Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ผู้ต้องขังเปิดใจ (ประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของผู้ต้องขัง)
ผู้ต้องขังเปิดใจ (ประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของผู้ต้องขัง)
Friday, 11 January 2013 03:40

 

โครงการเรือนจำ เรือนธรรม

 


ขอบคุณเพื่อนรักที่ชักนำเข้าคุก

           ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรม เขาพริก ที่ทำให้มีการอบรมดีๆ แบบนี้เกิดขึ้น

           ขอบคุณพระอาจารย์และคณะวิทยากรทุกท่านที่สอนให้ผมทราบถึงบาปบุญคุณโทษ และบาปที่ไม่สามารถลบล้างได้   แต่ทำให้เจือจางลงได้

           และที่ขาดไม่ได้คือต้องขอบคุณเพื่อนรักของผม "นัย"  ซึ่งเป็นตัวเอกของผม เพราะเขาเป็นคนนำตำรวจมาจับผมถึงห้อง   ทำให้ผมแค้นเขามาก  ผมตั้งใจไว้ว่า  พ้นโทษออกไป  ผมจะทำให้เขาเดินไม่ได้ จะได้ไม่สามารถพาตำรวจไปจับคนอื่นอีก   ผมตั้งใจว่า เวลาที่อยู่ที่นี่หลายปี ผมจะมาทำธุรกิจการค้าของผมต่อในนี้ (ค้ายาเสพติด)

 

          แต่ตอนนี้ผมหายแค้นเพื่อนของผมแล้ว   และต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ผมได้มีโอกาสร่วมปฏิบัติธรรมในโครงการนี้ เพราะถ้าผมยังอยู่ข้างนอก ผมคงไม่มีโอกาสดีๆ  อย่างนี้  และทำให้ผมเปลี่ยนความคิดที่จะทำสิ่งผิดกฎหมายในนี้  เพราะผมรู้แล้วว่า มันคือกิเลส ซึ่งจะทำให้ผมกลับออกไปอยู่กับครอบครัวที่รักที่รอผมอยู่ช้าขึ้น

 

          การมาอบรมครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าในเรือนจำมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี  อยู่ที่เราจะเลือกเอาทางไหน

 น.ช. เป้ย


 

บุญใหญ่ในเรือนจำ

           มันเป็นความรู้สึกของจิตเราว่า การปฏิบัติธรรมครั้งนี้รู้สึกว่าจะได้บุญมากกว่าทุกครั้งที่เคยปฏิบัติมา

           ผมเคยบวชพระมา๒ ครั้งแล้ว

           ครั้งแรก บวชให้พ่อให้แม่ ๙ วัน

          ครั้งที่ ๒ บวชนาคหมู่ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งบวชแก้บนที่ได้ประกันตัว   บวชอยู่ ๑๕ วัน

           บวช ๒ ครั้งที่ผ่านมา ทำผิดศีลทุกครั้งเลย เพราะถือว่าปลงอาบัติได้  ก็เลยไม่ระวังจิต ไม่สำรวมกายเท่าที่ควร

         แต่การปฏิบัติธรรมในเรือนจำครั้งนี้ถือศีล ๘  ผมตั้งใจปฏิบัติสมาธิภาวนาเต็มที่  เกิดมาก็เพิ่งจะเคยนั่งสมาธินานๆ ครั้งนี้แหละครับ  เวลาจิตมันนิ่ง จะรู้สึกตัวเบา วูบๆ วาบๆ เหมือนมีไฟฟ้าสถิตที่ตัวเรา บางทีก็ขนลุกไปทั้งตัวเลย  ขนาดตอนผมบวชพระ   ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้เลย

          พระพุทธเจ้าตรัสว่า การทำสมาธิภาวนาเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบุญใหญ่อยู่ในคุก

          ขอขอบคุณตำรวจที่จับผม ทำให้ผมได้พบธรรม ได้บุญใหญ่ในเรือนจำ

 น.ช. OK Tree Door

  


ในเรื่องร้ายๆ ยังมีสิ่งที่ดีๆ

           ในอดีต ผมใช้ชีวิตที่ห่างไกลจากคำว่า "ศีลธรรม"  มากใช้ชีวิตอย่างประมาท  หลงใน รูป รส กลิ่น เสียง  โลภในเงินทองและวัตถุจนยอมทำเรื่องผิดกฎหมายคือการขายยาบ้า   ในที่สุดผมก็โดนจับ   ต้องรับโทษในคดียาเสพติด

          ตอนอยู่ในคุก ผมมีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะหลายเล่มจนเริ่มสนใจธรรมะ แต่ยังไม่มีโอากาสได้ปฏิบัติธรรม   แต่ก็ได้สวดมนต์และนั่งสมาธิบ้าง

          วันหนึ่ง มีประกาศในแดนที่คุมขังของผมว่า มีโครงการ "เรือนจำ-เรือนธรรม"  ผมคิดว่าเป็นโครงการที่ดีจึงสมัครมา ซึ่งก็เป็นโครงการที่ดีจริงๆ ทำให้ผมเข้าใจพุทธศาสนามากขึ้น รู้จักคำว่า บาปบุญ คุณโทษ รู้จักการให้อภัยและอโหสิกรรม

 

         ตอนแรกผมคิดว่าผมโชคร้ายที่ถูกจับ ต้องติดคุก  แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าเป็นผลกรรม แต่ ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี  คือได้พบพระธรรมในคุกนี้  โชคดีที่มีโครงการดีๆ  อย่างนี้  และโชคดีที่ได้พบกับคนดีๆ ที่เสียสละเวลามาอบรมพวกผมให้รู้จักธรรมะ  ทำให้คนบาปอย่างผมได้กลายเป็นคนบุญกับเขาบ้าง

 น.ช. พิพัฒน์พงษ์

 

กลัวบาป กลัวนรก

           ก้าวแรกที่เข้ามาอบรมในโครงการ "เรือนจำ-เรือนธรรม"  ผมคิดว่าทำไมต้องเป็นผมด้วย เพราะผมยังเป็นวัยรุ่น ไม่สนใจธรรมะและพุทธศาสนาสักเท่าไร  แต่พอเริ่มการอบรม  วิทยากรมาบรรยายให้ความรู้  ผมฟังไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าได้ความรู้และคลายข้อสงสัยหลายๆ เรื่อง  หนังสือทุกเล่มที่ผมได้อ่าน มันเพลิน อ่านแล้วทำให้ผมเชื่อว่าบาปกรรมมีจริงๆ    มีการเวียนว่ายตายเกิดจริง

          ผมนับถือศาสนาพุทธ  แต่ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาอย่างลึกซึ้งขนาดนี้  พระพุทธศาสนามีเหตุผล สามารถพิสูจน์ได้ จนทำให้ผมละอายต่อบาป ไม่กล้าทำบาป กลัวตกนรก

 

           การสวดมนต์ เดินจงกรม ทำสมาธิ ทำให้ผมเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง  จะทำอะไรก็ต้องตั้งสติ ใจเย็นขึ้น และ เอาชนะใจตัวเองได้

 น.ช. สาม

 

 

เมื่อ "แพะ" หายแค้น

           ผมดีใจมากที่มีชื่ออยู่ในโครงการทำให้ผมได้ผ่อนคลาย ความคิดที่ยังอยู่ในจิตใจผมคือความแค้นผมเป็นคนหนึ่งที่ติดคุกโดยไม่ได้ทำความผิด หรือ แพะ นั่นเอง    ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโชคร้าย  เรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่ได้เป็นคนทำ   โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมเลย  ผมโกรธตัวเอง โกรธคนรอบข้าง ที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ในนี้  ผมสูญเสียเงินทอง เสียเวลา เสียอิสรภาพ

           การเข้าร่วมโครงการนี้ทำให้ผมสบายใจขึ้น ทำให้ผมได้ละวางความโกรธ ความแค้น ที่เคยมีในใจผม  ผมจะอโหสิให้พวกเขา

 น.ช. นิรนาม

  


ศาสนาพุทธมีดีกว่าที่คิด

           ก่อนที่ผมจะโดนจับนั้น ผมมีอาชีพขับรถ แต่มาผิดพลาดไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะหลงระเริงว่ามันหาเงินได้ง่าย  ได้เงินมากโดยไม่ต้องเหนื่อย  คนในครอบครัวเตือนก็ไม่เชื่อ  พอเริ่มรู้ตัวก็สายเสียแล้วเมื่อโดนจับกุม ผมรู้สึกเสียใจมาก เพราะทำให้คนที่รักเราต้องร้องไห้และเสียใจ   ถ้าเราเชื่อเขาก็คงไม่ต้องมารับผลกรรมอย่างนี้    ผมขอบอกทุกคนว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับมันเลย    ไม่อยากให้ใครหลงผิดอย่างผม มันไม่มีอะไรดีเลยที่ต้องมาชดใช้กรรมในนี้

 

          ผมไม่ผิดหวังเลยที่สมัครเข้าโครงการนี้    การที่ได้มาทำบุญครั้งนี้ได้อะไรหลายอย่างที่มีค่ามากๆ ทำให้เรารู้สึกดีและมีสติมากขึ้น  ได้คิดอะไรหลายอย่าง  ได้มีโอกาสตอบแทนคุณพ่อแม่  ผมจะรักษาศีล ๕ ให้ได้ จะทำบุญทำทาน บำเพ็ญภาวนา  จะบอกคนที่เรารักให้เข้าใจในหลักการทำบุญ

 

          ผมจะส่งเสริมศาสนาพุทธให้อยู่กับประเทศไทยตลอดไป อยากให้คนไทยทั้งประเทศรู้จักศาสนาพุทธให้มากกว่านี้   ถ้าคุณได้ฟังธรรมอย่างผมแล้ว    จะสำนึกได้ว่าศาสนาพุทธของเรามีดีกว่าที่คุณคิดมากครับ

 น.ช. นิรนาม

 


 

พบแล้ว...หนทางที่ตามหา

          ผมเป็นคนไม่ดีเลย มาเจอพวกพี่ในวันนี้ทำให้ผมกลัวบาป  ผมเป็นคนทำอะไรไม่เคยสำเร็จเลยในชีวิต    เพราะผมไม่มีสติ ไม่มีสมาธิ

 

      วันนี้   ผมเห็นแล้วว่าคำสอนของพระพุทธองค์เป็นทางที่ผมตามหา    ชาตินี้ผมไม่เสียใจเลยที่ได้รู้จักพระพุทธเจ้า รู้จักคำสอนของพระองค์   ออกจากที่นี่ไปผมจะเดินตามคำสอนของพระพุทธองค์  คำสอนของพระองค์นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

 

          ถ้าใครเคยหลงผิดอย่างผม ขอให้เลิกทำ  ถ้าเรารักษาศีล ๕ ได้ ชีวิตของเราก็จะมีความสุข

 น.ช. นิพนธ์

  


เวรกรรมมีจริง

          ชีวิตวัยเด็กของผมมีความสุขสบายเพียบพร้อมทุกอย่าง ด้วยสองมือและหยาดเหงื่อของพ่อกับแม่ ใครจะเชื่อว่าผมเคยเป็นเด็กเรียนดี  เป็นตัวแทนประกวดมารยาท ไปทำบุญกับแม่บ่อยมาก   ไม่พลาดแม้กระทั่งงานพระศพสมเด็จย่าฯ

           พอผมอายุ ๑๕ ปีก็เริ่มลองเสพยา หัดขโมยของตามห้าง จนถูกพักการเรียน  พออายุ ๑๗ ปีก็กลับมาเสพยา ขายยา แข่งรถ มีเรื่องทะเลาะวิวาท จนผมถูกไล่ออกจากโรงเรียน

 

           แม่ของผมมีโรคประจำตัวคือไมเกรน  ต่อมาแม่ก็ฆ่าตัวตาย  มีแต่คนพูดว่าผมเป็นคนทำให้แม่ตาย

          อายุ ๑๘ ปี ผมหนีออกจากบ้าน    ขายยามาตลอด   ใครไม่จ่ายก็เตะบ้าง กระทืบบ้าง ไม่พอใจก็ใช้กำลังทำร้ายคนอื่น บางคนยกมือไหว้ผม    ผมก็ไม่เคยหยุด ไม่เคยยอม

 

          ปี ๕๐ ผมถูกจับคดียาบ้า    พอประกันตัวไปก็โดนคดีชิงทรัพย์อีก   ตั้งแต่มาอยู่ในคุก มีผู้ใหญ่หลายคนคอยสอน และผมก็มีเวลาคิดทบทวนเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา  ทุกวันนี้ผมรู้แล้วว่ามันเป็นกรรมที่ผมเคยก่อเอาไว้     พ้นโทษแล้วก็คงจะไม่ก่อกรรมกับใครอีกแล้วครับ

           ขอบคุณครับ  ๕ วันนี้ผมสบายใจขึ้นครับ

 น.ช. วิทวัส

  


บุญในเรือนจำทำเพื่่อแม่

          เมื่อทางเรือนจำประกาศรับสมัครผู้ต้องขังเข้าโครงการ "เรือนจำ-เรือนธรรม" ผมยังไม่สนใจเพราะคิดว่าอยู่ในนี้จะทำอะไรได้ บุญในคุกทำไปก็ไม่ได้บุญอะไรหรอก   แต่พอทราบว่าเป็นโครงการทำดีถวายแม่ของแผ่นดิน คำว่า "แม่"  มันเข้าไปในส่วนลึกของใจลูก  อยากทำความดีเพื่อแม่ที่กำลังป่วย   ตัดสินใจลงชื่อสมัครมาด้วยความรักและห่วงใยแม่ผมที่ป่วยอยู่ตั้งใจจะเอาบุญในเรือนจำให้แม่เพื่อแม่จะได้หายจากโรคที่ป่วยอยู่    รักแม่    อยากให้แม่หายป่วยเร็ววันเร็วคืน

 

         โครงการนี้จัดในเรือนจำซึ่งเป็นสถานที่ที่คนภายนอกมองว่าเป็นที่อยู่ของคนไม่ดีทำผิดกฎหมายบ้านเมือง   ก็เลยจะพลิกวิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส   จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดเพื่อแม่ ในโอกาสวันแม่

 

          วันนี้ก็เป็นวันสิ้นสุดของโครงการนี้แล้ว ขอบอกเลยว่า  ที่สุดของชีวิตที่ได้มาเรียนรู้และปฏิบัติธรรม ทำให้พวกผมมีกำลังใจที่จะออกจากที่นี่ไปเป็นคนดี มีศีล มีธรรม นำธรรมะ ไปประกอบสัมมาอาชีพ

 ผู้หลงผิด

  


ยาวิเศษ

          เรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อ ผมมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก หูอื้อ แน่นจมูก เป็นเรื้อรังมานาน ๔ เดือนแล้ว   ไปตรวจรักษากับหมอได้ยามารับประทานแต่ก็ไม่หายขาด    แต่พอมาเจริญสมาธิภาวนา ได้รับคำแนะนำและปฏิบัติอย่างถูกวิธี แค่ ๓ วัน อาการที่เป็นอยู่ก็หายอย่างไม่น่าเชื่อ   ไม่เจ็บหน้าอก  ไม่แน่น   หูไม่อื้อ  โล่งจมูก  หายใจสะดวก  จิตใจก็ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนได้หมอเทวดามารักษา  ได้ทั้งบุญกุศล โรคภัยไข้เจ็บก็หาย    ขอบคุณคณะวิทยากรที่นำยาวิเศษมาให้ผม แล้วผมจะแนะนำสิ่งดีๆ แบบนี้ให้คนอื่นเป็นธรรมทาน

 น.ช. วิทยา

 

ผมจะไม่เป็นโมฆบุรุษ

         ผมเคยเป็นเด็กวัด โตมากับข้าวก้นบาตร แต่ก็ไม่ยอมบวชให้พ่อแม่สักที ทั้งๆ ที่ท่านถามผมตั้งไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง ว่าเมื่อไรจะบวชให้แม่  เพิ่งมาบวชเมื่อปี ๕๒ นี่เอง บวชแค่สิบกว่าวันก็สึกออกมาทำงานเลี้ยงครอบครัวต่อ  ไม่ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมเหมือนตอนเข้าโครงการ  "เรือนจำ-เรือนธรรม"   เลย  ผมจึงเสียดายมากที่ผมเสียเวลากับกิเลสตัณหาต่างๆ เพราะไม่เคยเข้าถึงธรรมะแบบเต็มที่ ถ้าผมได้มีโอกาสปฏิบัติและเข้าถึงธรรมแบบนี้  ชีวิตของผมคงไม่ต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำ

        เมื่อได้มาปฏิบัติธรรม  ผมจึงคิดได้ว่าผมเดินทางผิดมาแล้ว และจะปฏิบัติตัวเองให้เต็มที่กับเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากแล้ว

         ผมเป็นพุทธโดยกำเนิด แต่ไม่รู้จักว่า พุทธ คืออะไร เพิ่งมาแจ้งสว่างตอนเข้าอบรมโครงการนี้ดร.ดาราวรรณ ท่านมาเข้าศาสนาพุทธทีหลังผม   แต่ท่านต้องมาสอนให้ผมรู้จักคำว่า    พุทธ คืออะไร ธรรมะของพระศาสดามีอะไรบ้าง

         เมื่อได้รับการอบรมแล้ว ถ้าผมไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ ผมก็คงเป็นแค่โมฆบุรุษ ต่อไปนี้ทุกย่างก้าวผมจะเดินแบบมีสติสัมปชัญญะ    ชีวิตจึงจะไม่ผิดพลาด

          ขอบคุณคณะวิทยากรที่ทำให้ผมเหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่อีกครั้ง

 น.ช. ชานนท์

 

สมัครมาเล่นๆ กลับได้ของจริง

           ผมสมัครเข้าโครงการนี้กะว่าจะออกมาเดินเล่นนอกแดนเท่านั้นเอง  แต่พอผมได้รับฟังการอบรมของ ดร.ดาราวรรณ   ผมไม่รู้นะครับว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร   ส่วนตัวผมรู้สึกปลื้มปีติจนน้ำตาคลอเบ้า  ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม มันทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป จากที่คิดว่าจะออกมาปฏิบัติแบบเรื่อยๆ   ก็กลายเป็นจริงจัง ผมถือศีล ๘ อย่างเคร่งครัด ทำภาวนาอย่างตั้งใจ

 

          การเข้าร่วมโครงการนี้ทำให้ย้อนคิดว่า   ถ้าผมไม่โดนจับ ไม่ติดคุก ผมก็คงทำตัวเละเทะ เสเพลอยู่ข้างนอกไปวันๆ  คงทำให้ผมทรมานใจแน่ๆ  แต่พอผมโดนจับ   ทำให้ผมคิดกลับตัวกลับใจ  ยิ่งพอผมได้เข้ามาอบรมโครงการนี้   ผมรู้สึกว่าโชคดีมากๆ   ทำให้ผมมีสิ่งยึดเหนี่ยวในใจมากขึ้น

 

 น.ช. โสภณ

  


ในเรือนจำ พบธรรมในใจ

           ผมไม่คิดเหมือนกันว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้มาปฏิบัติธรรมแบบนี้ ทำให้ผมได้คิดว่า ถ้าผมไม่ได้เข้ามาอยู่ในนี้ คงไม่ได้รู้จักคำว่า  "ธรรมะในใจ"  เพราะตอนที่ผมอยู่ข้างนอกนั้น ผมมีโอกาสทำบุญทำอะไรได้หลายอย่าง   แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะหาบุญใส่ตัว   วันๆ ทำแต่บาปกรรม ไม่เคยคิดถึงพระคุณพ่อแม่

          แต่พอได้มาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ทำให้จิตใจผมสงบขึ้นจริงๆ ครับ   ทำให้ผมคิดอยากจะทดแทนพระคุณพ่อแม่    ทำให้ได้คิดทบทวนอดีตที่ผ่านมาและหาแนวทางแก้ไขชีวิตของตัวเอง

 

          ตอนแรกก็กังวลมากครับ คิดว่าคนอย่างผมจะปฏิบัติธรรมได้หรือ   แต่พอได้ปฏิบัติแล้วมันก็ไม่ยากอย่างที่คิด     ขอแต่เรามีความตั้งใจจริง    มันทำได้หมดแหละครับ

 น.ช. วิรัตน์


 

 

รอยด่างรอยเดียวเยียวยาได้

           การถูกกักขังไม่สามารถปิดกั้นการทำความดีได้ เพราะใจเป็นอิสระ รู้สึกผิดชอบชั่วดีได้เสมอ  ในฐานะผู้ต้องราชทัณฑ์คนหนึ่ง  แม้จะถูกกักขังไม่ให้มีอิสรภาพ   แต่ก็รักที่จะปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า    สร้างความดีให้ตัวเอง

 

           ผมเคยผิดพลาดไป แต่มันเป็นรอยด่างรอยเดียวในชีวิตผม ผมจะไม่มีวันหันไปทำผิดอีกครั้ง  การปฏิบัติธรรมเหมือนสีขาวที่ทับรอยด่างรอยนั้นลงไป   ผมจะอดทน ต่อสู้ จะหมั่นปฏิบัติธรรม ภาวนาต่อไป

 น.ช. นรินทร์



Last Updated on Saturday, 12 January 2013 01:16
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner