Tuesday, 14 January 2014 02:05 |
จะทำตัวให้ดีกว่าเดิม ก่อนที่หนูจะได้มาอบรมปฏิบัติธรรมพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้ว หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสติอยู่กับเนื้อกับตัว เวลาเพื่อนพูดอะไรก็จะไม่เข้าใจในเรื่องที่เพื่อนพูด เป็นคนขี้หงุดหงิด เวลาอยู่บ้าน ชอบด่าน้อง ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ไม่น่าด่า แต่ก็ด่า กับแม่ก็เป็นคนที่ค่อนข้างบอกยาก บอกให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยทำชอบพูดว่า “เดี๋ยวก่อน” ส่วนกับพ่อก็ชอบพูดใส่อารมณ์ พูดเหมือนโมโห แต่จริงๆ ไม่ได้โมโห ที่พูดอย่างนั้นเพราะเวลาที่พ่อมีอาการเมา พ่อชอบพูดโมโหใส่ ทั้งๆ ที่เราถามดี ๆ ก็เลยพูดกับพ่อไม่ค่อยดี พอได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้วแล้ว ก็ทำให้หนูมีสติมากขึ้น จิตใจสงบมากขึ้น รู้จักระงับอารมณ์ คืนสุดท้ายได้ระลึกถึงพ่อแม่ก็ทำให้หนูเสียใจมากกับสิ่งที่ทำกับพ่อแม่ รู้สึกผิดกับพ่อแม่และน้องมาก ๆ ถ้ากลับจากวัดวะภูแก้วไป หนูจะทำตัวให้ดีกว่าเดิม มีสติมากขึ้น จะไม่ด่าน้องถ้าไม่จำเป็น ถ้าแม่ให้ทำอะไรก็จะรีบทำและที่รู้สึกผิดมากและจะไม่ทำอีกคือ พูดไม่ดีกับพ่อ หนูจะพูดดีๆ กับพ่อ ไม่พูดโมโหใส่เพราะกลัวบาป บาปที่แรงสุดคือบาปที่ทำกับพ่อแม่
น.ส.อนุชสรา เรืองประโคน ชั้น ม.5/4 เลขที่ 28 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม วันที่ 9 ธันวาคม 2556 มาแล้วมีแต่ได้ ครั้งแรกที่รู้ว่าจะได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว ดีใจมากเพราะเป็นสถานที่ปฏิบัติแล้วได้ผล ใครที่ได้มากจะได้บุญกลับไป แล้วกลับตัวเป็นคนดีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์
หนูรอวันที่จะได้มาที่วัดวะภูแก้ว จนถึงวันที่ได้มา หนูรู้สึกดีมาก พอเข้ามาถึงวัด หนูรู้สึกอิ่มบุญ วัดน่าปฏิบัติดั่งที่พี่บอก พี่หนูมาปีก่อน พอกลับไป พี่เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ตั้งใจเรียน เกรดดีขึ้น พ่อแม่ชื่นใจ มีความสุข พอวันที่ปฐมนิเทศวันแรก หนูรู้สึกอึดอัดมาก ทรมานสุดๆ แค่สวดมนต์ คิดแล้วคิดอีก นั่งสมาธิกายแทบจะระเบิดเป็นชิ้นเล็กๆ พอวันที่สองก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย พออดพอทน พยายามสวดมนต์ นั่งสมาธิ แต่ก็พอจะได้ผลตอบรับที่ดี วันที่สาม เริ่มเป็นผู้เป็นคน จิตสงบขึ้น แต่นั่งสมาธิก็ทนไม่ได้ นั่งดิ้นไปดิ้นมาเหมือนผีเข้า
ต่อมาวันที่สี่ หนูนั่งนิ่งมาก รู้สึกว่าตัวเบา ไม่เมื่อย ไม่ชา ไม่ทรมาน นิ่งสงบ มีความสุขอิ่มบุญ ที่รู้มีประมาณ 3-4 รอบที่หนูนั่งสมาธิ จิตหนูลอยออกไป หนูตามจิตไป หนูได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ว่าให้กลับมา แต่หนูก็พยายามตามจิตออกไปไกล ใครเรียกหนูไม่สนใจ พอตามไปเรื่อยๆ หนูไม่เห็นอะไรเลย มันเป็นสถานที่อันกว้างใหญ่ เป็นห้องสีขาว แต่กว้างมากจนหนูหาทางออกไม่เจอ พยายามตั้งสมาธิแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร พยายามนิ่งสักพัก ก็ได้ยินพี่เลี้ยง คุณครูพยายามมาช่วย แต่หนูคงจะจิตอ่อนมากที่วิ่งตามไปเพราะมันคล้ายกับเป็นแค่ภาพลวงตา ความฝันที่หนูคิดไปเองและยึดติดกับมันมากเกินไป จนทำให้ทุกคนกลัวหนูออกมาไม่ได้ จิตหนูเมื่อไปแล้ว ไปเลย กว่าจะกลับมา เล่นเอาทุกคนลุ้น หนูคงมีกรรมมากที่นั่งสมาธิให้ได้ผลไม่ได้
มาอยู่ที่วัดนี้ดีมาก สอนให้หนูเป็นคนที่มีจิตสำนึก รู้จักผิดชอบชั่วดี ได้ประสบการณ์ ความคิด การสร้างความดี ยับยั้งสิ่งไม่ดีได้มาก ตอนนี้รู้สึกว่ามีปีติมากๆ จนเหมือนอยู่ในวิมานแห่งความสุข ที่ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หนูขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านและคุณครูทุกคนที่ทำให้หนูคิดอะไรดีๆ ได้
หนูอยากจะชวนให้คนที่สนใจ มาปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว มาแล้วจะไม่ผิดหวัง ได้บุญกุศลกลับมาบ้านทุกคน หนูซาบซึ้งกับวัดวะภูแก้วมาก หนูได้บุญ ได้ทำบุญให้พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ญาติสนิทมิตรสหาย
ถ้าได้กลับบ้านสิ่งแรกที่หนูจะทำคือ ไปบอกรักแม่และกราบเท้ายายและป้าที่เลี้ยงดูหนูมาตั้งแต่เด็ก ที่ไม่กราบเท้าแม่เพราะแม่ไม่ได้อยู่กับหนู
น.ส.แพรวพรรณ สิงห์เส ชั้น ม.5/1 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม วันที่ 9 ธันวาคม 2556 ประสบการณ์การปฏิบัติธรรม ก่อนที่หนูจะมาที่นี่ หนูทำตัวไม่ดีกับแม่ รู้สึกว่าเบื่อแม่ แม่ถามหนูว่า จะไปวันไหน ไปกี่วัน หนูตอบแม่ว่ากลับวันไหน ก็เห็นวันนั้นแหละ ถามมากน่าเบื่อ แม่ก็พูดว่า แม่เป็นแม่ถามลูกแค่นี้ไม่ได้ แม่ก็จะไม่ถามลูกอีกแล้ว หนูก็เงียบ พอตกเย็น หนูเก็บเสื้อผ้า แม่ก็ถามอีกว่า เอาผ้าห่มไปหรือยัง อยู่ที่นั่นคงจะหนาวน่าดู เตรียมเสื้อกันหนาวไปกี่ตัว เอาไปเถอะน่ะ เดี๋ยวหนาว หนูก็บอกแม่ว่า จะเอาไปทำไมเยอะแท้มันหนักกระเป๋า แม่น่ะไม่รู้อะไรเลย ขึ้นไปนอนได้แล้ว ไม่ต้องมายุ่งกับหนู แม่ก็เงียบ พอเช้าวันที่หนูจะมาเข้าค่าย แม่ก็บอกหนูว่า ถ้าแม่เป็นแม่ที่ไม่ดี แม่ก็ขอโทษด้วยน่ะลูก แม่มันผิดเองที่เป็นแม่ที่ดีของลูกไม่ได้ หนูไม่พูดอะไร แล้วก็เดินออกจากบ้านไป แต่หนูแอบเห็นตาแม่แดง หนูก็คิดอยู่ในใจทำไมแม่ต้องพูดอย่างนั้นด้วย พูดทำไม ไม่เข้าใจ พอมาถึงที่วัดก็รู้สึกเฉยๆ เพราะบ้านของหนูส่วนมากจะเข้าวัดป่ากัน ไม่ค่อยไปทำบุญที่วัดบ้านเพราะพระชอบทะเลาะกัน วัดก็น่าอยู่ดี บรรยากาศดีเอามากๆ เลย พอเข้ามาในศาลาก็รู้สึกคิดถึงคำที่แม่พูดเมื่อตอนเช้า รู้สึกคิดถึงแม่มาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร มาอยู่ที่นี่ได้สองสามวัน รู้สึกเหนื่อยมากๆ อยากกลับบ้าน อยากกลับไปนอนในที่นอนนุ่มๆ แต่ก็ต้องทนอยู่ต่อไป พอวันที่ 4 ตอนบ่าย วิทยากรเล่าถึงเรื่องแม่ น้ำตาหนูไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ในสมองคิดถึงแต่คำพูดที่แม่พูด น้ำตาไหล มันไหลแบบหยุดไม่ได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าทำไมเราเลวอย่างนี้ แม่เป็นผู้ที่ให้กำเนิดเรามา แทนที่จะทำตัวดีๆ พูดกับท่านเพราะๆ ตอนนั้นหนูรู้สึกเสียใจมาก และรู้สึกขอบคุณ คุณครูที่พาหนูมาที่นี่ มาทำให้หนูตาสว่าง ทำให้เห็นพระคุณของแม่ แม่ผู้เลี้ยงดูหนูมา ผู้เป็นพระอรหันต์ในบ้าน ทำให้หนูอยากกลับบ้าน อยากกลับไปกอดแม่ อยากกลับไปขอโทษแม่
พอวันสุดท้าย ครูก็เปิดเทปเรื่องแม่ให้ฟังอีก น้ำสำนึกของหนูมันก็ไหลออกตาอีก ทำให้หนูเข้าใจ นึกถึงพระคุณแม่ แม่ผู้ที่คอยอุ้มท้องหนูมา มันทรมานแค่ไหน ตอนนอนจะพลิกกายก็ต้องคอยระวังว่าจะกระทบกระเทือนถึงลูกในท้องไหม สำหรับประสบการณ์ในครั้งนี้ ถึงมันจะเหนื่อยปวดขามากเพียงใด แต่มันก็มีคุณค่าสำหรับหนูมาก ลำดับสุดท้าย หนูก็ขอขอบคุณ คุณครูโรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม ที่นำพาพวกหนูมาที่นี้ วัดวะภูแก้ว เป็นที่ที่สอนให้คนเป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐ และหนูเองจะประพฤติปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา ไม่หลงใหลในเทคโนโลยีมากจนเกินไป และหนูขอสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของแม่ ของสังคม และประเทศชาติต่อไป
น.ส.สมัญญา เอการัมย์ ชั้น ม.5/3 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม วันที่ 9 ธันวาคม 2556
จิตสำนึกที่เกิดจากการภาวนาของเด็กศาสนาอื่น เมื่อตอนที่ดิฉันได้รู้ว่าจะต้องมาที่วัดวะภูแก้ว ดิฉันไม่อยากมาเลยค่ะเพราะว่าดิฉันไม่ได้นับถือพุทธ เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องสวดมนต์ไม่ได้เหมือนคนอื่น ก็ต้องนั่งเฉยๆ
แต่พอที่มาถึงวัดนี้น่ะค่ะ ดิฉันรู้สึกใจสั่นๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ตอนแรกที่เริ่มเข้าโครงการน่ะค่ะ ดิฉันว่าจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น จะนั่งเฉยๆ แต่พอตอนที่ได้ขึ้นไปที่อุทยานธรรม มันทำให้ดิฉันรู้สึกอยากอยู่ที่นี่ต่อมาก และรู้สึกดีมาก พอได้นั่งสมาธิยกแรกรู้สึกเมื่อยมาก และรู้สึกอยากกลับมาก ถึงแม้มี 2 ใจ คือ อยากอยู่และอยากกลับ อยากอยู่เพราะที่นี่เป็นวัดที่สงบ สะอาดน่าอยู่มาก และที่อยากกลับเพราะนั่งสมาธิมันเมื่อยมาก แต่พอได้นั่งสมาธิยกที่ 2 รู้สึกทำได้มากขึ้น เริ่มมีสติที่มั่นคงมากขึ้น พอได้นั่งยก 3 ดิฉันรู้สึกเริ่มทำได้ดีขึ้นแต่ไม่เคยได้แชมป์กับเขาเลย
พอมาถึงยกที่ 12 ฉันก็ได้แชมป์กับเขาด้วย รู้สึกดีใจมาก แรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันทำได้ก็เพราะดิฉันนึกถึงพ่อแม่ ฉันอยากทำเพื่อท่านบ้างเพราะฉันแทบไม่เคยทำอะไรเพื่อท่านเลยแม้กระทั่ง กวาดบ้าน ล้างจาน หุงข้าว ดิฉันไม่เคยที่จะทำเลย แต่พอได้มานั่งสมาธิในการอบรมในครั้งนี้ มันทำให้ดิฉันคิดได้มากขึ้นว่าเราเป็นลูก ทำไมเราถึงไม่เคยทำให้ท่านบ้าง ดิฉันเป็นลูกคนสุดท้อง เป็นลูกที่พ่อแม่ตามใจมาก อยากได้อะไรก็ต้องได้ค่ะ แทบว่าจะเป็นลูกเทวดาก็ว่าได้ค่ะ ดิฉันเป็นความหวังสุดท้ายของพ่อแม่ แต่ไม่เคยที่จะทำให้พ่อกับแม่ได้พอใจในตัวดิฉันเลยค่ะ นั่งสมาธิฉันก็เห็นแต่ภาพพ่อกับแม่ร้องไห้ มันทำให้ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกที่เลวมากเลย พ่อกับแม่อาจจะเป็นแรงบันดาลใจต่อไปให้ดิฉันได้มากขึ้นเลย ต้องขอบคุณอาจารย์มากที่ได้มาวัดวะภูแก้วในครั้งนี้ มันสามารถช่วยให้เด็กที่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกพ่อแม่เลย สามารถรับรู้ความรู้สึกของพ่อแม่ได้มาก (รักและเคารพพ่อแม่เสมอค่ะ)
น.ส.มุฑิตา อาภรณ์รัมย์ ชั้น ม.5/4 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม วันที่ 9 ธันวาคม 2556 ทำไมหนูอยากกลับบ้าน ในตอนแรกที่อาจารย์บอกว่า จะจัดให้นักเรียนชั้น ม.5 มาพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้ว ก็รู้สึกอยากมาโดยทันที อยากมาสงบสติอารมณ์เพราะในช่วงนั้น จิตใจหนูมันวุ่นวาย มันทำทุกอย่างแบบไม่มีระบบระเบียบ อาจเป็นเพราะปัญหาหลายๆ อย่างที่เข้ามาอย่างมากมาย มันทำให้หนูไม่มีสติ ฟุ้งซ่าน แต่เมื่อหนูมาถึงที่วัด หนูตื่นเต้นมากเลยนะค่ะเพราะบรรยากาศที่นี่สงบมาก วันแรกที่มาถึงก็นั่งสมาธิ สวดมนต์ ในตอนนั้นหนูรู้สึกเบื่อมาก รู้สึกปวดขา ปวดไหล่ รู้สึกหงุดหงิดอยากออกไปข้างนอก อยากกลับบ้าน คิดถึงการบ้านที่ทำค้างไว้ที่บ้านเพราะมันยังไม่เสร็จ อยากกลับไปทำให้เสร็จ
ในวันที่สอง หนูก็ยิ่งอยากกลับบ้าน คิดถึงผ้าห่มที่บ้านเพราะที่นี่หนาวมาก แต่หนูก็รู้สึกชอบเวลาที่ท่านอาจารย์ดาราวรรณสอนวิธีเรียนเก่ง หนูคิดว่าทุกๆ คนก็รู้วิธีการเรียนเพื่อที่จะให้เก่ง ที่จริงทุกคนก็ทำได้ มันอยู่ที่เราไม่ทำมันต่างหาก หนูรู้จุดอ่อนของตัวเองนะค่ะ หนูเป็นคนขี้เกียจทบทวนบทเรียนมาก ผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวค่อยอ่าน เดี๋ยวนอนก่อน เป็นคำที่หนูรู้สึกเจ็บใจมากเลยค่ะ แต่ก็เลิกไม่ได้สักที พอหนูนั่งสมาธิ หนูก็แพ้ใจตัวเอง ไม่อยากนั่ง ง่วงนอน หิวข้าว ต่างๆ นานา
ในวันที่สาม หนูรู้สึกชอบการสวดมนต์ หนูว่ามันเป็นการฝึกความอดทนให้หนูได้มากเลยทีเดียวค่ะ มันทำให้หนูอยากเอาชนะตัวเอง ได้อยู่กับตัวเองรู้สึกถึงสิ่งที่ผ่านมา ตัวเองทำอะไรไว้บ้าง
ในวันที่สี่ หนูชอบการเดินจงกรมมากนะค่ะเพราะมันทำให้หนูมีสมาธิ มีสติ หนูได้ฟังการบรรยายธรรมเรื่องแม่ หนูชอบมากค่ะ มันทำให้หนูระลึกถึงพระคุณของท่าน พระคุณของท่านมันมากมายจริงๆ หนูเคยโกรธแม่มากนะค่ะ อันที่จริงเรื่องที่หนูโกรธมันไม่ได้เกิดจากท่านหรอกค่ะ มันเกิดจากตัวหนูเอง มันทำให้หนูคิดได้ มันทำให้หนูรู้สึกผิด อยากขอโทษท่าน
ส่วนวันสุดท้ายนี้ หนูอยากกลับบ้านมากเลย ไม่ใช่เพราะอยู่ที่วัดไม่มีความสุขนะค่ะ แต่ละวันทำให้หนูเหมือนมีคุณค่ามากขึ้นค่ะ มีความเป็นคน มีความเป็นมนุษย์จริงๆ แต่ที่หนูอยากกลับ หนูอยากกลับไปเป็นหลานที่ดีของตา ของยาย อยากเป็นพี่ที่ดีของน้อง อยากเป็นนักเรียนที่ดีของครูอาจารย์ และที่สำคัญหนูอยากเป็นลูกที่ดีของแม่ค่ะ
น.ส.ประภัสสร ไทยารัมย์ ชั้น ม.5/1 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม วันที่ 9 ธันวาคม 2556
|
Last Updated on Tuesday, 14 January 2014 02:22 |