ข้อปฏิบัติของพระพุทธองค์ |
Sunday, 03 May 2009 02:23 | |
หน้าที่และกิจวัตรของพระภิกษุ สามเณร แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันกำหนดเป็นกาลพิเศษก็ตาม แต่เราก็ยังยึดหลักปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาเป็นเรื่องชีวิตประจำวัน แต่ที่จัดให้มีเป็นกรณีพิเศษนั้น เพื่อเป็นนโยบายส่งเสริมการปฏิบัติซึ่งมีพื้นฐานดั้งเดิมอยู่แล้วให้มีสมรรถภาพดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการทำให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร มีหน้าที่ที่จะต้องแสดงอัธยาศัยไมตรี แสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในหลักวิชาการและวิธีการปฏิบัติ อันเป็นตัวอย่างแก่อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาตามความรู้สึกของพระสงฆ์นั้น ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ของเราโดยตรง แม้แต่การฟังเทศน์ฟังธรรมในวันธรรมสวนะ ก็เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรหรืออุบาสกอุบาสิกาผู้อยู่ในเขตรั้ววัดโดยเฉพาะ แม้ชาวบ้านข้างนอกเขาจะไม่มาร่วม แต่ก็เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องทำเป็นกิจวัตรประจำวัน จารีตประเพณีของครูบาอาจารย์ในสายธุดงคกรรมฐานนี้ ท่านจะต้องถือว่าการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาเป็นหัวใจงานและเป็นหน้าที่โดยตรงสำหรับพระภิกษุสงฆ์ วันธรรมดาก็ดี วันธรรมสวนะก็ดี แม้ไม่มีใครมาร่วม คนภายนอกไม่มาร่วม แต่พระสงฆ์ท่านก็ทำของท่านเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว ถ้าหากว่าพระภิกษุสงฆ์สามเณรของเรามีความรู้สึกตระหนักในหน้าที่และจารีตประเพณีของครูบาอาจารย์ดังกล่าว เราจะไม่มีการเกี่ยงว่าไม่มีใครมาฟังเทศน์ ไม่มีใครมาร่วมทำวัตรสวดมนต์ ไม่มีใครมาร่วมศึกษาปฏิบัติธรรม แต่เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องทำ ดังนั้น การที่มีผู้มีน้ำจิตน้ำใจมาตั้งศูนย์สมาธิวิปัสสนาขึ้น อันนั้นเป็นความหวังดีและเป็นความปรารถนาดีของท่านผู้มีจิตใจซาบซึ้งในคุณธรรมอันเป็นคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเราไม่ละเมิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง พลังของกิเลสที่มันสุมอยู่ในจิตใจของเรามันจะลดกำลังลง เพราะเราไม่ปฏิบัติตามใจมัน การที่เราไม่ปฏิบัติตามใจของกิเลส โลภ เราไม่ลักไม่ขโมย จี้ปล้น โกรธ เราไม่ด่าไม่ตี พยายามอดกลั้นทนทานต่ออำนาจกิเลสนั้นๆ ไม่ละเมิดล่วงเกิน จะเป็นการฝึกหัดดัดนิสัยให้คล่องตัวต่อการตั้งเจตนางดเว้นความชั่วตามกฎของศีล ๕ ประการ เมื่อท่านที่ทำศีล ๕ ประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้ว ภาระที่จะต้องไปละความรู้สึกมีกิเลสในจิตในใจนั้นไม่ต้อง… ไม่ต้องกังวล กังวลอยู่ตรงเพียงแค่ว่าเราไม่ทำอะไรตามอำนาจของกิเลสเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้น กิเลสมันจะค่อยอ่อนกำลังลงทุกทีๆ เพราะนิสัยเคยชิน ผู้ที่มีความปรารถนาที่จะอบรมอุปนิสัยใจคอของตนเองให้มีความละเอียดยิ่งขึ้นไปกว่านี้ พระพุทธเจ้าท่านไม่รับประทานอาหารในเวลาวิกาล เราก็งดเว้น พระพุทธเจ้าท่านรักษาความสะอาดแต่เพียงร่างกาย ไม่ประดับตกแต่ง ไม่ยินดีในการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี หรือดูการละเล่นเป็นเสี้ยนหนาม เราก็ปฏิบัติตามอย่างพระองค์ท่าน พระพุทธเจ้าท่านไม่นอนบนที่นอนที่สูง ที่นอนอันใหญ่ ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลี เพราะจะเป็นเหตุให้เกิดความสุขสบายจนเกินไป เป็นเหตุให้ติด เราก็ต้องทำตามอย่างพระพุทธเจ้า จึงจะได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าและเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อละความชั่ว ละบาปอกุศล
|
|
Last Updated on Sunday, 03 May 2009 02:36 |