิต
นายณรงค์ชัย ขอร่วมกลาง โรงเรียนเมืองคง ชั้น ม.4/11 เขียนไว้ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2557
อ่านหนังสือธรรมะก็สนุกดี
ผมเป็นหนึ่งในคนที่เพิ่งจะกลับจากค่าย รด. มาไม่กี่วันมานี้ เหมือนในหนังสือที่ครูให้อ่าน แต่ผมคิดว่าค่ายนี้สบายกว่าค่าย รด.มาก ถึงแม้ผมจะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอะไรที่เป็นธรรมะสักเท่าไร เวลามีงานบุญที่บ้าน นิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ ผมก็จะไม่ค่อยชอบไปนั่งประนมมือฟังพระสวดสักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้เกี่ยงอะไร พอทนนั่งไปได้ เวลาผมเห็นหนังสือธรรมะตามโรงพยาบาล ผมมักจะเบื่อและรู้สึกว่าทำไมมีแต่หนังสือธรรมะ ไม่เห็นมีการ์ตูนให้อ่านบ้าง จนได้มาเข้าค่ายที่นี่ ได้อ่านหนังสือธรรมะก็รู้สึกว่ามันก็สนุกดีนะ ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเอาไว้ ได้มาที่นี่รู้สึกสงบขึ้น ถึงแม้จะมีเมื่อยบ้างในการทำวัตรหรือนั่งสมาธิ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกสบายและคิดว่าอยากจะทำเพื่อให้ได้บุญมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนไม่ค่อยเชื่อว่า นรก-สวรรค์มีจริง คิดว่าคนตายไปแล้วเกิดใหม่เลย ไม่ต้องไปชดใช้กรรม แต่มาที่นี่ได้รู้มากขึ้นว่าตายแล้วไปไหน เกิดเป็นอะไร ขึ้นอยู่กับอะไร ทำให้อยากทำบุญมากขึ้นเพื่อบุญที่ทำจะนำเราไปเกิดในภพภูมิดี ๆ วิทยากรที่นี่ไม่แค่สอนธรรมะอย่างเดียว ยังสอดแทรกความรู้ต่างๆ ที่ดีด้วย ทำให้ฉลาดมากขึ้น ต้องขอบคุณวิทยากรจริงๆ ครับ
นายสรวงศ์ ท่วงสูงเนิน โรงเรียนเมืองคง ชั้น ม.4/13 เขียนไว้ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2557 จะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ
ครั้งแรกที่มาที่นี่ พอลงจากรถมองไปรอบๆ เห็นความสวยงาม บรรยากาศดีๆ ของวัด แรกๆ ก็ไม่อยากมาเพราะกลัวหลายๆ อย่าง แต่พอได้อยู่คืนหนึ่งแล้วก็ไม่กลัวเท่าไร แต่กลับชอบวัดนี้มาก ถึงจะอยากกลับบ้านมาก แต่ก็อยากจะได้บุญไปเยอะๆ จึงตั้งใจนั่งสมาธิ ถึงจะไม่ได้เป็นแชมป์ แต่เราก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ภูมิใจแล้วที่ทำได้ และก็ตั้งใจสวดมนต์ ไหว้พระ การนั่งสมาธิครั้งแรกรู้สึกเมื่อยและปวดขามาก แต่พอนั่งไปได้ 2-3 วัน ก็จะรู้สึกว่าอาการปวดเมื่อยลดลงไม่ค่อยมาก โดยเฉพาะในวันที่ 4 ได้ขึ้นไปบนลานธรรม เห็นวิวทิวทัศน์สวยงามมาก ผมจึงตั้งใจทำสมาธิให้ดีที่สุด และประทับใจคณะวิทยากรมาก ท่านให้ความรู้แก่พวกเรามากมาย ทำให้เราได้คิด ได้ไตร่ตรองในสิ่งที่เราเคยทำไว้ เมื่อผมกลับไปที่บ้าน ผมจะกลับไปทำในสิ่งที่ไม่เคยทำเลย คือ “บอกรักแม่” และทำในสิ่งที่ไม่ค่อยจะทำ คือ การงาน งานบ้าน ช่วยแบ่งเบางานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และสุดท้ายนี้ ผมขอบอกว่าผมจะไม่ลืมวัดนี้ จะนำคำสั่งสอนของคณะวิทยากรทุกท่านไปใช้ให้ได้มากที่สุด และถ้ามีโอกาส ผมจะกลับมาที่วัดนี้อีก จะไม่ลืมบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ อากาศสดชื่นๆ นี้เลย
นายสหภาพ ทัดกลาง โรงเรียนเมืองคง ชั้น ม.4/2 เขียนไว้ ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2557
|
Last Updated on Wednesday, 19 November 2014 02:20 |