Saturday, 22 May 2010 02:55 |
พระธรรมเทศนา โดยหลวงพ่อพุธ ฐานิโย การทานอาหารถือมังสวิรัติ ถือเป็นหลักธรรมของชาวพุทธควรปฏิบัติก็ได้ ถ้าใครมีศรัทธาปฏิบัติได้ แต่ในเมื่อเราถือมังสวิรัติแล้ว อย่าเอามังสวิรัติ ไปเที่ยวกล่าวตำหนิคนที่เขาไม่ถือมังสวิรัติ ถ้าเราถือมังสวิรัติ ถือว่าเป็นข้อปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่แล้วไปเที่ยวตำหนิคนอื่นว่าใครกินเนื้อกินหนังเป็นเสือ อะไรต่ออะไรละก็ อันนั้นมันเป็นการกล่าวคำหยาบ อุตส่าห์อดเนื้ออดหนัง แต่ไปเที่ยวด่าคนอื่นด้วยคำหยาบคาย มันขาดทุน เพราะคำหยาบมันผิดศีลข้อมุสา เป็นฉายาแห่งมุสาวาท วจีทุจริตอย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าใครมีศรัทธาอย่างไร จะปฏิบัติทางศาสนาก็ปฏิบัติได้ แต่ถือว่าเป็นหลักขัดเกลากิเลสของตัวเอง ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อจะเอาคุณธรรมอันนี้ไปเที่ยวข่มขู่ ให้ทำจิตใจให้เป็นกลาง
การบริจาคที่จะได้บุญนั้นจำเป็นไหมที่จะต้องบริจาคกับพระพุทธศาสนา
การบริจาคที่จะได้บุญนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องบริจาคในพระพุทธศาสนาก็ได้ สาธารณะประโยชน์ก็ได้ หลวงพ่อบริจาคสตางค์ไปตั้งมูลนิธิให้ รพ.มหาราช ที่เมืองนครราชสีมา สตางค์กัณฑ์เทศน์ที่ญาติโยมใส่กัณฑ์เทศน์ไปนี้แหละ ไปตั้งมูลนิธิให้เขาในปี พ.ศ. 2526 ได้ทุนมูลนิธิถึงเก้าแสนบาท พ.ศ. 2527 ดอกผลมันออกมาได้ล้านเศษ ทีนี้บุญก็ปรากฏทันตา พระเณรอาตมา ไปโรงพยาบาลยังกะเทวดาไป ไปถึงแล้วไม่ต้องไปนั่งรอคิว พอรู้พระวัดป่าสาลวันมา ลัดคิวไปเลย นี้คือบุญ การสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล สร้างสาธารณะประโยชน์ได้บุญทั้งนั้น แต่ว่าการสร้างบุญสร้างกุศลนี้ เราจะนึกเอาแต่บุญอย่างเดียวก็ไม่ค่อยดีนัก ให้เอากุศล คือความฉลาดด้วย การให้ทานเป็นอุบายขจัดความโลภ อันเป็นตัวกิเลสสำคัญ
ทีนี้การบริจาคในพระพุทธศาสนากับการบริจาคให้องค์การกุศล เช่น คนทุกข์ยากลำบากต่างๆ จะได้บุญเหมือนกับในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ก็ได้บุญเหมือนกับพระพุทธศาสนาเหมือนกัน เพราะเรารู้จักทำบุญสุนทานเพราะพระพุทธเจ้าสอนเรา เราก็อาศัยหลักธรรมในพุทธศาสนานั้นแหละ ไปเป็นเครื่องอุปกรณ์การทำบุญนั้น ๆ
|