หลวงพ่อพุธ ฐานิโย อดีตเจ้าอาวาส วัดป่าสาลวัน ผู้สร้างวัดวะภูแก้ว ชาตะ 8 กุมภาพันธ์ 2464 มรณภาพ 15 พฤษภาคม 2542 พระอรหันต์มีจริง ตายแล้วไม่สูญ
ปาฏิหาริย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เหตุเกิด ณ โคราช ปาฏิหาริย์มีจริง (จากประสบการณ์เรื่องจริงของตนเองครับ เกี่ยวกับธรรมะ) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ขณะที่ผมขับรถยนต์ กลับบ้าน เมื่อเวลา ประมาณ 2 ทุ่ม ผ่านห้างแม็คโคร ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และจอดรถรอไฟแดงอยู่ที่ 4 แยกโรงแรมพีกาซัส ผมจอดชิดขวาเพื่อที่จะยูเทิร์น จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ ( ช่างเบียร์ โทร. 081-7757039) เขาบอกผมว่า รถผมจอดอยู่คันที่ 6 คันข้างหน้ารถผมเป็นรถฟอร์ด
เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น เมื่อมีรถสิบล้อ บรรทุกหินยี่ห้ออีซูซุ ป้ายทะเบียน จ.บุรีรัมย์ วิ่งมาจากเลนที่ 2 พุ่งเข้าชนท้ายรถของผมอย่างแรง จนรถผมชนไปที่รถคันหน้าคือรถฟอร์ด และชนต่อไปอีก 4 คัน ความแรงของการชนทำให้รถผมกระเด็นมาอยู่ด้านหน้าสัญญาณไฟเขียวไฟแดงพอดี ความรู้สึกในขณะนั้นราวกับฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็ไม่ปาน หลังจากนั้น ผมได้ร้องเรียกให้คนช่วย ซึ่งก็มี ช่างเบียร์ และ พี่อีกคนหนึ่ง มาอุ้มผมออกจากตัวรถ ทางด้านหน้าต่างด้านคนขับ ผมต้องออกทางหน้าต่างรถ เพราะประตูด้านคนขับไม่สามารถเปิดได้ และรถผมก็ติดแก๊สแอลพีจีด้วย
พอผมออกจากรถมาแล้ว ผมก็มานั่งอยู่กลาง 4 แยกที่เกิดเหตุ ตอนนั้นผมมีสติสัมปชัญญะดีอยู่ ช่างเบียร์ได้มาเขียนเบอร์โทรศัพท์ที่มือของผมไว้ เขาบอกว่า เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง หากมีอะไรให้ติดต่อเขาได้ ในช่วงนั้นก็มีบรรดาไทยมุงมาดูเหตุการณ์จำนวนมาก เพราะเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงมาก มีรถที่ถูกชนกันทั้งหมด 7 คัน ส่วนคนขับรถสิบล้อได้เผ่นหนีไปตามระเบียบแล้ว (อันนี้เป็นระเบียบของรถสิบล้อ)
สักพักหนึ่ง มีคนตะโกนว่า แก๊สรั่ว ๆ เพราะรถผมเป็นรถใช้แก๊ส บรรดาผู้คนก็วิ่งหนีกัน ผมก็ตกใจเดินเท้าเปล่าออกมาหลบที่หน้าสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ก่อนจะมีรถดับเพลิงเอาน้ำมาฉีดที่รถผมเพื่อป้องกันแก๊สระเบิด
พอดีกับช่วงนั้นรถพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราช ได้มาจอดอยู่ที่กลาง 4 แยกพอดี ผมจึงได้ขึ้นรถพยาบาลโดยสภาพตัวเปล่าไม่ได้ใส่รองเท้า และไม่ได้เอาข้าวของอะไรออกมาจากรถสักชิ้นเดียว รถพยาบาลนำผมไปส่งที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา เพราะผมมีอาการเจ็บหน้าอก หมอนำผมไปเอ็กซเรย์กระดูกซี่โครงและเอ็กซเรย์สมอง โชคดีซี่โครงไม่หัก หรือสมองบอบช้ำแต่อย่างใด จะมีแต่อาการเจ็บที่หัวบวมปูด และรอยฟกช้ำดำเขียวที่ขาด้านซ้าย รวมถึงมีเลือดไหลที่มือทั้ง 2 ข้าง และที่เท้าด้านซ้าย ผู้จัดการร้านอาหารที่ผมมีหุ้นอยู่ 2 คน (คุณน้อยกับคุณเล็ก) ได้เข้ามาเยี่ยมผม และแม่ผมก็ตามมาเยี่ยม พร้อมทั้งนำตัวผมกลับบ้านเพราะหมอตรวจแล้ว ลงความเห็นว่าไม่ได้เป็นอะไรมากถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล รูปนี้เป็นรูปซากรถของผม หลังจากเกิดเหตุแล้ว สภาพรถพังยับเยิน ซ่อมไม่ได้ครับ ถ้ามีคนนั่งข้างหลังมากับผมด้วยในวันนั้น คงไม่รอดครับ ผมกลับมารักษาตัวที่บ้าน โดยหมอให้ยามากิน ผมรู้สึกเจ็บร้าวซี่โครงมากในช่วง 10 วันแรก ไม่สามารถทำอะไรได้เลย โดยปกติ ผมจะออกกำลังกายทุกวัน คือ วิ่งจ๊อกกิ้ง 6 รอบสนาม (7.5 กิโลเมตร), ชกกระสอบทราย 200 ครั้ง , เล่นบาร์คู่ 10 ครั้ง , เล่นบาร์เดี่ยว 5 ครั้ง , ซิทอัพ และ ยกน้ำหนัก ฯลฯ โดยผมไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เลย ที่พยายามทำได้มากที่สุดก็คือการเดินรอบสนามเท่านั้น
ในช่วง 10 วันแรก ผมปวดร้าวซี่โครงมาก แม่ผมจึงได้เปลี่ยนให้ผมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพได้ตรวจผมและบอกว่าซี่โครงกระดูกอ่อนหัก ต้องรักษาตัวประมาณ 2 เดือน โดยหมอให้ยามากิน ผมคิดว่าปาฏิหาริย์จากบุญบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ช่วยคุ้มครองผมไว้ ทำให้ผมไม่ถึงกับเสียชีวิต หรือ พิการ ทั้งๆ ที่รถผมพังยับเยิน ชนิดซ่อมไม่ได้ ดังภาพที่เอามาให้ดูกัน
รูปนี้เป็นรูปซากรถของผม หลังจากเกิดเหตุแล้ว สภาพรถพังยับเยิน ซ่อมไม่ได้ครับ ถ้ามีคนนั่งข้างหลังมากับผมด้วยในวันนั้น คงไม่รอดครับ
ที่ผมเอ่ยนาม “หลวงพ่อพุธ” ก็เพราะว่าผมได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของท่านมาตลอด ผมมีความซาบซึ้งและเห็นคุณค่าของคำสอนของหลวงพ่อเป็นอันมาก จึงได้จัดทำเว็บไซต์ของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย www.thaniyo.com และ www.thaniyo.net เพื่อเผยแพร่หลักธรรมของท่าน
และได้ทำสติกเกอร์ นำไปติดที่รถของผมรอบคันเลยครับ นับได้ 7 ตำแหน่ง ดังรูปภาพที่เอามาให้ดู
ผมใช้เวลาในการรักษาตัวนานถึง 3 เดือน จึงหายเป็นปรกติ ผมเชื่อว่าการได้ปฏิบัติธรรม สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้ ทำให้เรื่องหนักและร้ายแรง ให้เบาลงได้ ดังเหตุการณ์จริงที่ผมได้ประสบมา ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครเลยครับ บนโลกใบนี้
ถ้าท่านใดที่สนใจธรรมะ ขอเชิญชวนท่านมาปฏิบัติธรรมร่วมกันโดยเปิดดูเว็บไซต์ www.thaniyo.com หากท่านนำไปประพฤติปฏิบัติ ยึดถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตแล้ว ผลของการปฏิบัตินั้นย่อมเกิดกับท่านและครอบครัวของท่านแน่นอน รูปนี้เป็นรูปซากรถของผม หลังจากเกิดเหตุแล้ว สภาพรถพังยับเยิน ซ่อมไม่ได้ครับ ถ้ามีคนนั่งข้างหลังมากับผมด้วยในวันนั้น คงไม่รอดครับ รูปรถของผมตอนเกิดเหตุ เวลา ประมาณ 2 ทุ่ม ช่างเบียร์ เป็นคนถ่ายรูปไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือ ครับ ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครเลยครับ บนโลกใบนี้ เชิญชมรูปภาพรถยนต์ของผมที่พังยับเยิน ได้ที่
ขอแสดงความนับถือ นายวิโรจน์ จงขวัญยืน ลูกศิษย์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย โทร. 081-905-4000, 044-261404 อีเมล์
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
วิธีอยู่เหนือดวงชะตา (ถ้าดวงตก) 1. ถือศีล 5 ตลอดชีวิต (หาโอกาสถือศีล 8 หรือศีลอุโบสถบ้าง)
2. ถวายสังฆทานให้มากๆ (บ่อยๆ) ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าดวงกำลังตก หรือมีเคราะห์ ภายใน 3 วัน ต้องไม่ต่ำกว่า 7 วัด ถ้าได้ 9 วัดจะยิ่งดี ถ้าได้มากกว่านั้นจะดีเลิศ (หลังทำสังฆทาน อย่าลืมกรวดน้ำอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย)
3. ปล่อยนก ปลา เต่า หอยขม หอยโข่ง โค กระบือ หรือสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า ฯลฯ โดยด่วน (การกินเจ เป็นการละเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์ ถ้ากินเจได้ทุกวันยิ่งดีเลย ชะตาชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เห็นผลมาหลายรายแล้ว)
4. ทำบุญ ใส่บาตรพระทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 รูป ถ้าได้มากเท่าไรยิ่งดี (กรวดน้ำอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรด้วย)
5. สงเคราะห์คนชราที่เร่ร่อนขาดคนอุปถัมภ์เลี้ยงดู เด็กกำพร้า เด็กพิการ ผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ สม่ำเสมอ
6. ให้ทานคนขอทาน คนยากจน คนตกยาก โดยเต็มใจและเมตตาสงสารอย่างแท้จริง และฝึกเป็นผู้ให้จนติดเป็นนิสัย คนขอทานที่ร่างกายไม่พิการ แต่จิตวิญญาณและสมองของเขาพิการและถูกปิดโดยกรรมเก่าหรือกรรมปัจจุบัน ให้เป็นเช่นนั้นได้ คือต้องมาขอทาน เพื่อสอนให้คนรู้จักการให้
7. มีความจริงใจ บริสุทธิ์ใจกับทุกๆคน ให้อภัยผู้อื่นเสมอ มองหาแต่ความผิด ความบกพร่องของตนเอง และพยายามแก้ไขจนสำเร็จในที่สุด (ข้อนี้สำคัญที่สุด) คนเลวคนชั่วจะมองหาแต่ความเลวของผู้อื่น
8. สวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น เป็นประจำสม่ำเสมอ (อานิสงส์ที่เห็นได้ชัดคือ จะมีความอุดมสมบูรณ์ในเครื่องบริโภค)
9. ไม่นินทาว่าร้าย อิจฉาริษยาผู้อื่นเมื่อเขาผิดพลาด หรือได้ดีกว่าตน มองแต่ความผิดพลาดบกพร่องของตนเอง และพยายามแก้ไข การกล่าวโทษว่าร้ายผู้อื่นถึงแม้จะจริงก็ตาม เราก็จะได้รับผลตามที่ตำหนิติเตียนหรือกล่าวร้ายเขาหนักยิ่งกว่าหลายเท่า
10. ไม่ถือสา โกรธเคืองผู้ใด หรือผูกอาฆาตพยาบาท จองเวรใคร เพราะผู้ที่ทำให้เราโกรธหรือไม่พอใจ เป็นการทำบาป ทำผิด หรือโง่อยู่แล้วที่ทำพฤติกรรมนั้น ถ้าเราโกรธตอบแสดงว่าเราก็เลวเช่นเดียวกับเขาเช่นกัน และยิ่งเลวกว่า 2 เท่า เพราะรู้แล้วยังทำอีก ให้แผ่เมตตาหรือวางเฉย (จงให้อภัยผู้อื่น เหมือนอย่างที่เราต้องการให้ผู้อื่นให้อภัยเรา เมื่อเราทำผิดพลาด)
11. ให้พยายามทำใจให้รักเมตตาสงสารคนและสัตว์ทุกๆคน เพราะเขาเกิดมาก็เป็นทุกข์ เช่นเดียวกับเรา คือทุกข์เพราะการเกิด ความแก่ ความเจ็บป่วย ความตาย ความพลัดพราก จากของรัก ความไม่สมหวัง ในทุกๆสิ่งที่ปรารถนา (ได้มาแล้วย่อมเสียไป) ในที่สุดเพราะความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง อยู่กับเราชั่วขณะหนึ่งแล้วแปรเปลี่ยนไป ในที่สุดเช่นนี้ทุกๆสรรพสิ่งในโลกนี้
12. ทุกครั้งที่ทำความดี จะรู้สึกมีความสุข อิ่มใจ สดชื่น แจ่มใส ขณะนั้นบุญกุศลเกิดเต็มเปี่ยม จงแบ่งความสุขเหล่านั้นคือผลบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร โดยการไม่ลืมอุทิศผลบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกๆครั้งด้วย และแถมท้ายด้วยขออโหสิกรรมกับเขาด้วย เสร็จแล้วแผ่เมตตาอุทิศผลบุญกุศลให้พ่อแม่ ผู้มีพระคุณต่อเราทุกๆคนด้วย
13. ถ้ามีโอกาสและมีเงินพอ ให้เดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเป็นที่ประเทศไทย, อินเดีย, ศรีลังกา หรือ ประเทศจีนก็ได้
14. แจกหนังสือธรรมะ หรือ CD ธรรมะ เป็นวิทยาทาน โดยไม่หวังผลตอบแทน