Saturday, 02 January 2010 00:46 |
แก้กรรม พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ชีวิตทุกชีวิตมันขึ้นอยู่กับกฎของกรรม สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าสอนว่าสิ่งนี้มันเป็นบาปพระองค์เคยทำบาปสิ่งนี้ตกนรกมาแล้ว สิ่งนี้เป็นบุญพระองค์เคยทำบุญขึ้นสวรรค์มาแล้ว การบำเพ็ญตบะบำเพ็ญฌานได้สำเร็จฌานสมาบัติตายแล้วไปเกิดเป็นพระพรหม ในพรหมโลก พระองค์ก็เคยปฏิบัติมาก่อนแล้ว เรื่องบุพเพนิวาสานุสติญาณการระลึกชาติในหนหลังได้ทำให้พระองค์รู้สิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นคำสอนของพระองค์นี้มันจึงเป็นสัจจธรรมเพราะเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ลองของมาแล้วด้วยตนเอง อย่างที่ท่านมาสอนให้เราบำเพ็ญเพียรภาวนาให้เราบรรลุอริยมรรคอริยผล พระองค์ก็ปฏิบัติสำเร็จมาก่อนแล้วจึงได้มาสอนเรา ไม่ใช่ลักษณะที่ว่านอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาเทศน์สอน ล้วนแต่พระองค์เอาของจริงมาว่ากันทั้งนั้น
วิถีชีวิตของคนเราจะผิดหวังสมหวังมีสุขมีทุกข์มั่งมียากดีมีจนอย่างไร มันขึ้นอยู่กับกฎของกรรม แต่ถ้าไปหาหมอโหรเขาว่าดวงชะตามันตก แต่แท้ที่จริงกฎของกรรมอันเป็นบาปซึ่งเราอาจจะทำแต่ชาติก่อนภพก่อนมันให้ผล แล้วทีนี้เราจะไปแก้กรรม แก้ผลของกรรมนี่มันแก้ไม่ได้ ใครทำกรรมใดไว้ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น จะดีก็ตามชั่วก็ตาม แต่พิธีกรรมที่เขาให้ทำนั้น บางอย่างถ้ามันถูกต้องเป็นแนวทางแห่งบุญกุศล พอเราทำแล้วมันได้บุญ บุญนี้ก็ต่อวิถีชีวิตของเราให้ยืนยาวไปอีกสักพักหนึ่ง เมื่อหมดบุญแล้ว กรรมเก่าที่มันวิ่งตามอยู่เหมือนกับหมาไล่เนื้อ มันทันเมื่อไรมันก็กระโดดกัดเมื่อนั้น
เพราะฉะนั้น การสะเดาะเคราะห์ การแก้กรรมแก้เวร เราจะตัดกรรมตัดเวรก็รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ ทีนี้กรรมที่เราทำนั้นผลของมันไม่มีใครตัดได้ แต่เวรคือความผูกพยาบาทอาฆาต อันนี้เราสามารถตัดได้ถ้าหากว่าเราพูดจาตกลงกันได้ เช่นอย่างคนข้างบ้านเคยด่ากันอยู่ทุกวัน ๆ ๆ ต่างคนต่างก็อาฆาตพยาบาทจองเวรซึ่งกันและกัน ถ้าหากว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วเรายกโทษให้กัน อันนี้เรียกว่า ตัดเวร คือตัดความผูกพยาบาทอาฆาต แต่ว่าผลกรรมที่เราด่าเขา เขาด่าเรา นั่นมันตัดไม่ได้
|