Home เรื่องเล่าตอนเข้าค่าย ประสบการณ์ เด็กนักเรียน ร.ร.ภัทรบพิตร และ ร.ร.บัวหลวงวิทยาคม จ.บุรีรัมย์ ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 7 - 11 ธันวาคม 2555
ประสบการณ์ เด็กนักเรียน ร.ร.ภัทรบพิตร และ ร.ร.บัวหลวงวิทยาคม จ.บุรีรัมย์ ที่เข้าค่ายอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ระหว่างวันที่ 7 - 11 ธันวาคม 2555
Wednesday, 19 December 2012 07:30

 

 

ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ  วัดวะภูแก้ว

 

 

ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้


           ฉันเฉย ๆ เมื่อรู้ว่าต้องมาอบรมที่วัด   เพราะดิฉันไม่ได้เข้าวัดอย่างนี้มานานแล้ว   ดิฉันชอบการบรรยายแต่ละหัวข้อมากค่ะ    เหมือนย่อจากหนังสือและจากประสบการณ์จริงให้เราฟัง และก็ชอบเรื่องเล่าที่อาจารย์เล่าให้ฟังมากมาย   วัดวะภูแก้วเป็นวัดแรกที่ให้อ่านหนังสือหลายเรื่อง แต่ละเรื่องสนุกมากค่ะ   และเรื่องที่ดิฉันชอบคือ  “เด็กหญิงของเรา”  เพราะเป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวของสังคมในปัจจุบัน    และมีแง่คิดว่าการที่เราทำแท้งเป็นสิ่งที่ไม่ดี    แต่ไม่ใช่ความผิดของขจรคนเดียวแต่เป็นความผิดของใครในหลายฝ่าย   เป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ   และสิ่งที่ได้อีกก็คือ ได้คำคมจากการบรรยายหลายคำคมเช่น  “แต่ไหนแต่ไรในโลกนี้   เวรไม่เคยระงับด้วยการจองเวร   เวรย่อมระงับด้วยการจองเวร”   ดิฉันคิดว่าการมาวัดวะภูแก้วในครั้งนี้คงทำให้ใครหลายคนเปลี่ยนความคิด   เพราะสิ่งที่ดิฉันได้รับดิฉันว่าได้พัฒนาจิตของดิฉันมาก   และทำให้ดิฉันได้รู้อะไรหลายอย่างในสิ่งที่ไม่รู้   เช่น  นรก  สวรรค์  และเรื่องราวของผู้หญิงที่เป็นโรคหอบหืดที่ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต  เขาได้บันทึกคำคมไว้ว่า  “เกิดมาทั้งทีเอาดีให้ได้   จะตายทั้งทีฝากดีเอาไว้”   ดิฉันคิดว่าอาจจะเป็นกำลังใจให้ใครหลายคน    ดิฉันคิดว่าการมาในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อดิฉันอย่างมาก


น.ส.วิชุฎา  กอนรัมย์  ชั้น ม.5/1
โรงเรียนภัทรบพิตร      จ.บุรีรัมย์
เขียนไว้ ณ วันที่  11  ธันวาคม  2555

  


 

คุ้มแล้วที่ชนะใจตัวเองได้


           “ไม่อยากมาเลย”  เป็นคำที่นึกออกคำแรกหลังจากที่รู้ว่าจะมา มันเหนื่อย  มันเมื่อย  มันท้อใจ   เพราะเคยเข้าอบรมที่วัดอื่นมาก่อน  เลยรู้ว่ามันหนักขนาดไหน  สุดท้ายก็ต้องมา    ผมเป็นคนไม่ค่อยเข้าวัดหรือปฏิบัติธรรม  เลยคิดมากว่าจะทำได้หรือเปล่า  จะไหวไหม   เป็นอย่างที่คิดครั้งแรกก็ท้อเลยแหละ    แต่ก็มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่องเหมือนกัน  เลยฝืนทำจนสำเร็จทุกครั้ง   และที่สนใจมากก็คือ  การทำสมาธิให้จิตสงบ   รู้สึกว่าถ้าทำได้แล้วจะสบาย   ไม่รู้สึกเจ็บและเมื่อย   อยากเห็นแสงของจิตที่เขาพูดถึงกันว่ามันจะสีอะไร

  


           พยายามอยู่หลายยกก็ไม่ได้สักที   จนวันที่สอง หมดความอยาก  ไม่อยากทำแล้ว  รู้สึกท้อ  นั่งหลับตาเล่นๆ ไป    แต่ทว่าสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น   รู้สึกตัวเบา  ไม่มีแขน  ไม่มีขา  ตัวสูงขึ้น   รู้สึกสบายที่สุดในชีวิตที่เคยทำสมาธิ    จึงตั้งใจทำทุกครั้งที่นั่งเพราะอยากเห็นอีก   แต่ก็ไม่เห็นอีกเลย    จนคืนวันที่ 4  ปวดเมื่อยมากถึงที่สุดทรมานมาก    แต่ครั้งนี้ผมปฏิญาณกับตัวเองว่า  ถ้าขยับและลืมตา พ่อแม่จะไม่ได้บุญกุศล   ผมจะสอบตกและเรียนไม่เก่ง   ผมจึงฝืนทำจนหมดเวลาอย่างตั้งใจ   ไม่เห็นอะไรเลย   แต่กลับรู้สึกดีมาก  “เพราะสิ่งที่ผมได้จากที่นี่คือ การชนะใจตนเอง”   ถึงจิตจะไม่ดีมากเหมือนคนอื่นแต่ผมชนะใจตนเองได้  ก็นับว่าคุ้มแล้ว

 

นายพงษ์เทพ  เจริญรัมย์  ชั้น ม.5/4
โรงเรียนภัทรบพิตร      จ.บุรีรัมย์
เขียนไว้ ณ วันที่  11  ธันวาคม  2555

  


รู้ไหม  ทำไมหนูไม่อยากกลับบ้าน


          ...วันสุดท้ายหนูร้องไห้จนแทบจะไม่มีน้ำตา   จากที่ได้ดูได้ฟังบรรยายเรื่องแม่   หนูรักแม่มากขึ้นทันที  จนมาถึงวินาทีนี้  เวลาที่กำลังจะมาถึงแต่ไม่อยากให้มาถึง   คือวันที่จะกลับ   หนูอยากบอกว่าหนูยังไม่อยากกลับ    เพราะอะไรรู้ไหม  “อยู่วัด  เหนื่อย  ง่วงนอน” ก็จริง   แต่ทำให้หนูได้รู้อะไรหลายๆ อย่าง   ทำให้หนูคิดได้

  


          แต่ก่อนตั้งแต่เล็กจนโต หนูไม่เคยอยู่กับแม่    หนูอยู่กับยายมาตลอด    แม่มีพ่อใหม่  มีน้องใหม่   จนทำให้หนูรู้สึกว่า  หนูก็แค่เด็กคนหนึ่ง  แต่พอยายของหนูได้จากไป   หนูไม่มีใคร  หนูรู้สึกเคว้งคว้าง  อยากไปอยู่กับยาย   จนวันหนึ่งหนูได้มาอยู่กับแม่   หนูเฉย ๆ เหมือนได้อยู่กับคนรู้จักเท่านั้นเอง  หนูอยากทำอะไรก็ทำ   ไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนอื่นเลย

 

          จนมาถึง ณ บัดนี้  หนูจึงได้รู้สึก   รู้จัก  กับคำว่า “แม่”  ขอบพระคุณอย่างสูง  วัดวะภูแก้ว   ที่ทำให้หนูสำนึกได้   ทำให้หนูได้รู้ผิดชอบชั่วดี   และต่อจากนี้สัญญาว่า หนูจะเป็นเด็กดี  จะเป็นคนดีของพ่อแม่  คุณครู  และสังคม...

น.ส.มุกดาวัลย์  จิตรติภิญโญ    ชั้น ม.5/1
โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม   จ.บุรีรัมย์
เขียนไว้ ณ วันที่  10  ธันวาคม  2555

  

 

ฉันคนหนึ่งที่ไม่ดี ได้กลับใจ


           ตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันอยู่กับพ่อได้ไม่นาน   พ่อก็ไปทำงานที่อื่น   ฉันต้องอยู่กับแม่สองคน   จนคิดว่าตัวเองมีแม่คนเดียวด้วยซ้ำไป   ไม่เคยที่จะอยู่พร้อมหน้ากัน   แต่วันที่จะกลับ  ฉันได้ความรู้ดี ๆ ว่า  แม่คือคนที่รักเรามากที่สุด   ท่านยอมเหนื่อยเพื่อเรา   แต่เราทำอะไรดีๆ ให้ท่านภูมิใจบ้าง  และที่วัดวะภูแก้วก็ทำให้คนที่ไม่มีอะไรดีอย่างฉันสำนึกได้  และมีสมาธิมากขึ้น จากที่นั่งไม่ได้   จนฉันได้สติ สมาธิมากขึ้น

  


           ถ้าฉันได้กลับมาที่นี่อีก   ฉันจะปฏิบัติธรรมให้ดีกว่านี้   และกลับบ้านไป   ฉันจะกลับไปกราบเท้าผู้มีพระคุณและบอกรักท่าน   ทำให้ท่านภูมิใจ   ถ้าไม่มีท่านฉันก็คงจะไม่ได้มาที่วัดวะภูแก้วนี้ได้

            ฉันภูมิใจที่ได้มา ณ ที่นี้              ที่สอนคนไม่ดี ให้ดีได้
            ฉันคนหนึ่งที่ไม่ดี  ได้กลับใจ       เพราะคำสอนที่ท่านให้ได้ปรับตัว
            จะทำดีให้ได้ดีอย่างที่หวัง           สมดังคำที่ท่านได้บอกไว้
            เกิดมาทั้งทีต้องทำดีให้ได้           เวลาตายจะเหลือไว้ซึ่งความดี


 
น.ส.ศิรินภา  ทองดี  ชั้น ม.5/1
โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม   จ.บุรีรัมย์
เขียนไว้ ณ วันที่  11  ธันวาคม  2555



Last Updated on Saturday, 19 January 2013 01:07
 

ค้นหา (พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา แล้วกดปุ่ม Enter)

ร้านจักรวาลอ๊อกซิเย่น

Banner

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

Banner

เข้า Facebook ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดวะภูแก้ว

Banner

แห่เทียนพรรษา 2558

Banner

ฐานิยปูชา 2556

Banner

www.thaniyo.net

Banner

ฐานิยปูชา 2555

Banner

เชิญชม วิดีโอ การแสดงธรรมของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

วัดป่าสาลวัน

Banner

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Banner

palungdham.com

Banner

ฐานิยปูชา 2553

Banner

สำรวจความคิดเห็น

เหตุผล สำคัญที่สุด ในการเข้ารับการอบรมพัฒนาจิต ที่วัดวะภูแก้ว ?
 

แบบสำรวจความคิดเห็น

วัดวะภูแก้วควรปรับปรุงเรื่องใดมากที่สุด
 

แบบสำรวจ

พระสงฆ์ในทัศนะของท่าน ?
 

โปรดแสดงความคิดเห็นของท่านได้ที่สมุดเยี่ยม

Banner